เปลี่ยนยาหัวใจแล้วไฉนปัสสาวะขัดเฉียบพลัน
(ภาพวันนี้ / ความพยายามจะบริการนกในหน้าร้อนล้มเหลว เพราะใส่วันเดียวน้ำแห้ง และน้ำร้อนจี๋)
(กรณีอ่านจาก fb กรุณาคลิกภาพข้างล่าง)
เรียนคุณหมอสันต์
ผมมีอายุ 69 ปี ต่อมลูกหมากโต ปัสสาวะไหลช้า กินยา alpha blocker และ beta blocker หลายปี ปัสสาวะดีขึ้น ไหลช้าระดับที่ยอมรับได้ ต่อมลูกหมากลดขนาดลง ผมรักษาโรคหัวใจล้มเหลวด้วย ที่รพ. …. เมื่อสัปดาห์ก่อนหมอเปลี่ยนยาหัวใจแล้วผมมีอาการปัสสาวะไม่ออก จึงกลับไปหาหมอว่ามันเกิดจากยาใหม่ใช่ไหม หมอบอกว่าไม่เกี่ยวเพราะมันเป็นยากลุ่มเดียวกัน อยากปรึกษาคุณหมอสันต์ว่าเหตุที่ทำให้ผมปัสสาวะไม่ออกมันเกิดจากอะไรได้บ้างครับ และผมควรจะทำอย่างไรต่อไป
ขอบพระคุณครับ
……………………………………………………….
ตอบครับ
เหตุที่คนเป็นโรคต่อมลูกหมากโตจะปัสสาวะไม่ออกทันทีทันใด (acute urine retention) มีได้หลายอย่างดังนี้
สาเหตุที่ 1. ในกรณีของคุณมีโอกาสมากที่สุดที่จะเกิดจากการเปลี่ยนยา เพราะยารักษาต่อมลูกหมากโตกลุ่มที่คุณเรียกว่า blocker นั้นเป็นยาต้านระบบประสาทอัตโนมัติ (sympathetic blocker) ซึ่งระบบซิมพาเทติกนี้มีตัวรับยาอยู่สองตัว คือตัวรับอัลฟา กับตัวรับเบต้า ที่ต่อมลูกหมากถ้าเรากระตุ้นอัลฟามันจะบีบกล้ามเนื้อปิดทางเดินปัสสาวะทำให้ปัสสาวะยาก ถ้ากระตุ้นเบต้ามันจะคลายกล้ามเนื้อนั้นทำให้ปัสสาวะง่าย ดังนั้นการใช้ยารักษาต่อมลูกหมากต้องบล็อกหรือกั้นอัลฟา ไม่ใช่ไปกั้นเบต้า แต่ยากั้นเบต้าบางตัวเช่น carvadiol มีฤทธิ์กั้นอัลฟ่าเป็นฤทธิ์เด่นอยู่ด้วย หมอจึงใช้รักษาต่อมลูกหมากโตได้ หากการเปลี่ยนไปใช้ยากั้นเบต้าตัวอื่นทั่วๆไป เช่น bisoprolol จะมีแต่ฤทธิ์กั้นเบต้า ไม่มีฤทธิ์กั้นอัลฟ่า ซึ่งจะมีผลทำให้กล้ามเนื้อคุมทางเดินปัสสาวะยิ่งหดตัว ทำให้ยิ่งปัสสาวะไม่ออกมากเสียยิ่งกว่าอยู่เปล่าๆไม่กินยาอะไรเสียอีก เพราะแม้จะเป็นยากลุ่มเดียวกันแต่ฤทธิ์ในขั้นละเอียดมันไม่เหมือนกัน
สาเหตุที่ 2. เกิดการด้านยา (drug tolerance) เพราะยาที่ระบบประสาทอัตโนมัติเป็นระบบที่ชำนาญในการต่อต้านแข็งขืนหรือแข่งกับยาที่กินเข้าไปสู้กับมัน หากกินยาต้านระบบนี้นานไประบบจะปรับตัวสู้ทำให้ด้านยา ไม่ใช่ดื้อนะ ด้าน หมายความว่ากินมากๆกินนานๆแล้วไม่ออกฤทธิ์ พอเลิกกินไปสักพักแล้วกลับมากินใหม่ ก็จะกลับออกฤทธิ์ได้ใหม่อีก ซึ่งการจะแก้ปัญหานี้มักต้องจบลงด้วยการเอาที่ออกฤทธิ์ผ่านกลไกอื่นเช่นยาต้านฮอร์โมนเพศชายที่ออกฤทธิ์ลดขนาดของต่อมลูกหมากลง มากินควบกับยากั้นอัลฟ่า
สาเหตุที่ 3. ก็คือมีเหตุร่วมฉุกเฉินอื่นๆ เช่นนิ่วหลุดจากข้างบนของทางเดินปัสสาวะลงมาอุดข้างล่าง
สาเหตุที่ 4. ก็คือกลไกการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมกระเพาะปัสสาวะเสียไป (neurogenic bladder) เช่นเป็นผลจากเบาหวาน ติดเชื้องูสวัด เป็นต้น หรือได้ยาที่บล็อกการทำงานกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ (anticholinergic drug) เป็นต้น
กล่าวโดยสรุปในกรณีของคุณให้เพ่งเล็งแก้ไขสาเหตุที่ 1 ก่อน โดยควรกลับไปคุยกับหมอใหม่ ถ้าหมอเขาไม่ยอมหยุดยาคุณก็เปลี่ยนหมอหรือหยุดยาซะเอง ในกรณีที่คิดจะเปลี่ยนหมอผมแนะนำว่าปัญหาระดับฉี่ไม่ออกนี้ควรไปหาหมอยูโร (urologist) ซึ่งเผอิญว่าจะมีอยู่แต่ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่เท่านั้น แต่มันก็คุ้มค่าที่คนที่มีปัญหาเฉพาะด้านอย่างคุณจะบากบั่นไปหาหมอเฉพาะทางด้านนี้อย่างน้อยสักหนึ่งครั้ง
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์