ปวดข้อ หมอกระดูก รูมาติสซั่ม ไฮโปไทรอยด์..ยุ่ง
มีอาการปวดตามข้อมาประมาณ 2 เดือนได้แล้วค่ะ ไปพบคุณหมอด้านกระดูกและข้อแล้วคุณหมอเจาะเลือดไปตรวจ 3 ครั้ง ครั้งแรกผลออกมามีอาการของเลือดจางและมีการอักเสบของข้อสูง คุณหมอบอกว่าอาจจะเป็นโรค "sle" แต่สุดท้ายคุณหมอก็บอกว่าเป็นโรค"รูมาติสซั่ม" โดยให้ทานยา fbc tap ,prednisolone 5 mg (1 เม็ด 1 ครั้ง),mobic (meloxicam) 7.5 mg ,synflex (naproxen sodium) 275 mg ยาตัวหลังคุณหมอเปลี่ยนเป็นยา mobic แล้วค่ะ แต่ดิฉันไม่แน่ใจค่ะว่าจะใช่มั๊ยเพราะดิฉันเป็นโรคไฮโปไทรอยด์อยู่และทานฮอร์โมนไทรอยด์มาได้ประมาณหกปีแล้ว ดิฉันสงสัยว่าที่ดิฉันมีอาการมันจะเกี่ยวกับยาไทรอยด์รึเปล่าคะ แล้วดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ ควรทานยาที่คุณหมอให้มาหรือควรหยุดยาดีคะ คุณหมอช่วยตอบดิฉันหน่อยนะคะเพราะดิฉันปวดมากเลยตอนนี้
ตอบครับ
คำว่ารูมาติสซึ่มนี้ทางแพทย์เขาไม่ใช้กันแล้วนะครับ เพราะมันเป็นภาษาโบราณที่ใช้เรียกอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อสะเปะสะปะ บ้างก็พาลใช้เรียกอาการปวดกล้ามเนื้อและเอ็นแบบกึ่งปสด.ที่เรียกว่า fibromyalgia ไปด้วย สมัยนี้ถ้าเป็นโรคในกลุ่มนี้จริงจังเขาเรียกว่าเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis) แต่เอาเถอะ ผมไม่ว่าคุณหรอก เพราะขนาดชื่ออย่างเป็นทางการของสมาคมอายุรแพทย์โรคข้อยังชื่อว่า “สมาคมรูมาติสซั่มแห่งประเทศไทย” อยู่เลยครับ แคว่กๆๆๆ ตะแล้น ตะแล้น ตะแล้น
ขอโทษ นอกเรื่อง มาตอบคำถามของคุณดีกว่า
1. อาการปวดข้อที่เป็นเกี่ยวกับยาไทรอยด์หรือเปล่า ตอบว่าอาการปวดข้อ. หมดแรง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดไปทั่ว ( widespread pain ) เป็นอาการของไฮโปไทรอยด์ แต่ไม่เกี่ยวกับยาฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ที่คุณกินรักษาไฮโปไทรอยด์ครับ
2. คำถามที่ผมขออนุญาตถามแทรกคือโรคไฮโปไทรอยด์ของคุณที่ว่ารักษามาหกปีนั้นเอาอยู่หรือยัง ระดับฮอร์โมน TSH ที่เป็นตัววัดความสำเร็จของการรักษาลงมาเป็นปกติหรือยัง เพราะถ้ายัง อาการปวดข้อก็ไม่หาย แล้วที่ผมแปลกใจเล็กน้อยก็คือหมอไทรอยด์กับหมอข้อเนี่ยเขาเป็นมนุษย์คนละพันธ์กันนะครับ ที่คุณไปรักษากับหมอโรคข้อนั้น หมอไทรอยด์เขาส่งตัวคุณไปหรือเปล่า หรือคุณไปเสาะหาหมอดียาดีเอาเอง ถ้าเป็นคุณไปเสาะหาเองโดยหมอเขาไม่ได้ส่งต่อข้อมูลให้กันก็มีแนวโน้มที่คุณจะโดนรักษาแบบ “ดับเบิ้ลอาร์เอ็กซ์” เข้าแล้ว หมายความว่าหมอโน่นก็เอาที หมอนี่ก็เอาอีกที คนละเรื่องเดียวกัน คนละตุ๊บ คนละตั๊บ ผลก็คือ คุณโดนยาน่วมละสิครับ
3. ถามว่าจะทำอย่างไรดี จะหยุดยา หรือจะกินยา ตอบว่าคุณไปทำให้หมอสองคน (หมอไทรอยด์กับหมอข้อ) เขารู้ข้อมูลของกันและกันก่อน ถามจนเขาทั้งคู่ตอบเหมือนกันเด๊ะว่าคุณเป็นโรคอะไรก่อน แล้วจึงจะกินยา ถ้าเขาพูดไม่เหมือนกัน หรือเขาไม่ยอมพูดกัน คราวนี้คุณมีทางเลือกสองทางแล้วละครับ คือไปหาหมอคู่ใหม่ที่ยอมพูดกัน หรือไม่คุณก็เป็นหมอร่วมแจมเสียเอง กรณีคุณเป็นหมอร่วมแจมเสียเอง ผมแนะนำให้ถอยกลับไปตั้งต้นที่สนามหลวง ไปหาหมอไทรอยด์ รักษาไฮโปไทรอยด์ให้อยู่ก่อน ตัวบอกว่าอยู่ไม่อยู่ก็คือค่า TSH ต้องกลับมาเป็นปกติก่อน ถ้าTSH เป็นปกติแล้วอาการปวดข้อยังอยู่ ค่อยไปหาหมอข้อ ถึงตอนนั้นหมอข้อจะวินิจฉัยว่าเป็น SLE หรือเป็นข้ออักเสบรูมาตอยด์ ค่อยมาว่ากัน ถึงตอนนั้นไม่ยาก เพราะเกณฑ์วินิจฉัยมาตรฐานมันมีอยู่ ถึงถ้าวินิจฉัยแยกกันไม่ออก ก็ไม่ซีเรียส เพราะการรักษามันคล้ายๆกัน ไว้เคลียร์เรื่องไฮโปไทรอยด์แล้วคุณเขียนมาหาผมอีกทีก็ได้
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
ตอบครับ
คำว่ารูมาติสซึ่มนี้ทางแพทย์เขาไม่ใช้กันแล้วนะครับ เพราะมันเป็นภาษาโบราณที่ใช้เรียกอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อสะเปะสะปะ บ้างก็พาลใช้เรียกอาการปวดกล้ามเนื้อและเอ็นแบบกึ่งปสด.ที่เรียกว่า fibromyalgia ไปด้วย สมัยนี้ถ้าเป็นโรคในกลุ่มนี้จริงจังเขาเรียกว่าเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis) แต่เอาเถอะ ผมไม่ว่าคุณหรอก เพราะขนาดชื่ออย่างเป็นทางการของสมาคมอายุรแพทย์โรคข้อยังชื่อว่า “สมาคมรูมาติสซั่มแห่งประเทศไทย” อยู่เลยครับ แคว่กๆๆๆ ตะแล้น ตะแล้น ตะแล้น
ขอโทษ นอกเรื่อง มาตอบคำถามของคุณดีกว่า
1. อาการปวดข้อที่เป็นเกี่ยวกับยาไทรอยด์หรือเปล่า ตอบว่าอาการปวดข้อ. หมดแรง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดไปทั่ว ( widespread pain ) เป็นอาการของไฮโปไทรอยด์ แต่ไม่เกี่ยวกับยาฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ที่คุณกินรักษาไฮโปไทรอยด์ครับ
2. คำถามที่ผมขออนุญาตถามแทรกคือโรคไฮโปไทรอยด์ของคุณที่ว่ารักษามาหกปีนั้นเอาอยู่หรือยัง ระดับฮอร์โมน TSH ที่เป็นตัววัดความสำเร็จของการรักษาลงมาเป็นปกติหรือยัง เพราะถ้ายัง อาการปวดข้อก็ไม่หาย แล้วที่ผมแปลกใจเล็กน้อยก็คือหมอไทรอยด์กับหมอข้อเนี่ยเขาเป็นมนุษย์คนละพันธ์กันนะครับ ที่คุณไปรักษากับหมอโรคข้อนั้น หมอไทรอยด์เขาส่งตัวคุณไปหรือเปล่า หรือคุณไปเสาะหาหมอดียาดีเอาเอง ถ้าเป็นคุณไปเสาะหาเองโดยหมอเขาไม่ได้ส่งต่อข้อมูลให้กันก็มีแนวโน้มที่คุณจะโดนรักษาแบบ “ดับเบิ้ลอาร์เอ็กซ์” เข้าแล้ว หมายความว่าหมอโน่นก็เอาที หมอนี่ก็เอาอีกที คนละเรื่องเดียวกัน คนละตุ๊บ คนละตั๊บ ผลก็คือ คุณโดนยาน่วมละสิครับ
3. ถามว่าจะทำอย่างไรดี จะหยุดยา หรือจะกินยา ตอบว่าคุณไปทำให้หมอสองคน (หมอไทรอยด์กับหมอข้อ) เขารู้ข้อมูลของกันและกันก่อน ถามจนเขาทั้งคู่ตอบเหมือนกันเด๊ะว่าคุณเป็นโรคอะไรก่อน แล้วจึงจะกินยา ถ้าเขาพูดไม่เหมือนกัน หรือเขาไม่ยอมพูดกัน คราวนี้คุณมีทางเลือกสองทางแล้วละครับ คือไปหาหมอคู่ใหม่ที่ยอมพูดกัน หรือไม่คุณก็เป็นหมอร่วมแจมเสียเอง กรณีคุณเป็นหมอร่วมแจมเสียเอง ผมแนะนำให้ถอยกลับไปตั้งต้นที่สนามหลวง ไปหาหมอไทรอยด์ รักษาไฮโปไทรอยด์ให้อยู่ก่อน ตัวบอกว่าอยู่ไม่อยู่ก็คือค่า TSH ต้องกลับมาเป็นปกติก่อน ถ้าTSH เป็นปกติแล้วอาการปวดข้อยังอยู่ ค่อยไปหาหมอข้อ ถึงตอนนั้นหมอข้อจะวินิจฉัยว่าเป็น SLE หรือเป็นข้ออักเสบรูมาตอยด์ ค่อยมาว่ากัน ถึงตอนนั้นไม่ยาก เพราะเกณฑ์วินิจฉัยมาตรฐานมันมีอยู่ ถึงถ้าวินิจฉัยแยกกันไม่ออก ก็ไม่ซีเรียส เพราะการรักษามันคล้ายๆกัน ไว้เคลียร์เรื่องไฮโปไทรอยด์แล้วคุณเขียนมาหาผมอีกทีก็ได้
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์