เป็นวัณโรคซ้ำซาก
ผมเคยป่วยโรควัณโรคปอดถึง 2 ครั้ง ป่วยครั้งแรก ทานยามาปีกว่าๆ ครั้งที่สอง ทานยามา 6 เดือน เลยรู้สึก ทานยามาก กังวลเรื่องสารพิษจากยาตกค้างในตับ อยากทราบว่าผมจะตรวจเลือดเพื่อเช็คค่าตับว่าดีอยู่มั้ย แบบนี้ได้หรือไม่ครับ
........................................
ตอบครับ
1. เป็นความจริงที่ว่ายารักษาวัณโรคมีพิษต่อตับมาก แต่ปกติหมอที่สั่งยาวัณโรคให้คุณ เขาจะต้องเจาะเลือดตรวจการทำงานของตับทุกเดือนอยู่แล้ว การที่เขาให้ยามาได้ตั้ง 6 เดือนนี่ก็แสดงว่าตับของคุณยังดีอยู่ น่าจะคลายกังวลได้ แต่ถ้าคุณยังอยากจะรู้ว่าตับยังดีอยู่ไหมก็ไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลได้ โดยเจาะจงให้เขาตรวจหาเอ็นไซม์ของตับชื่อ SGPT และ SGPT ถ้าตับได้รับพิษจากยามาก เซลตับจะตายและมีเอ็นไซม์สองตัวนี้ออกมาในเลือด (ค่าปกติคือไม่เกิน 40 U/L)
2. คุณเป็นวัณโรคเบิ้ลถึงสองครั้ง เป็นเรื่องที่พบได้ไม่บ่อยในคนทั่วไป อย่าลืมแอบไปเจาะเลือดดู HIV ด้วยนะครับ เพราะคนเป็นเอดส์มักจะติดเชื้อวัณโรคได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ถ้าเจาะได้ HIV ได้ผลบวก ก็จะได้รักษาเอดส์เสียให้เป็นเรื่องเป็นราว
3. ถ้าเจาะ HIV แล้วได้ผลลบ หมายความว่าไม่ได้เป็นเอดส์ แต่เป็นวัณโรคบ่อย การบ้านที่จะต้องทำก็คือการฟูมฟักภูมิคุ้มกันของตัวเองละครับ นั่นคือ
3.1 ต้องออกกำลังกาย ให้ได้ระดับมาตรฐาน คือออกกำลังกายแบบต่อเนื่องให้หนักจนเหนื่อยหอบแฮ่กๆร้องเพลงไม่ได้ นาน 30 นาทีสัปดาห์ละ 5 วัน บวกเล่นกล้ามอีกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
3.2 ปรับโภชนาการลดการทานอาหารที่มีแต่แคลอรี่ (ข้าว แป้ง ไขมัน) หันมาทานผักผลไม้มากๆ วันละเป็นถาด ทางโภชนาการเขานับว่าให้ได้วันละ 5 เสริฟวิ่ง (หนึ่งเสริฟวิ่งเท่ากับสลัดหนึ่งจาน หรือผลไม้ลูกโตเช่นแอปเปิ้ลหนึ่งลูก)
3.3 จัดเวลาพักผ่อนให้พอ นอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง และจัดการความเครียดให้ดี
3.4 ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ถามหมอว่าตัวคุณมีปัจจัยเสี่ยงสุขภาพอะไรเป็นพิเศษบ้าง เช่นน้ำหนักมากไปหรือน้อยไป ความดันโอเคไหม น้ำตาลในเลือด ไขมันในเลือด โอเคไหม ถ้าตัวไหนไม่โอเค.ก็ถามหมอว่าจะจัดการกับมันอย่างไร
3.5 คุณเป็นโรคเรื้อรัง ต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี และต้องฉีดวัคซีนป้องกันปอดบวมชนิดรุกล้ำ (IPD) อย่างน้อยหนึ่งเข็ม (ครั้งเดียว)นี่เป็นมาตรฐานสากลในการป้องกันโรคสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ถ้าไปหาหมอแล้วหมอไม่ยอมฉีดวัคซีนให้ แสดงว่าหมอคนนั้นอาจจะไม่มีความรู้เรื่องวัคซีน ให้ไปเสาะหาความเห็นของหมอคนอื่นดู
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
........................................
ตอบครับ
1. เป็นความจริงที่ว่ายารักษาวัณโรคมีพิษต่อตับมาก แต่ปกติหมอที่สั่งยาวัณโรคให้คุณ เขาจะต้องเจาะเลือดตรวจการทำงานของตับทุกเดือนอยู่แล้ว การที่เขาให้ยามาได้ตั้ง 6 เดือนนี่ก็แสดงว่าตับของคุณยังดีอยู่ น่าจะคลายกังวลได้ แต่ถ้าคุณยังอยากจะรู้ว่าตับยังดีอยู่ไหมก็ไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลได้ โดยเจาะจงให้เขาตรวจหาเอ็นไซม์ของตับชื่อ SGPT และ SGPT ถ้าตับได้รับพิษจากยามาก เซลตับจะตายและมีเอ็นไซม์สองตัวนี้ออกมาในเลือด (ค่าปกติคือไม่เกิน 40 U/L)
2. คุณเป็นวัณโรคเบิ้ลถึงสองครั้ง เป็นเรื่องที่พบได้ไม่บ่อยในคนทั่วไป อย่าลืมแอบไปเจาะเลือดดู HIV ด้วยนะครับ เพราะคนเป็นเอดส์มักจะติดเชื้อวัณโรคได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ถ้าเจาะได้ HIV ได้ผลบวก ก็จะได้รักษาเอดส์เสียให้เป็นเรื่องเป็นราว
3. ถ้าเจาะ HIV แล้วได้ผลลบ หมายความว่าไม่ได้เป็นเอดส์ แต่เป็นวัณโรคบ่อย การบ้านที่จะต้องทำก็คือการฟูมฟักภูมิคุ้มกันของตัวเองละครับ นั่นคือ
3.1 ต้องออกกำลังกาย ให้ได้ระดับมาตรฐาน คือออกกำลังกายแบบต่อเนื่องให้หนักจนเหนื่อยหอบแฮ่กๆร้องเพลงไม่ได้ นาน 30 นาทีสัปดาห์ละ 5 วัน บวกเล่นกล้ามอีกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
3.2 ปรับโภชนาการลดการทานอาหารที่มีแต่แคลอรี่ (ข้าว แป้ง ไขมัน) หันมาทานผักผลไม้มากๆ วันละเป็นถาด ทางโภชนาการเขานับว่าให้ได้วันละ 5 เสริฟวิ่ง (หนึ่งเสริฟวิ่งเท่ากับสลัดหนึ่งจาน หรือผลไม้ลูกโตเช่นแอปเปิ้ลหนึ่งลูก)
3.3 จัดเวลาพักผ่อนให้พอ นอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง และจัดการความเครียดให้ดี
3.4 ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ถามหมอว่าตัวคุณมีปัจจัยเสี่ยงสุขภาพอะไรเป็นพิเศษบ้าง เช่นน้ำหนักมากไปหรือน้อยไป ความดันโอเคไหม น้ำตาลในเลือด ไขมันในเลือด โอเคไหม ถ้าตัวไหนไม่โอเค.ก็ถามหมอว่าจะจัดการกับมันอย่างไร
3.5 คุณเป็นโรคเรื้อรัง ต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี และต้องฉีดวัคซีนป้องกันปอดบวมชนิดรุกล้ำ (IPD) อย่างน้อยหนึ่งเข็ม (ครั้งเดียว)นี่เป็นมาตรฐานสากลในการป้องกันโรคสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ถ้าไปหาหมอแล้วหมอไม่ยอมฉีดวัคซีนให้ แสดงว่าหมอคนนั้นอาจจะไม่มีความรู้เรื่องวัคซีน ให้ไปเสาะหาความเห็นของหมอคนอื่นดู
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์