เจ็บหน้าอกกะทันหันไม่ยอมหาย เป็นโรคร้ายที่ถึงขั้นตายได้ทันที มีกี่โรค อะไรบ้าง

พุทธรูปยุคทวาราวดี ที่ถ้ำบนเขาถมอรัตน์ เมืองโบราณศรีเทพ
กราบเรียนคุณหมอ

    คุณพ่ออายุ 60 ปี เจ็บหน้าอกฉุกเฉินเหงื่อแตกอยู่นานเป็นหลายชั่วโมงก็ไม่หาย จึงไปรพ. ... หมอตรวจคลื่นหัวใจพบว่าปกติ ตรวจเอ็นไซม์หัวใจก็พบว่าปกติ จึงให้กลับบ้านและแนะนำว่ารอมาเจาะเลือดดูเอ็นไซม์หัวใจซ้ำ เมื่อกลับมาบ้านแล้วยังมีอาการเจ็บหน้าอกไม่หยุด มันจะเป็นโรคอะไรได้บ้างครับ ควรจะรอดูไปก่อนตามหมอบอกไหม นอกจากเรื่องโรคหลอดเลือดหัวใจตีบแล้วมันจะเป็นโรคอะไรที่รุนแรงแบบคาดไม่ถึงได้บ้างหรือเปล่าครับ ตอนที่ยังเจ็บหน้าอกอยู่นี้ควรทำอย่างไรครับ

.................................................

ตอบครับ

    ก่อนตอบคำถามผมขอย้ำไว้ตรงนี้ก่อนว่าใครก็ตามเมื่อเจ็บแน่นหน้าอกแบบกะทันหัน การนั่งพักสังเกตอาการสามารถทำได้โดยปลอดภัยแต่ไม่ควรใช้เวลาพักแล้วสังเกตอาการนานเกิน 20 นาที ถ้าพัก 20 นาทีแล้วยังไม่หายควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะการเจ็บหน้าอกต่อเนื่องเกิน 20 นาทีไม่ใช่เรื่องของหลอดเลือดตีบแบบไม่ด่วน (stable angina) แต่เป็นเรื่องหลอดเลือดอุดตันและของกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (acute MI) หรือเรื่องร้ายๆอย่างอื่น

    1. ถามว่าเจ็บแน่นหน้าอกหน้าอกกะทันหันรุนแรง จะเป็นโรคร้ายๆถึงขั้นตายได้ทันที มีกี่โรคอะไรบ้าง ตอบว่าถ้าจะเอาถึงตายได้ทันทีก็มี 5 โรค คือ     

    (1.1) กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (acute MI) 

    (1.2) หลอดเลือดใหญ่ปริหรือฉีก (acute aortic dissection) 

    (1.3) ลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดในปอด (pulmonary embolism) 

    (1.4) ลมอัดคั่งในช่องอก (tension pneumothorax)

    (1.5) ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน (acute pancreatitis)

    ทั้งห้าโรคนี้ แต่ละโรคมีอัตราตายพอๆกัน คือประมาณใกล้ๆ 80%

    ในกรณีของคุณพ่อนี้ หมอเขาวินิจฉัยแยกกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (acute MI) ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดออกไปได้แบบเขามั่นใจพอสมควรแล้วด้วยการตรวจคลื่นหัวใจแล้วพบว่าปกติและตรวจเอ็นไซม์หัวใจแล้วพบว่าปกติ จึงให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้ แต่เขายังไม่ได้วินิจฉัยแยกอีกสี่โรคที่เหลือนะครับ 

    2. ถามว่าเมื่อกลับมาบ้านแล้วยังมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรงไม่หยุด ควรจะรอดูไปก่อนหรือควรทำอย่างไรต่อไป ตอบว่ารอไปก่อนไม่ได้ครับเพราะอาการเจ็บหน้าอกรุนแรงยังอยู่ แสดงว่าเหตุมันยังอยู่ ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในสี่โรคร้ายที่เหลือ จึงต้องรีบสืบค้นวินิจฉัยแยกแยะต่อไปอีกทันที ดังนี้ผมแนะนำให้ทำเป็นขั้นตอนดังนี้

    ขั้นที่ 1. รีบกลับไปหาคุณหมอท่านเดิมที่รพ.เดิม บอกท่านว่ากลับไปบ้านแล้วอาการเจ็บหน้าอกยังอยู่ไม่หายไปไหน ยังเจ็บมากอย่างมีนัยยะ และถือโอกาสหารือท่านว่าจะมีวิธีแยกแยะให้แน่ใจได้ไหมว่าคุณพ่อไม่ได้เป็นโรคหลอดเลือดใหญ่ปริฉีก (acute aortic dissection) หารือเพียงแค่นี้ก่อน เอาแค่โรคเดียวก่อน เพราะถ้าท่านจับได้ถึงความกังวลของคุณท่านก็จะสั่งตรวจวินิจฉัยแยกโรคด้วยการให้เข้าอุโมงคอมพิวเตอร์เพื่อทำ CTA หรือ MRA เอง แล้วผลการตรวจมันจะช่วยให้วินิจฉัยสาเหตุฉุกเฉินที่แท้จริงได้หมดทุกโรค ไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือดใหญ่ปริฉีก หรือลิ่มเลือดอุดปอด หรือลมคั่งในช่องอก หรือตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน วินิจฉัยจากภาพ CTA หรือ MRA ได้หมด 

    ขั้นที่ 2. ถ้าคุณหมอบังเอิญท่านจับความกังวลของคุณไม่ได้ คือพูดไปแล้วท่านก็ยังยืนยันว่าไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมาก ให้กลับบ้านไปก่อนแล้วรอมาตรวจเอ็นไซม์ซ้ำวันรุ่งขึ้น ผมแนะนำว่าคราวนี้คุณต้องแอบย่องเงียบๆไปโรงพยาบาลอื่นที่เขายอมตรวจ CTA หรือ MRA ให้โดยยอมเสียเงินค่าตรวจให้เขา ค่าตรวจก็ราวสองหมื่นบาท ผลการตรวจ CTA หรือ MRA จะวินิจฉัยได้อย่างเด็ดขาดว่าเป็นโรคใดโรคหนึ่งในสี่โรคที่เหลือหรือไม่ ถ้าเป็นก็ต้องเอาผลตรวจนั้นไปขอรับการรักษาฉุกเฉินที่รพ.ซึ่งคุณเบิกได้ ถ้าไม่เป็นก็จะได้สบายใจว่าได้ตรวจวินิจฉัยแยกโรคที่ร้ายถึงขั้นตายได้ทันทีไปหมดแล้ว

     3. ในกรณีที่แน่ใจแล้ว (ด้วยการตรวจยืนยันครบถ้วนรวมทั้ง CTA หรือ MRA แล้ว) ว่าไม่ได้เป็นโรคฉุกเฉินรุนแรงทั้งห้าโรคนั้น หากยังเจ็บหน้าอกอยู่ มันก็จะเป็นเรื่องของโรคอื่นๆซึ่งไม่รุนแรง ซึ่งก็ยังมีสาเหตุได้สาระพัด เพราะร่างกายของคนเรานี้มีอาการขึ้นตรงไหนก็เอานิ้วชี้จิ้มลงไปได้เลยว่าระบบอวัยวะใดที่ทำงานอยู่ในละแวกนั้นต่างก็ล้วนเป็นสาเหตุได้หมด ยกตัวอย่างเช่นกรณีเจ็บแน่นหน้าอกนี้ ความเป็นไปได้ที่เหลือซึ่งไม่รุนแรงถึงตายทันที แต่ก็ต้องรอให้หมอวินิจฉัยและรักษาไปแบบไม่ฉุกเฉิน เช่น

    (3.1) เหตุจากระบบการหายใจ เช่น เยื่อหุ้มปอดอักเสบ เป็นต้น

    (3.2) เหตุจากระบบทางเดินอาหาร เช่น กรดไหลย้อน (GERD) ท่อน้ำดีบีบตัว (biliary colic) เป็นต้น

    (3.3) เหตุจากระบบประสาท เช่นโรคพานิก (panic disorder) โรคงูสวัดที่ระดับทรวงอก เป็นต้น

      นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

ทะเลาะกันเรื่องฝุ่น PM 2.5 บ้าจี้ เพ้อเจ้อ หรือว่าไม่รับผิดชอบ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

แจ้งข่าวด่วน หมอสันต์ตัวปลอมกำลังระบาดหนัก

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

เลิกเสียทีได้ไหม ชีวิตที่ต้องมีอะไรมาจ่อคิวต่อรอให้ทำอยู่ตลอดเวลา

ไปเที่ยวเมืองจีนขึ้นที่สูงแล้วกลับมาป่วยยาว (โรค HAPE)

หมอสันต์สวัสดีปีใหม่ 2568 / 2025

"ลู่ความสุข" กับ "ลู่เงิน"