แฟนพันธุ์แท้บล็อกหมอสันต์ต้องให้ได้อย่างนี้
เรียนคุณหมอสันต์
ปัจจุบันผมอายุ 78 ปี ออกกำลังสัปดาห์ละ 4 วัน ว่ายน้ำวันละ 1,000 เมตร ราวๆ 1 ชั่วโมง และออกกำลังยกน้ำหนัก 20 นาทีผมติดตามรายการต่างๆของคุณหมอเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย มีความประทับใจมาก มีคำถามดังนี้ครับ
1. รายการต่างๆที่ทำเป็นคลิบมีดารรวบรวมเป็นวีดีโอไหมครับ
2. ผมไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพื่อตรวจสุขภาพทั่วไป คุณหมอให้ตรวจ calcium score โดยใช้ ct scan ผลที่ได้ คือ 1600 คุณหมอบอกว่าเกินจากค่าปกติมาก ซึ่งต้องไม่เกิน 400 แสดงว่ามี แคลเซียมเกาะที่เส้นเลือดมาก คุณหมอให้กินยา Klakay 15 mg วันละ 1 เม็ดเพื่อสลายแคลเซียม
ผมมีคำถามที่ต้องรบกวนคุณหมอครับ
1. การวัดค่า calcium score บอกอะไรในร่างกายเราบ้าง และการวัดค่านี้มีความแม่นยำที่จะบอกได้แน่นอนไหมครับว่าเส้นเลือดเรามีปัญหา
2. เราควรจะดูแลหรือรักษาแบบไหนครับ
ผลเลือด
Fbs 112, A1c 6.0, Bun 15.5, Creatine 1.11, Triglyceride 75, HDL 45, Total Cholesterol 226, PSA 3.17
SGPT 29, SGOT 36, LDL 100
( ทานยา LIVALIO 2 mg ) วันละ1 เม็ด Hanal 0.4 mg ทุกวัน( ทานมา เลย5 ปี) กำลังคิดว่าจะเลิกได้หรือไม่) วิตามินB12 Neuronet วันละ 2 เม็ด วิตามิน Coq 10, 100mg วันละเม็ด Fish oil วันละเม็ด
หมอที่ดูแลเรื่องหัวใจให้วิ่งสายพาน10 นาที ก็ไม่มีปัญหา แต่หมอก็สั่งยา Apolets 75 mg กินละเม็ด
ตอนนี้ผมงดอาหารมื้อเย็น แต่ทานผลไม้แทน น้ำหนักลงลง 2 กก เหลือ 63กก
HDL จะต่ำไปเมื่อเทียบกับเพื่อนๆที่ออกกำลังกายด้วยกัน เขาได้เกิน 60 มีทางเพิ่มจากอาหารไหมครับ เพราะออกกำลังกายมากกว่านี้ไม่ไหวครับ
เรียนขอคำปรึกษา และความเห็นจากคุณหมอครับว่าผมควรจะปรับตัวอย่างไรบ้าง
ขอแสดงความนับถือมายังคุณหมอที่ให้ความรู้กับพวกเราตลอดมาครับ
(ชื่อ) .....
Sent from my iPhone
.......................................................
ตอบครับ
ก่อนจะตอบคำถามของคุณ ผมขอชี้ให้ท่านผู้อ่านท่านอื่นเห็นจะๆชัดๆโดยทั่วกันก่อนนะ ว่าแฟนพันธุ์แท้ของบล็อกหมอสันต์ต้องให้ได้อย่างนี้สิครับ ถึงจะเป็นแฟนพันธุ์แท้จริงๆ อายุ 78 ปี แต่ยังว่ายน้ำครั้งละ 1,000 เมตร ยกน้ำหนักครั้งละ 20 นาที สัปดาห์ละ 4 ครั้ง ผมชี้ให้ท่านผู้อ่านท่านอื่นเอาเยี่ยงอย่างนะ แต่ไม่ต้องเอาให้ได้ดีถึงขนาดนี้ก็ได้ หากถึงเวลาที่ท่านอายุ 78 ปีขอแค่ท่าน "เดิน" ได้วันละ 1,000 เมตร เล่นกล้ามด้วยวิธีกายบริหารย็อกๆแย็กๆวันละ 15 นาที แค่นี้ผมก็ถือว่าหรูแล้ว
เอาละ มาตอบคำถาม
1. ถามว่ารายการสอนต่างๆของผมที่ทำเป็นคลิป มีการรวบรวมเป็นวีดีโอไหม ตอบว่าเคยมีแต่เรื่องการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงวัยครับ แต่สงสัยว่าจะหมดไปแล้ว หรือไม่ก็ยัดซอกหลืบใต้ลิ้นชักไหนสักแห่งในเวลเนสวีแคร์ เอาเป็นว่าผมจะหารือน้องๆทำเป็นวิดิโอ.ขึ้นมาใหม่ ได้เมื่อไหร่แล้วจะบอก
2. ถามว่าการวัดค่า calcium score (CAC) บอกอะไรได้แม่นยำแค่ไหนว่าเส้นเลือดเรามีปัญหา ตอบว่า CAC บอกได้ว่าหลอดเลือดของเราเป็นโรคแล้ว มีความไว (sensitivity) และความจำเพาะ (specificity) มากกว่าการบอกด้วยปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ และมากกว่าการวิ่งสายพาน (EST) แต่น้อยกว่าการตรวจภาพหลอดเลือดด้วยคอมพิวเตอร์ (coronary CTA) แต่มีข้อจำกัดที่มันเป็นเพียงการบอกว่าเป็นโรคในเชิงกายวิภาค (anatomy) หรือภาพของหลอดเลืือดเท่านั้น ไม่ได้บอกถึงการเป็นโรคในเชิงสรีรวิทยา (หมายถึงไม่บอกในเชิงว่าจะมีอาการต่างๆของโรคมากหรือน้อย)
3. ถามว่ารู้ตัวว่าเป็นโรคหลอดเลือดแล้วควรจะดูแลตัวเองอย่างไร ตอบว่าควรดูแลตัวเองด้วยการจัดการปัจจัยเสี่ยงของโรคด้วยตัวเอง โดยใช้ดัชนีง่ายๆเจ็ดตัว (Simple Seven) คือน้ำหนัก ความดัน ไขมัน น้ำตาล การกินผักผลไม้ การออกกำลังกาย และการสูบบุหรี่ เพราะมีหลักฐานว่าทำเช่นนี้จะลดอัตราตายก่อนวัยอันควรได้ถึง 91% แม้ว่าสถิตินี้อาจใช้กับท่านไม่ถนัดนัก เพราะเขานิยามว่าตายก่อนวัยอันควรหมายถึงตายก่อนอายุ 70 ปี ของคุณ 78 ปีแล้ว ยังไงก็ถือว่าใช้สถิตินี้แบบอนุโลมก็แล้วกัน
ในกรณีเป็นโรคมากแล้วเช่นตัวคุณนี้ ผมแนะนำให้เน้นการกินอาหารเป็นพิเศษ โดยเน้นกินอาหารที่มีพืชเป็นหลักและมีไขมันต่ำ (plant based low fat diet) ไม่ผัดไม่ทอดเลยยิ่งดี กินเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุดโดยเลิกเนื้อของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (red meat) อาหารแบบนี้มีหลักฐานว่าทำให้โรคระดับเป็นมากแล้วถอยกลับได้ โดยส่วนตัวแล้วสำหรับคนที่เป็นโรคมาก ผมให้ความสำคัญของอาหารถึง 70% อย่างอื่นแค่ 30%
4. ถามว่าการใช้วิตามินเค. (Klakay) สลายแคลเซียมที่หลอดเลือดจะได้ผลไหม ตอบว่ามันเป็นเพียงคอนเซ็พท์ที่คิดกันขึ้นมาจากผลวิจัยในแล็บ ข้อมูลจริงในคนยังสับสนเปะปะสรุปภาพรวมไม่ได้ และยังไม่มีงานวิจัยระดับสูงพิสูจน์ยืนยัน คำถามนี้จึงยังตอบไม่ได้ แต่คุณอยากกินวิตามินเค.ก็กินไปเถอะ ไม่มีอะไรเสียหายดอก
5. ถามว่าอยากมี HDL สูงเกิน 60 อย่างเพื่อนๆเขา ควรทำอย่างไรดี ตอบว่าเรื่อง HDL นี้ขอให้ทำความเข้าใจแยกเป็น 3 ประเด็น คือ
ประเด็นที่ 1. HDL มีคุณค่าเป็นเพียงตัวพยากรณ์โรค หมายความว่าคน HDL สูงพยากรณ์ได้ว่าอนาคตมีโอกาสเป็นโรคต่่ำ แต่ไม่มีคุณค่าในการติดตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะ HDL จะสูงจะต่ำเป็นเรื่องติดตัวแต่ละคนมา ไม่ใช่ปัจจัยที่จะปรับเปลี่ยนได้ด้วยพฤติกรรมหรือการกินอาหาร วงการแพทย์จึงไม่ใช้ HDL เป็นตัวชี้วัดในการรักษา
ประเด็นที่ 2. การจงใจเพิ่ม HDL ด้วยยา วงการแพทย์เคยทำมาแล้วโดยใช้ยาเช่น nicotinic acid แต่ผลปรากฎว่าคนที่กินยาให้ HDL สูงขึ้นกลับตายมากขึ้นกว่าคนไม่กินยา เช่นเดียวกัน อาหารเพิ่ม HDL คือไขมันอิ่มตัวซึ่งเป็นไขมันก่อโรค ซึ่งกินแล้วเสียมากกว่าได้ ดังนั้นใครที่ HDL สูงอยู่แล้วก็ดีแล้ว แต่ใครที่ HDL ต่ำไม่ต้องไปสนใจลุ้นให้มันสูง ให้สนใจลด LDL อย่างเดียวก็พอ
ประเด็นที่ 3. การออกกำลังกายอาจเพิ่ม HDL ในบางคนได้บ้าง แต่ในคนส่วนใหญ่ระดับ HDL ไม่เปลี่ยนแปลงโดยสัมพันธ์กับระดับการออกกำลังกาย ดังนั้นอย่าใช้ HDL เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของการออกกำลังกาย
ุ6. ถามว่าจะเลิกยารักษาต่อมลูกหมาก Hanal ตอบว่าเลิกได้ ตำรวจไม่จับหรอก ยานี้ไม่ใช่ยารักษาโรค มันเป็นเพียงยาบรรเทาอาการฉี่ออกยาก หากคุณไม่มีอาการก็เลิกได้ ยานี้ถ้ากินนานๆไปร่างกายมันจะด้านยา ดังนั้นวิธีกินทีี่ดีที่สุดคือกินๆหยุดๆ ช่วยอาการน้อยก็ลดหรือหยุด ช่วงอาการมากก็กินสม่ำเสมอ การหยุดยาจะทำได้ง่ายขึ้นถ้าคุณหัดขมิบ ขมิบหน้า (ฉี่) ขมิบหลัง (อึ) แรงๆวันละ 100 ครั้ง นานสักสามเดือนรับรองเลิกยาได้แน่
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
ปัจจุบันผมอายุ 78 ปี ออกกำลังสัปดาห์ละ 4 วัน ว่ายน้ำวันละ 1,000 เมตร ราวๆ 1 ชั่วโมง และออกกำลังยกน้ำหนัก 20 นาทีผมติดตามรายการต่างๆของคุณหมอเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย มีความประทับใจมาก มีคำถามดังนี้ครับ
1. รายการต่างๆที่ทำเป็นคลิบมีดารรวบรวมเป็นวีดีโอไหมครับ
2. ผมไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพื่อตรวจสุขภาพทั่วไป คุณหมอให้ตรวจ calcium score โดยใช้ ct scan ผลที่ได้ คือ 1600 คุณหมอบอกว่าเกินจากค่าปกติมาก ซึ่งต้องไม่เกิน 400 แสดงว่ามี แคลเซียมเกาะที่เส้นเลือดมาก คุณหมอให้กินยา Klakay 15 mg วันละ 1 เม็ดเพื่อสลายแคลเซียม
ผมมีคำถามที่ต้องรบกวนคุณหมอครับ
1. การวัดค่า calcium score บอกอะไรในร่างกายเราบ้าง และการวัดค่านี้มีความแม่นยำที่จะบอกได้แน่นอนไหมครับว่าเส้นเลือดเรามีปัญหา
2. เราควรจะดูแลหรือรักษาแบบไหนครับ
ผลเลือด
Fbs 112, A1c 6.0, Bun 15.5, Creatine 1.11, Triglyceride 75, HDL 45, Total Cholesterol 226, PSA 3.17
SGPT 29, SGOT 36, LDL 100
( ทานยา LIVALIO 2 mg ) วันละ1 เม็ด Hanal 0.4 mg ทุกวัน( ทานมา เลย5 ปี) กำลังคิดว่าจะเลิกได้หรือไม่) วิตามินB12 Neuronet วันละ 2 เม็ด วิตามิน Coq 10, 100mg วันละเม็ด Fish oil วันละเม็ด
หมอที่ดูแลเรื่องหัวใจให้วิ่งสายพาน10 นาที ก็ไม่มีปัญหา แต่หมอก็สั่งยา Apolets 75 mg กินละเม็ด
ตอนนี้ผมงดอาหารมื้อเย็น แต่ทานผลไม้แทน น้ำหนักลงลง 2 กก เหลือ 63กก
HDL จะต่ำไปเมื่อเทียบกับเพื่อนๆที่ออกกำลังกายด้วยกัน เขาได้เกิน 60 มีทางเพิ่มจากอาหารไหมครับ เพราะออกกำลังกายมากกว่านี้ไม่ไหวครับ
เรียนขอคำปรึกษา และความเห็นจากคุณหมอครับว่าผมควรจะปรับตัวอย่างไรบ้าง
ขอแสดงความนับถือมายังคุณหมอที่ให้ความรู้กับพวกเราตลอดมาครับ
(ชื่อ) .....
Sent from my iPhone
.......................................................
ตอบครับ
ก่อนจะตอบคำถามของคุณ ผมขอชี้ให้ท่านผู้อ่านท่านอื่นเห็นจะๆชัดๆโดยทั่วกันก่อนนะ ว่าแฟนพันธุ์แท้ของบล็อกหมอสันต์ต้องให้ได้อย่างนี้สิครับ ถึงจะเป็นแฟนพันธุ์แท้จริงๆ อายุ 78 ปี แต่ยังว่ายน้ำครั้งละ 1,000 เมตร ยกน้ำหนักครั้งละ 20 นาที สัปดาห์ละ 4 ครั้ง ผมชี้ให้ท่านผู้อ่านท่านอื่นเอาเยี่ยงอย่างนะ แต่ไม่ต้องเอาให้ได้ดีถึงขนาดนี้ก็ได้ หากถึงเวลาที่ท่านอายุ 78 ปีขอแค่ท่าน "เดิน" ได้วันละ 1,000 เมตร เล่นกล้ามด้วยวิธีกายบริหารย็อกๆแย็กๆวันละ 15 นาที แค่นี้ผมก็ถือว่าหรูแล้ว
เอาละ มาตอบคำถาม
1. ถามว่ารายการสอนต่างๆของผมที่ทำเป็นคลิป มีการรวบรวมเป็นวีดีโอไหม ตอบว่าเคยมีแต่เรื่องการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงวัยครับ แต่สงสัยว่าจะหมดไปแล้ว หรือไม่ก็ยัดซอกหลืบใต้ลิ้นชักไหนสักแห่งในเวลเนสวีแคร์ เอาเป็นว่าผมจะหารือน้องๆทำเป็นวิดิโอ.ขึ้นมาใหม่ ได้เมื่อไหร่แล้วจะบอก
2. ถามว่าการวัดค่า calcium score (CAC) บอกอะไรได้แม่นยำแค่ไหนว่าเส้นเลือดเรามีปัญหา ตอบว่า CAC บอกได้ว่าหลอดเลือดของเราเป็นโรคแล้ว มีความไว (sensitivity) และความจำเพาะ (specificity) มากกว่าการบอกด้วยปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ และมากกว่าการวิ่งสายพาน (EST) แต่น้อยกว่าการตรวจภาพหลอดเลือดด้วยคอมพิวเตอร์ (coronary CTA) แต่มีข้อจำกัดที่มันเป็นเพียงการบอกว่าเป็นโรคในเชิงกายวิภาค (anatomy) หรือภาพของหลอดเลืือดเท่านั้น ไม่ได้บอกถึงการเป็นโรคในเชิงสรีรวิทยา (หมายถึงไม่บอกในเชิงว่าจะมีอาการต่างๆของโรคมากหรือน้อย)
3. ถามว่ารู้ตัวว่าเป็นโรคหลอดเลือดแล้วควรจะดูแลตัวเองอย่างไร ตอบว่าควรดูแลตัวเองด้วยการจัดการปัจจัยเสี่ยงของโรคด้วยตัวเอง โดยใช้ดัชนีง่ายๆเจ็ดตัว (Simple Seven) คือน้ำหนัก ความดัน ไขมัน น้ำตาล การกินผักผลไม้ การออกกำลังกาย และการสูบบุหรี่ เพราะมีหลักฐานว่าทำเช่นนี้จะลดอัตราตายก่อนวัยอันควรได้ถึง 91% แม้ว่าสถิตินี้อาจใช้กับท่านไม่ถนัดนัก เพราะเขานิยามว่าตายก่อนวัยอันควรหมายถึงตายก่อนอายุ 70 ปี ของคุณ 78 ปีแล้ว ยังไงก็ถือว่าใช้สถิตินี้แบบอนุโลมก็แล้วกัน
ในกรณีเป็นโรคมากแล้วเช่นตัวคุณนี้ ผมแนะนำให้เน้นการกินอาหารเป็นพิเศษ โดยเน้นกินอาหารที่มีพืชเป็นหลักและมีไขมันต่ำ (plant based low fat diet) ไม่ผัดไม่ทอดเลยยิ่งดี กินเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุดโดยเลิกเนื้อของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (red meat) อาหารแบบนี้มีหลักฐานว่าทำให้โรคระดับเป็นมากแล้วถอยกลับได้ โดยส่วนตัวแล้วสำหรับคนที่เป็นโรคมาก ผมให้ความสำคัญของอาหารถึง 70% อย่างอื่นแค่ 30%
4. ถามว่าการใช้วิตามินเค. (Klakay) สลายแคลเซียมที่หลอดเลือดจะได้ผลไหม ตอบว่ามันเป็นเพียงคอนเซ็พท์ที่คิดกันขึ้นมาจากผลวิจัยในแล็บ ข้อมูลจริงในคนยังสับสนเปะปะสรุปภาพรวมไม่ได้ และยังไม่มีงานวิจัยระดับสูงพิสูจน์ยืนยัน คำถามนี้จึงยังตอบไม่ได้ แต่คุณอยากกินวิตามินเค.ก็กินไปเถอะ ไม่มีอะไรเสียหายดอก
5. ถามว่าอยากมี HDL สูงเกิน 60 อย่างเพื่อนๆเขา ควรทำอย่างไรดี ตอบว่าเรื่อง HDL นี้ขอให้ทำความเข้าใจแยกเป็น 3 ประเด็น คือ
ประเด็นที่ 1. HDL มีคุณค่าเป็นเพียงตัวพยากรณ์โรค หมายความว่าคน HDL สูงพยากรณ์ได้ว่าอนาคตมีโอกาสเป็นโรคต่่ำ แต่ไม่มีคุณค่าในการติดตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะ HDL จะสูงจะต่ำเป็นเรื่องติดตัวแต่ละคนมา ไม่ใช่ปัจจัยที่จะปรับเปลี่ยนได้ด้วยพฤติกรรมหรือการกินอาหาร วงการแพทย์จึงไม่ใช้ HDL เป็นตัวชี้วัดในการรักษา
ประเด็นที่ 2. การจงใจเพิ่ม HDL ด้วยยา วงการแพทย์เคยทำมาแล้วโดยใช้ยาเช่น nicotinic acid แต่ผลปรากฎว่าคนที่กินยาให้ HDL สูงขึ้นกลับตายมากขึ้นกว่าคนไม่กินยา เช่นเดียวกัน อาหารเพิ่ม HDL คือไขมันอิ่มตัวซึ่งเป็นไขมันก่อโรค ซึ่งกินแล้วเสียมากกว่าได้ ดังนั้นใครที่ HDL สูงอยู่แล้วก็ดีแล้ว แต่ใครที่ HDL ต่ำไม่ต้องไปสนใจลุ้นให้มันสูง ให้สนใจลด LDL อย่างเดียวก็พอ
ประเด็นที่ 3. การออกกำลังกายอาจเพิ่ม HDL ในบางคนได้บ้าง แต่ในคนส่วนใหญ่ระดับ HDL ไม่เปลี่ยนแปลงโดยสัมพันธ์กับระดับการออกกำลังกาย ดังนั้นอย่าใช้ HDL เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของการออกกำลังกาย
ุ6. ถามว่าจะเลิกยารักษาต่อมลูกหมาก Hanal ตอบว่าเลิกได้ ตำรวจไม่จับหรอก ยานี้ไม่ใช่ยารักษาโรค มันเป็นเพียงยาบรรเทาอาการฉี่ออกยาก หากคุณไม่มีอาการก็เลิกได้ ยานี้ถ้ากินนานๆไปร่างกายมันจะด้านยา ดังนั้นวิธีกินทีี่ดีที่สุดคือกินๆหยุดๆ ช่วยอาการน้อยก็ลดหรือหยุด ช่วงอาการมากก็กินสม่ำเสมอ การหยุดยาจะทำได้ง่ายขึ้นถ้าคุณหัดขมิบ ขมิบหน้า (ฉี่) ขมิบหลัง (อึ) แรงๆวันละ 100 ครั้ง นานสักสามเดือนรับรองเลิกยาได้แน่
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์