ตาบอดหลังการดมยาสลบกับการกินยาแก้นกเขาไม่ขัน
กราบเรียนคุณหมอสันต์
ผมเขียนจดหมายนี้ด้วยความลำบากเพราะต้องพิมพ์ตาเดียวซึ่งมัวๆ เรื่องมีอยู่ว่าผมซึ่งไม่เคยป่วยเป็นอะไรจริงจังเลย ยาก็ไม่เคยกินยาอะไรเลยนอกจากกินยาแก้ปวดพาราเซ็ทเวลาปวดห้วและใช้ไวอากร้าบ้างบางโอกาส ผมไปผ่าตัดริดสีดวงทวาร พอฟื้นจากยาสลบขึ้นมาก็มองไม่เห็นอะไรเลย พูดง่ายๆว่าตาบอด ต้องอยู่โรงพยาบาลหลายวันเพื่อรักษากับหมอตา หมอส่องตาแล้วบอกว่าหลอดเลือดที่หลังตาของผมปกติดี แต่ว่าจอประสาทตาเสียการทำงานเพราะขาดเลือดเฉียบพลัน หมอตาไม่รับประกันด้วยว่าตาของผมจะกลับมองเห็นเป็นปกติหรือไม่ ผมอยากเรียนถามคุณหมอสันต์ว่าตาของผมขาดเลือดเฉียบพลันจากอะไร ผมต้องป้องกันและรักษาอย่างไรไม่ให้ข้างที่แย่อยู่แล้วไม่แย่ลงแต่ค่อยๆดีขึ้น
.............................................
ตอบครับ
1. ถามว่าตาของคุณบอดเฉียบพลันจากอะไร ตอบว่าก็ขนาดหมอตาที่ส่องดูตาของคุณอยู่และหมอวิสัญญีที่ช่วยกันรักษาคุณยังไม่รู้ แล้วผมซึ่งไม่เคยเห็นหน้าคุณเลยในชีวิตจะไปตรัสรู้ได้ไงละครับ (แหะ แหะ พูดเล่น) อย่างดีผมก็ได้แต่เดาเอาตามข้อมูลกระท่อนกระแท่นที่คุณให้มา โรคที่คุณเป็นนี้ภาษาหมอเรียกว่า nonarteritic anterior ischemic optic neuropathy แปลว่า "โรคประสาตาเสื่อมจากการขาดเลือดโดยไม่เกี่ยวกับโรคของหลอดเลือด" หนึ่งในร้อยของสาเหตุที่ทำให้คุณเป็นตาบอดเฉียบพลันจากการดมยาสลบที่เป็นไปได้ก็คือการที่คุณกินยารักษาสุขภาพเพศชาย sildenafil (หรือไวอากร้านั่นแหละ) โดยที่คุณไม่บอกหมอวิสัญญีให้เขารู้ก่อนที่เขาจะดมยาสลบคุณ คือยา silnenafil นี้วงการแพทย์รู้มานานแล้วว่ามันมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดอย่างแรงจากการปล่อยแก้สไนตริกออกไซด์ออกมา ฤทธิ์นี้จะแรงขึ้นถ้าคนไข้กินยาในกลุ่มไนเตรทซึ่งเป็นยารักษาโรคหัวใจ เขาถึงห้ามกินยาปลุกเซ็กซ์ควบกับยาหัวใจไง แต่ถึงไม่กินยาอะไร ฤทธิ์ขยายหลอดเลือดนี้ก็ยังแรงด้วยตัวของมันเอง แถมแรงแบบเอาชนะกลไกการบีบหลอดเลือดชดเชย (vasoconstriction) ซึ่งปกติทำโดยระบบประสาทอัตโมมัติได้ด้วย เรื่องพิษภัยของการดมยาสลบโดยไม่บอกให้หมอทราบว่าใช้ยาไวอากร้าอยู่ก่อนนี้วงการแพทย์รู้มานานแล้ว เมื่อสิบปีมาแล้วอย.สหรัฐ (FDA) ก็เคยรายงานว่ามีผู้ป่วยกินยา sidelnafil แล้วดมยาสลบแล้วเกิดตาบอดแบบนี้ขึ้นนับรวมถึงตอนนั้นโหลงโจ้งได้ 50 ราย โดยที่การสอบสวนสรุปไม่ได้ว่าบอดเพราะอะไรแน่
ส่วนใหญ่คนไข้นั้นจะมีธรรมชาติกระมิดกระเมี้ยนที่จะพูดกับหมอว่าตัวเองกินยาปลุกเซ็กซ์ จะเป็นด้วยไม่รู้ว่ามันเป็นข้อมูลสำคัญหรือกลัวเสียเชิงหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ หมอเองโดยเฉพาะหากเป็นหมอผู้ชายก็กระมิดกระเมี้ยนไม่กล้าถามเจาะตรงๆว่าคุณกินยารักษาโรคบ้อลัดอยู่หรือเปล่า จะด้วยกลัวคนไข้เสียหน้าหรือโกรธจนลุกจากเตียงมาถีบเอามั้ง เพราะชายมักจะเข้าใจชายด้วยกัน จึงไม่แปลกที่กลุ่มนักวิชาชีพที่ลุกขึ้นมาโวยวายเรื่องนี้กลายเป็นสมาคมวิสัญญีพยาบาลอเมริกัน (AANA) เพราะว่าพยาบาลส่วนใหญ่ไม่มีนกเขา จึงไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยนใดๆ โดย AANA ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นกิจจะลักษณะว่าใครที่กินยาปลุกเซ็กซ์ เอ๊ย..ไม่ใช่ ยา sidenafil จะต้องแจ้งให้หมอหรือพยาบาลทราบก่อนดมยาสลบทุกครั้ง
2. ถามว่าจะป้องกันการเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรในอนาคต วิธีป้องกันคือเมื่อจะผ่าตัดที่ต้องดมยาสลบให้หยุดยานี้ก่อนไปดมยาสลบอย่างน้อย 1 สัปดาห์และหยุดต่อหลังการดมยาสลบอีก 1 สัปดาห์ ยานี้โดยทั่วไปมีฤทธิ์ตกค้างแค่ประมาณ 24 ชั่วโมงก็จริง แต่รายงานผู้ป่วยที่เกิดตาบอดแบบนี้หลังดมยาสลบพบว่าบางรายตอนฟื้นจากยาสลบใหม่ๆยังมองเห็นดีๆอยู่ แล้วเกิดตาบอดหลังดมยาสลบแล้วนานถึง 36 ชม. การป้องกันที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือยังไงก็ต้องบอกหมอว่าตัวเองกินยานี้อยู่ หรือกินสมุนไพรเพื่อการนี้อยู่ เม็ดสุดท้ายกินเมื่อไหร่บอกด้วยก็ดี หมอเขาจะได้ทราบและตั้งหลักได้ว่าในกรณีอย่างนี้การชดเชยภาวะความดันตกขณะดมยาสลบหมอเขาจะไม่หวังพึ่งกลไกระบบประสาทอัตโนมัติ แต่จะหันไปใช้วิธีแก้โดยให้ยาที่มีฤทธิ์บีบหลอดเลือดโดยตรงแทน
3. ถามว่าแล้วตาที่บอดไปแล้วนี้จะหายไหม ตอบว่าไม่หายครับ อุ๊บ..บ ขอโทษ พูดผิด พูดรุนแรงไป พูดใหม่ ตอบว่า "ส่วนใหญ่ไม่หายครับ" คือเป็นเองแต่ไม่หายเอง และไม่มีวิธีรักษาของแพทย์แผนใหม่ใดๆจะช่วยให้หายได้ด้วย กลไกการควบคุมความดันในหลอดเลือดของลูกตาด้วยวิธีบีบและขยายหลอดเลือดนั้นมันเป็นกลไกท้องถิ่นระดับอบต. (autoregulation) คือลูกตาทำเองโดยไม่เกี่ยวกับระบบใหญ่ของร่างกาย ความรู้แพทย์ก็ยังไม่เข้าใจกลไกของมันดีนัก เมื่อไม่รู้เหตุ ก็ย่อมไม่รู้วิธีแก้ ฉันใด ก็ฉันเพล เพราะวิชาแพทย์นี้มีหลักอยู่ว่าสิ่งทั้งหลายเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ สิ่งนั้นก็ดับ สาธุ
ขอบคุณมากนะครับที่เขียนจดหมายนี้มา คำตอบของผมคงไม่ช่วยอะไรคุณเท่าไหร่ แต่จดหมายของคุณจะช่วยป้องกันปัญหาให้กับเพื่อนผู้ชายนักเลี้ยงนกเขาคนอื่นๆ เพราะผมรู้ว่าผู้ชายที่ใช้ยา sildenafil นี้มีอยู่เป็นจำนวนมากชนิดที่คุณผู้หญิงอาจนึกไม่ถึง มีทั้งที่ใช้ยาจริง ใช้ยาปลอม (เพราะเขาหลอกขายว่าเป็นยาจริง) และใช้สมุนไพรที่เอายา sidelnafil ตัวจริงมายัดไส้ปลอมเป็นยาสมุนไพร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมุนไพรจีน ผมรู้ทั้งหมดนี้เพราะผมเองเคยส่งตัวอย่างยาและสมุนไพรที่คนไข้บ้างเพื่อนกันบ้างให้มาไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจพิสูจน์ดูแล้วหลายครั้ง
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. Fodale V1, Di Pietro R, Santamaria S. Viagra, surgery and anesthesia: a dangerous cocktail with a risk of blindness. Med Hypotheses. 2007;68(4):880-2. Epub 2006 Oct 11.
2. American Anesthetic Nurse Association. AANA Warns Viagra Users of Potential Risks During Surgery. Accessed on June29, 2017 at http://www.aana.com/forpatients/Pages/AANA-Warns-Viagra-Users-of%C2%A0Potential-Risks-During-Surgery-.aspx
ผมเขียนจดหมายนี้ด้วยความลำบากเพราะต้องพิมพ์ตาเดียวซึ่งมัวๆ เรื่องมีอยู่ว่าผมซึ่งไม่เคยป่วยเป็นอะไรจริงจังเลย ยาก็ไม่เคยกินยาอะไรเลยนอกจากกินยาแก้ปวดพาราเซ็ทเวลาปวดห้วและใช้ไวอากร้าบ้างบางโอกาส ผมไปผ่าตัดริดสีดวงทวาร พอฟื้นจากยาสลบขึ้นมาก็มองไม่เห็นอะไรเลย พูดง่ายๆว่าตาบอด ต้องอยู่โรงพยาบาลหลายวันเพื่อรักษากับหมอตา หมอส่องตาแล้วบอกว่าหลอดเลือดที่หลังตาของผมปกติดี แต่ว่าจอประสาทตาเสียการทำงานเพราะขาดเลือดเฉียบพลัน หมอตาไม่รับประกันด้วยว่าตาของผมจะกลับมองเห็นเป็นปกติหรือไม่ ผมอยากเรียนถามคุณหมอสันต์ว่าตาของผมขาดเลือดเฉียบพลันจากอะไร ผมต้องป้องกันและรักษาอย่างไรไม่ให้ข้างที่แย่อยู่แล้วไม่แย่ลงแต่ค่อยๆดีขึ้น
.............................................
ตอบครับ
1. ถามว่าตาของคุณบอดเฉียบพลันจากอะไร ตอบว่าก็ขนาดหมอตาที่ส่องดูตาของคุณอยู่และหมอวิสัญญีที่ช่วยกันรักษาคุณยังไม่รู้ แล้วผมซึ่งไม่เคยเห็นหน้าคุณเลยในชีวิตจะไปตรัสรู้ได้ไงละครับ (แหะ แหะ พูดเล่น) อย่างดีผมก็ได้แต่เดาเอาตามข้อมูลกระท่อนกระแท่นที่คุณให้มา โรคที่คุณเป็นนี้ภาษาหมอเรียกว่า nonarteritic anterior ischemic optic neuropathy แปลว่า "โรคประสาตาเสื่อมจากการขาดเลือดโดยไม่เกี่ยวกับโรคของหลอดเลือด" หนึ่งในร้อยของสาเหตุที่ทำให้คุณเป็นตาบอดเฉียบพลันจากการดมยาสลบที่เป็นไปได้ก็คือการที่คุณกินยารักษาสุขภาพเพศชาย sildenafil (หรือไวอากร้านั่นแหละ) โดยที่คุณไม่บอกหมอวิสัญญีให้เขารู้ก่อนที่เขาจะดมยาสลบคุณ คือยา silnenafil นี้วงการแพทย์รู้มานานแล้วว่ามันมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดอย่างแรงจากการปล่อยแก้สไนตริกออกไซด์ออกมา ฤทธิ์นี้จะแรงขึ้นถ้าคนไข้กินยาในกลุ่มไนเตรทซึ่งเป็นยารักษาโรคหัวใจ เขาถึงห้ามกินยาปลุกเซ็กซ์ควบกับยาหัวใจไง แต่ถึงไม่กินยาอะไร ฤทธิ์ขยายหลอดเลือดนี้ก็ยังแรงด้วยตัวของมันเอง แถมแรงแบบเอาชนะกลไกการบีบหลอดเลือดชดเชย (vasoconstriction) ซึ่งปกติทำโดยระบบประสาทอัตโมมัติได้ด้วย เรื่องพิษภัยของการดมยาสลบโดยไม่บอกให้หมอทราบว่าใช้ยาไวอากร้าอยู่ก่อนนี้วงการแพทย์รู้มานานแล้ว เมื่อสิบปีมาแล้วอย.สหรัฐ (FDA) ก็เคยรายงานว่ามีผู้ป่วยกินยา sidelnafil แล้วดมยาสลบแล้วเกิดตาบอดแบบนี้ขึ้นนับรวมถึงตอนนั้นโหลงโจ้งได้ 50 ราย โดยที่การสอบสวนสรุปไม่ได้ว่าบอดเพราะอะไรแน่
ส่วนใหญ่คนไข้นั้นจะมีธรรมชาติกระมิดกระเมี้ยนที่จะพูดกับหมอว่าตัวเองกินยาปลุกเซ็กซ์ จะเป็นด้วยไม่รู้ว่ามันเป็นข้อมูลสำคัญหรือกลัวเสียเชิงหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ หมอเองโดยเฉพาะหากเป็นหมอผู้ชายก็กระมิดกระเมี้ยนไม่กล้าถามเจาะตรงๆว่าคุณกินยารักษาโรคบ้อลัดอยู่หรือเปล่า จะด้วยกลัวคนไข้เสียหน้าหรือโกรธจนลุกจากเตียงมาถีบเอามั้ง เพราะชายมักจะเข้าใจชายด้วยกัน จึงไม่แปลกที่กลุ่มนักวิชาชีพที่ลุกขึ้นมาโวยวายเรื่องนี้กลายเป็นสมาคมวิสัญญีพยาบาลอเมริกัน (AANA) เพราะว่าพยาบาลส่วนใหญ่ไม่มีนกเขา จึงไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยนใดๆ โดย AANA ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นกิจจะลักษณะว่าใครที่กินยาปลุกเซ็กซ์ เอ๊ย..ไม่ใช่ ยา sidenafil จะต้องแจ้งให้หมอหรือพยาบาลทราบก่อนดมยาสลบทุกครั้ง
2. ถามว่าจะป้องกันการเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรในอนาคต วิธีป้องกันคือเมื่อจะผ่าตัดที่ต้องดมยาสลบให้หยุดยานี้ก่อนไปดมยาสลบอย่างน้อย 1 สัปดาห์และหยุดต่อหลังการดมยาสลบอีก 1 สัปดาห์ ยานี้โดยทั่วไปมีฤทธิ์ตกค้างแค่ประมาณ 24 ชั่วโมงก็จริง แต่รายงานผู้ป่วยที่เกิดตาบอดแบบนี้หลังดมยาสลบพบว่าบางรายตอนฟื้นจากยาสลบใหม่ๆยังมองเห็นดีๆอยู่ แล้วเกิดตาบอดหลังดมยาสลบแล้วนานถึง 36 ชม. การป้องกันที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือยังไงก็ต้องบอกหมอว่าตัวเองกินยานี้อยู่ หรือกินสมุนไพรเพื่อการนี้อยู่ เม็ดสุดท้ายกินเมื่อไหร่บอกด้วยก็ดี หมอเขาจะได้ทราบและตั้งหลักได้ว่าในกรณีอย่างนี้การชดเชยภาวะความดันตกขณะดมยาสลบหมอเขาจะไม่หวังพึ่งกลไกระบบประสาทอัตโนมัติ แต่จะหันไปใช้วิธีแก้โดยให้ยาที่มีฤทธิ์บีบหลอดเลือดโดยตรงแทน
3. ถามว่าแล้วตาที่บอดไปแล้วนี้จะหายไหม ตอบว่าไม่หายครับ อุ๊บ..บ ขอโทษ พูดผิด พูดรุนแรงไป พูดใหม่ ตอบว่า "ส่วนใหญ่ไม่หายครับ" คือเป็นเองแต่ไม่หายเอง และไม่มีวิธีรักษาของแพทย์แผนใหม่ใดๆจะช่วยให้หายได้ด้วย กลไกการควบคุมความดันในหลอดเลือดของลูกตาด้วยวิธีบีบและขยายหลอดเลือดนั้นมันเป็นกลไกท้องถิ่นระดับอบต. (autoregulation) คือลูกตาทำเองโดยไม่เกี่ยวกับระบบใหญ่ของร่างกาย ความรู้แพทย์ก็ยังไม่เข้าใจกลไกของมันดีนัก เมื่อไม่รู้เหตุ ก็ย่อมไม่รู้วิธีแก้ ฉันใด ก็ฉันเพล เพราะวิชาแพทย์นี้มีหลักอยู่ว่าสิ่งทั้งหลายเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ สิ่งนั้นก็ดับ สาธุ
ขอบคุณมากนะครับที่เขียนจดหมายนี้มา คำตอบของผมคงไม่ช่วยอะไรคุณเท่าไหร่ แต่จดหมายของคุณจะช่วยป้องกันปัญหาให้กับเพื่อนผู้ชายนักเลี้ยงนกเขาคนอื่นๆ เพราะผมรู้ว่าผู้ชายที่ใช้ยา sildenafil นี้มีอยู่เป็นจำนวนมากชนิดที่คุณผู้หญิงอาจนึกไม่ถึง มีทั้งที่ใช้ยาจริง ใช้ยาปลอม (เพราะเขาหลอกขายว่าเป็นยาจริง) และใช้สมุนไพรที่เอายา sidelnafil ตัวจริงมายัดไส้ปลอมเป็นยาสมุนไพร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมุนไพรจีน ผมรู้ทั้งหมดนี้เพราะผมเองเคยส่งตัวอย่างยาและสมุนไพรที่คนไข้บ้างเพื่อนกันบ้างให้มาไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจพิสูจน์ดูแล้วหลายครั้ง
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. Fodale V1, Di Pietro R, Santamaria S. Viagra, surgery and anesthesia: a dangerous cocktail with a risk of blindness. Med Hypotheses. 2007;68(4):880-2. Epub 2006 Oct 11.
2. American Anesthetic Nurse Association. AANA Warns Viagra Users of Potential Risks During Surgery. Accessed on June29, 2017 at http://www.aana.com/forpatients/Pages/AANA-Warns-Viagra-Users-of%C2%A0Potential-Risks-During-Surgery-.aspx