หลอดเลือดหดตัว ถึงตายได้เลยหรือ?
(ภาพวันนี้: ศรีตรังกับเฟื่องฟ้าที่หลังห้องนอนเวลเนสวีแคร์)
เรียนคุณหมอสันต์
ผมอายุ 51 ปี เมื่อพย.65 หลังอาหารเย็นนั่งดูไอแพ็ดอยู่ ผมมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกขึ้นมาทันที รอดูตามที่คุณหมอแนะนำนาน 20 นาทีแล้วก็ยิ่งแย่เหมือนใกล้จะตาย เมียบอกผมหน้าซีดเหงื่อแตกเต็มหน้า จึงรีบไปโรงพยาบาล … หมอตรวจคลื่นหัวใจและว่าเป็น Acute MI จึงสวนหัวใจทันทีโดยให้ผมยินยอมใส่ขดลวดหรือทำบายพาสถ้าจำเป็น แต่พอสวนหัวใจไปแล้วกลับไม่พบอะไร ผมบอกหมอว่าอาการเจ็บหน้าอกผมลดลงแล้ว แต่หมอให้รีรออยู่บนเตียงผ่าตัดราวครึ่งชั่วโมงผมก็เจ็บแน่นหน้าอกขึ้นมาอีก หมอก็ฉีดสีอีก คราวนี้พบว่าหลอดเลือดข้างหน้าหดตัวตีบแคบจนสีเข้าไปไม่ได้ หมอฉีดยาขยายหลอดเลือดแล้วทุกอย่างก็ดีขึ้น ผมนอนโรงพยาบาล 7 วันจึงได้กลับบ้านพร้อมกับยาอีกเพียบจากเดิมที่ไม่เคยกินยาเลย (หมดไปสี่แสน) หมอบอกว่าผมเป็นโรค Syndrome X มีการหดตัวของหลอดเลือดหัวใจ และบอกผมว่าอย่าเครียดแต่ผมเองไม่เห็นว่าผมจะเครียดอะไร ผมอยากปรึกษาคุณหมอสันต์ว่าโรคของผมนี้ควรจะปฏิบัติตัวต่อไปอย่างไรดี เพราะที่หมอโรงพยาบาลสั่งเสียมาก็มีแค่กินยาลดไขมัน ลดความดัน ยาขยายหลอดเลือด ยาแก้เจ็บหน้าอก ยาแอสไพริน ให้ลดความอ้วน และห้ามเครียด แล้วนัดทุกเดือนเหมือนการรักษาโรค heart attack ทั่วไป แต่ผมรู้สึกว่าน่าจะมีอะไรที่ผมควรทำมากกว่านั้นและผมอยากมีความรู้เรื่องนี้มากขึ้นด้วย จึงขอรบกวนคุณหมอครับ
ขอบพระคุณครับ
…………………………………………………………………..
ตอบครับ
1.. ถามว่าโรค Syndrome X คืออะไร ตอบว่าชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าไม่รู้ว่ามันคืออะไร วงการแพทย์ได้แต่เดาเอาว่าคืออาการเจ็บแน่นหน้าอกจากหัวใจขาดเลือดที่เกิดจากโรคในระดับหลอดเลือดฝอยที่ฉีดสีวินิจฉัยไม่ได้เพราะเรามองไม่เห็นหลอดเลือดฝอยด้วยตาเปล่า นี่เป็นมั้งศาสตร์นะ สาเหตุแท้จริงไม่มีใครทราบ
ยังมีอึกวินิจฉัยอีกคำหนึ่งอาจจะเหมาะกับกรณีของคุณมากกว่าคือคำว่า coronary spasm ซึ่งแปลว่าหลอดเลือดหัวใจหดตัวรุนแรง เพราะในกรณีของคุณนี้การสวนหัวใจครั้งที่สองมีหลักฐานชัดว่าหลอดเลือดเกิด spasm ขึ้นพอแก้ด้วยยาขยายหลอดเลือดก็หายไปชั่วคราว
2.. ถามว่าอะไรเป็นเหตุให้หลอดเลือดหัวใจหดตัวรุนแรงหรือ spasm ตอบว่าอาจแบ่งได้เป็นสามเหตุใหญ่ๆนะ คือ
2.1 กลไกการบีบและขยายหลอดเลือดโดยระบบประสาทอัตโนมัติ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าผนังหลอดเลือดซึ่งมีสามชั้น ชั้นกลางชื่อ tunica media เป็นชั้นของกล้ามเนื้อบีบหลอดเลือดซึ่งควบคุมโดยเส้นประสาทอัตโนมัติ ซึ่งทำงานถ่วงดุลกันระหว่างขา “เร่ง (sympathetic)” และขา “หน่วง (parasympathetic)” ปัจจัยใหญ่สองตัวที่จะทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติบีบหลอดเลือดก็คือภาวะที่ร่างกายขาดน้ำ (dehydration) กับภาวะเครียดหรือถูกคุกคามใกล้เลือดตกยางออก
2.2 กลไกการขยายหลอดเลือดโดยไนตริกอ๊อกไซด์ กลไกนี้เป็นกลไกที่อาจจะสำคัญที่สุดแต่คนทั่วไปไม่ทราบ กล่าวคือผนังชั้นในสุดของหลอดเลือดชื่อ endothelium ทำหน้าที่ผลิตสารเคมีชื่อไนตริกออกไซด์ ( nitric oxide) ออกมาทำให้หลอดเลือดขยายตัว ฤทธิ์ของไนตริกออกไซด์เป็นฤทธิ์ขยายตัวหลอดเลือดที่แรงที่สุดในบรรดาสารเคมีทุกชนิดที่ร่างกายมี และวงการแพทย์ใช้ไนตริกออกไซด์แก้ปัญหาวิกฤติให้แก่ผู้ป่วยหัวใจในไอซียูมานานแล้ว การที่ร่างกายจะทำการผลิตไนตริกออกไซด์ได้ดีต้องอาศัยเซลเยื่อบุที่ทำงานได้ดี มีสารอาหารที่เป็นโมเลกุลตั้งต้นการผลิตที่เพียงพอ และอาศัยการสร้างเซลต้นกำเนิดเยื่อบุใหม่ชื่อ endothelial progenitor cell (EPC) ซึ่งสร้างที่ไขกระดูกแล้วเอามาทำงานที่เยื่อบุหลอดเลือด ซึ่งทั้งหมดนี้ได้จากการกินอาหารแบบพืชเป็นหลัก
งานวิจัยหนึ่งทำที่ญี่ปุ่นตีพิมพ์ในวารสาร Atherosclerosis เอาคนญี่ปุ่นที่เกาะโอกินาวามาแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งกินปกติ อีกกลุ่มหนึ่งส่งผักพื้นบ้านโอกินาวาให้กินถึงบ้านวันละห้าเสริฟวิ่งทุกวันนาน 2 สัปดาห์ พบว่ากลุ่มกินผักมีการเพิ่มปริมาณของเซล EPC มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มระดับโปตัสเซียม แมกนีเซียม โฟเลท และลดระดับของเสียโฮโมซีสเตอีนซึ่งเป็นอีกเหตุหนึ่งของโรคหลอดเลือดได้มากกว่าอีกด้วย
2.3 การกระตุ้นโดยสารพิษที่เยื่อบุหลอดเลือด เช่น บุหรี่ ยาฆ่าหญ้าหรือยาฆ่าแมลง ไขมันในเลือดในปริมาณสูง เกลือ (sodium) ในเลือดในปริมาณสูง เป็นต้น
สรุปว่า นอกจากที่หมอเขาแนะนำให้ลดความเครียดและกินยาแล้ว สิ่งที่คุณจะทำได้ก็คือการเปลี่ยนอาหารจากการกินเนื้อสัตว์เป็นหลักมากินพืชเป็นหลัก หรือกินมังสวิรัติได้ยิ่งดี เพราะคนอย่างคุณนี้ชีวิตแขวนอยู่กับกลไกการทำงานของไนตริกออกไซด์เป็นสำคัญซึ่งกลไกนั้นต้องการอาหารพืช นอกจากนั้นยังควรระวังปัจจัยกระตุ้นให้หลอดเลือดหดตัวอันได้แก่ (1) ร่างกายขาดน้ำ (2) ความเครียด (3) สารพิษเช่นบุหรี่ ยาฆ่าหญ้า (4) ไขมันในเลือดสูง (5) กินเกลือมาก
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
- Mano R, Ishida A, Ohya Y, Todoriki H, Takishita S. Dietary intervention with Okinawan vegetables increased circulating endothelial progenitor cells in healthy young women. Atherosclerosis. 2009 Jun;204(2):544-8. doi: 10.1016/j.atherosclerosis.2008.09.035. Epub 2008 Oct 11. PMID: 19013573.
……………………………………………………….