แก้ไขเวียนหัวบ้านหมุนด้วยตัวเองด้วย Epley Maneuver
เรียนคุณหมอ
มีอาการเวียนหัวและมึนๆงงๆอยู่หลายวัน ไปหาหมอ หมอจับเอียงซ้ายเอียงขวาลุกๆนั่งๆ แป๊บเดียวแล้วอาการหายเป็นปลิดทิ้งเลย จึงอยากเอาวิธีนั้นมารักษาตัวเองที่บ้านเผื่อครั้งหน้าเป็นอีกจะได้ไหม อยากถามคุณหมอสันต์ว่าต้องทำอย่างไร ทำเองแล้วจะมีอันตรายหรือเปล่า
...................................................
ตอบครับ
อาการเวียนหัวบ้านหมุน อาจเป็นโรคใดโรคหนึ่งในสามโรคต่อไปนี้ คือ
1. โรคเวียนหัวชั่วคราวเพราะท่าร่าง หรือ BPPV ซึ่งย่อมาจาก benign paroxysmal positional vertigo – บางครั้งหมอก็เรียกง่ายว่าโรคมีนิ่วที่น้ำในหูชั้นใน อาการของ BPPV คือมีอาการเวียนหัวบ้านหมุนประเดี๋ยวประด๋าวตอนหันคอหรือเปลี่ยนท่าร่าง พอพักสักครู่ก็ทุเลาลงหรืือหายไป หรือหันหน้าเร็วๆแล้วเป็น อาจเป็นๆหายๆ อาจเป็นซ้ำบ่อยๆได้
2. โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Ménière disease) เป็นโรคความผิดปกติของหูชั้นใน ที่อยู่ๆน้ำในหู (endolypmphatic system) ก็เกิดมีความดันสูงขึ้น น้ำในหูนี้ร่างกายขังไว้ในช่องจำกัดมีรูเลี้ยวต่อไปมาหากันได้เพื่อใช้วัดทิศทางการเคลื่อนไหว เมื่อมีเหตุอะไรก็ตามทำให้ความดันน้ำนี้สูงขึ้น ก็จะมีอาการหูตึง เวียนหัวบ้านหมุนเป็นๆหายๆ มีเสียงวิ๊งๆในหู และแน่นหู มักเป็นอยู่นานและเรื้อรัง สาเหตุที่ความดันน้ำในหูสูงขึ้นอาจเกิดจากการบาดเจ็บ จากยา จากการติดเชื้อ จากโรคพยาธิ จากไขมันในเลือดสูง จากภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง การเสียดุลสารเกลือแร่ จากฮอร์โมน ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นมาโดยหาสาเหตุไม่พบ
3. โรคไมเกรน เป็นโรคปวดศีรษะในกลุ่มไม่ทราบเหตุ ที่มีอาการเป็นเอกลักษณ์คือปวดหัวแบบตึ๊บๆ (vascular headache) ปวดครั้งหนึ่งกินเวลา 4-72 ชม. มักมีอาการนำ (aura) ที่เกิดจากการเสียการทำงานของระบบประสาทเป็นการชั่วคราวเช่นเห็นแสงสีวูบวาบ มักมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัวบ้านหมุน มักเป็นข้างเดียว มักเป็นกรรมพันธุ์ มักมีอาการแพ้แสง นอนไม่หลับ และซึมเศร้า ร่วมด้วย หรือมีการอดนอน หรือการอยู่ในภาวะซึมเศร้าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการ
กรณีของคุณนี้หมอเขาวินิจฉัยว่าเป็นโรคเวียนหัวชั่วคราวเพราะท่าร่าง (BPPV) และเขารักษาด้วยวิธีของหมอเอ็ปเลย์ (Epley maneuver) คอนเซ็พท์ของหมอเอ็ปเลย์คือ PBBV เกิดจากเกิดตะกอนหรือผลึกขึ้นที่น้ำในหูแล้วไปกระตุ้นหูชั้นในตรงที่ไวทำให้เวียนหัว วิธีรักษาของเขาคือหาทางกลิ้งเอาผลึกนั้นออกไปจากหูชั้นในบริเวณนั้น วิธีกลิ้งก็ต้องมีลีลาหันไปหันมาเล็กน้อยเพราะหูชั้นในมันมีรูปทรงประหลาดคือเป็นวงแหวนกลมสามวงตั้งฉากต่อกันและกันโดยที่น้ำในหูซึ่งอยู่ในวงแหวนทั้งสามนั้นสามารถไหลเชื่อมต่อกันได้หมด คุณจะใช้วิธีนี้รักษาตัวเองที่บ้านก็ได้ วิธีการมีดังนี้
ถ้าอาการบ้านหมุนเกิดจากหูซ้าย ให้
1. นั่งขอบเตียง หันหน้าไปทางซ้าย 45 องศา คือหันไปแต่ไม่ถึงหัวไหล่
2. วางหมอนบนพื้นที่นอน กะว่าเมื่อนอนหงายแล้วหมอนจะอยู่ตรงระดับไหล่ไม่ใช่ระดับศีรษะ หรือจะใช้วิธีนั่งบนเตียงโดยกะตำแหน่งที่เมื่อนอนหงายแล้วศีรษะจะพ้นขอบเตียงออกไปก็ได้ จากนั้นให้นอนหงายลงอย่างรวดเร็ว แล้วนิ่งอยู่ในท่านี้ 30 วินาที
3. หันหน้าไปทางขวา 45 องศา (เท่ากับหันไปจากตำแหน่งเดิม 90 องศา) โดยยังไม่ยกหัวขึ้น นิ่งอยู่อีก 30 วินาที
4. พลิกนอนตะแคงเอาลำตัวข้างขวาลงโดยยังเหลียวขวาอยู่เหมือนเดิม เท่ากับว่าตอนนี้หน้าเหลียวมองพื้น นิ่งอยู่อีก 30 วินาที
5. ค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนเตียงอีกนานสองสามนาที
ถ้าอาการบ้านหมุมมาจากหูขวา ให้ทำแบบเดียวกันแต่กลับข้าง คือกลับข้างซ้ายเป็นข้างขวา
การรักษาตัวเองด้วยวิธีนี้ไม่มีอันตรายอะไร อย่างมากก็ทำให้คุณเวียนหัวมากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็สมควรส่งต่อตัวเองไปหาหมอหูคอจมูกตัวจริง
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. Epley JM. The canalith repositioning procedure: for treatment of benign paroxysmal positional vertigo. Otolaryngol Head Neck Surg. 1992 Sep. 107(3):399-404.
มีอาการเวียนหัวและมึนๆงงๆอยู่หลายวัน ไปหาหมอ หมอจับเอียงซ้ายเอียงขวาลุกๆนั่งๆ แป๊บเดียวแล้วอาการหายเป็นปลิดทิ้งเลย จึงอยากเอาวิธีนั้นมารักษาตัวเองที่บ้านเผื่อครั้งหน้าเป็นอีกจะได้ไหม อยากถามคุณหมอสันต์ว่าต้องทำอย่างไร ทำเองแล้วจะมีอันตรายหรือเปล่า
...................................................
ตอบครับ
อาการเวียนหัวบ้านหมุน อาจเป็นโรคใดโรคหนึ่งในสามโรคต่อไปนี้ คือ
1. โรคเวียนหัวชั่วคราวเพราะท่าร่าง หรือ BPPV ซึ่งย่อมาจาก benign paroxysmal positional vertigo – บางครั้งหมอก็เรียกง่ายว่าโรคมีนิ่วที่น้ำในหูชั้นใน อาการของ BPPV คือมีอาการเวียนหัวบ้านหมุนประเดี๋ยวประด๋าวตอนหันคอหรือเปลี่ยนท่าร่าง พอพักสักครู่ก็ทุเลาลงหรืือหายไป หรือหันหน้าเร็วๆแล้วเป็น อาจเป็นๆหายๆ อาจเป็นซ้ำบ่อยๆได้
2. โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Ménière disease) เป็นโรคความผิดปกติของหูชั้นใน ที่อยู่ๆน้ำในหู (endolypmphatic system) ก็เกิดมีความดันสูงขึ้น น้ำในหูนี้ร่างกายขังไว้ในช่องจำกัดมีรูเลี้ยวต่อไปมาหากันได้เพื่อใช้วัดทิศทางการเคลื่อนไหว เมื่อมีเหตุอะไรก็ตามทำให้ความดันน้ำนี้สูงขึ้น ก็จะมีอาการหูตึง เวียนหัวบ้านหมุนเป็นๆหายๆ มีเสียงวิ๊งๆในหู และแน่นหู มักเป็นอยู่นานและเรื้อรัง สาเหตุที่ความดันน้ำในหูสูงขึ้นอาจเกิดจากการบาดเจ็บ จากยา จากการติดเชื้อ จากโรคพยาธิ จากไขมันในเลือดสูง จากภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง การเสียดุลสารเกลือแร่ จากฮอร์โมน ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นมาโดยหาสาเหตุไม่พบ
3. โรคไมเกรน เป็นโรคปวดศีรษะในกลุ่มไม่ทราบเหตุ ที่มีอาการเป็นเอกลักษณ์คือปวดหัวแบบตึ๊บๆ (vascular headache) ปวดครั้งหนึ่งกินเวลา 4-72 ชม. มักมีอาการนำ (aura) ที่เกิดจากการเสียการทำงานของระบบประสาทเป็นการชั่วคราวเช่นเห็นแสงสีวูบวาบ มักมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัวบ้านหมุน มักเป็นข้างเดียว มักเป็นกรรมพันธุ์ มักมีอาการแพ้แสง นอนไม่หลับ และซึมเศร้า ร่วมด้วย หรือมีการอดนอน หรือการอยู่ในภาวะซึมเศร้าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการ
กรณีของคุณนี้หมอเขาวินิจฉัยว่าเป็นโรคเวียนหัวชั่วคราวเพราะท่าร่าง (BPPV) และเขารักษาด้วยวิธีของหมอเอ็ปเลย์ (Epley maneuver) คอนเซ็พท์ของหมอเอ็ปเลย์คือ PBBV เกิดจากเกิดตะกอนหรือผลึกขึ้นที่น้ำในหูแล้วไปกระตุ้นหูชั้นในตรงที่ไวทำให้เวียนหัว วิธีรักษาของเขาคือหาทางกลิ้งเอาผลึกนั้นออกไปจากหูชั้นในบริเวณนั้น วิธีกลิ้งก็ต้องมีลีลาหันไปหันมาเล็กน้อยเพราะหูชั้นในมันมีรูปทรงประหลาดคือเป็นวงแหวนกลมสามวงตั้งฉากต่อกันและกันโดยที่น้ำในหูซึ่งอยู่ในวงแหวนทั้งสามนั้นสามารถไหลเชื่อมต่อกันได้หมด คุณจะใช้วิธีนี้รักษาตัวเองที่บ้านก็ได้ วิธีการมีดังนี้
ถ้าอาการบ้านหมุนเกิดจากหูซ้าย ให้
1. นั่งขอบเตียง หันหน้าไปทางซ้าย 45 องศา คือหันไปแต่ไม่ถึงหัวไหล่
2. วางหมอนบนพื้นที่นอน กะว่าเมื่อนอนหงายแล้วหมอนจะอยู่ตรงระดับไหล่ไม่ใช่ระดับศีรษะ หรือจะใช้วิธีนั่งบนเตียงโดยกะตำแหน่งที่เมื่อนอนหงายแล้วศีรษะจะพ้นขอบเตียงออกไปก็ได้ จากนั้นให้นอนหงายลงอย่างรวดเร็ว แล้วนิ่งอยู่ในท่านี้ 30 วินาที
3. หันหน้าไปทางขวา 45 องศา (เท่ากับหันไปจากตำแหน่งเดิม 90 องศา) โดยยังไม่ยกหัวขึ้น นิ่งอยู่อีก 30 วินาที
4. พลิกนอนตะแคงเอาลำตัวข้างขวาลงโดยยังเหลียวขวาอยู่เหมือนเดิม เท่ากับว่าตอนนี้หน้าเหลียวมองพื้น นิ่งอยู่อีก 30 วินาที
5. ค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนเตียงอีกนานสองสามนาที
ถ้าอาการบ้านหมุมมาจากหูขวา ให้ทำแบบเดียวกันแต่กลับข้าง คือกลับข้างซ้ายเป็นข้างขวา
การรักษาตัวเองด้วยวิธีนี้ไม่มีอันตรายอะไร อย่างมากก็ทำให้คุณเวียนหัวมากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็สมควรส่งต่อตัวเองไปหาหมอหูคอจมูกตัวจริง
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. Epley JM. The canalith repositioning procedure: for treatment of benign paroxysmal positional vertigo. Otolaryngol Head Neck Surg. 1992 Sep. 107(3):399-404.