ความกลัวคือความคิดว่าสิ่งร้ายๆที่รู้มาในอดีตจะเกิดขึ้นกับตัวตนของพี่ในอนาตต
คุณหมอคะ
ขอคำแนะนำว่าถ้ามีอาการเหมือนเป็นหวัด น้ำมูกไหล เจ็บคอ ควรไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจว่าเป็นโควิตหรือเปล่าคะ ไปเร็วที่สุดก็จะรักษาได้ทัน ใช่ไหมคะ ก่อนไปควรกินฟ้าทะลายโจรไปก่อนไหมคะ เพราะคิดว่าทุกคนอาจติดโควิตได้ ถึงแม้ไม่ได้ออกจากบ้าน แต่มีคนเข้ามาที่บ้าน เช่นมาทำความสอาดบ้าน มาซ่อมไฟฟ้า ประปา แอร์ หรือต้องเปลี่ยนพี่เลี้ยงมาดูแลคนป่วย เป็นต้น
โรคนี้เป็นแล้วต้องไปนอนโรงพยาบาลสนาม และติดต่อลูกและญาติไม่ได้ ทำให้พี่มีความกังวลใจค่ะ
ได้รับคำแนะนำจากคุณหมอเรื่องการเพิ่มน้ำหนักด้วยความขอบคุณมาก พี่ออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อที่เรียนและฝึกกับคุณหมอมา ทำทุกวันไม่เคยเว้นค่ะ สาเหตุที่น้ำหนักลด อาจเป็นเพราะความเครียดกับการระบาดของโควิตโดยไม่รู้ตัว เพราะจะไปธุระหลายอย่างไม่ได้เลยค่ะ
พี่ทำสมาธิ ท่องปฏิจจสมุปบาท ฟังคำสอนพระพุทธเจ้า (พุทธวจน) ทุกวัน ได้ผ่อนคลายพอสมควร แต่ก็คิดถึงความตายทุกวัน อาจมีส่วนทำให้เครียด และทานอาหารที่ทำเองที่บ้าน ซ้ำไปซ้ำมา ไม่อร่อยเลย น้ำหนักก็ลดลงเรื่อยๆ ไม่สามารถทำจิตใจให้เบิกบานได้้ค่ะ แต่จะพยายามลดความกังวลใจค่ะ เดี๋ยวจะตายด้วยความเครียด ไม่ใช่ตายเพราะโควิต
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ
……………………………………………………………………….
ตอบครับ
1.. แค่เจ็บคอคัดจมูกน้ำมูกไหลโดยที่ไม่มีประวัติสัมผัสโรคโควิดที่แน่ชัดอะไร ไม่ต้องไปรพ. ดอก แค่กักกันตัวเองก่อนสัก 14 วัน ในระหว่างนี้ถ้าอยากกินฟ้าทลายโจรก็กินฟ้าทลายโจรได้ทันทีได้ มันมีประโยชน์คุ้มความเสี่ยงอยู่แล้ว ดูอาการตัวเองไป 3 วัน 7 วัน ถ้าอาการดีขึ้นก็จบ ถ้าอาการไม่ดีขึ้น จึงค่อยไปโรงพยาบาล
2.. เรื่องการไม่กล้าออกจากบ้าน ถ้าได้วัคซีนครบสองเข็มแล้ว หากอยากออกจากบ้านก็ออกจากบ้านได้ อย่าไปกลัวเกินเหตุ สำหร้บคนที่ได้วัคซีนครบแล้ว ให้เริ่มมองโรคโควิดว่าเป็นโรคประจำถิ่นอย่างหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ วันหนึ่งเราก็ต้องเป็นโรคกับเขาจนได้เพราะวัคซีนไม่ได้ป้องกันไม่ให้เป็นโรคได้สนิทปึ๊ก แต่วัคซีนช่วยเป็นหลักประกันว่าเมื่อเป็นโรคแล้วโอกาสต้องเข้ารพ.หรือโอกาสตายจะลดลงกว่าคนไม่ได้วัคซีนอย่างมาก
สำหรับคนที่ได้วัคซีนครบแล้ว การติดเชื้อโควิดหลังได้วัคซีน (breakthrough infection) ถือว่าเป็นอานิสงใหญ่ในแง่ของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้อยู่ได้นานๆ เพราะงานวิจัยที่อิสราเอลเปรียบเทียบการติดเชื้อซ้ำระหว่าง (1) ผู้ไม่เคยได้วันซีน แต่เคยติดเชื้อธรรมชาติ (2) ผู้เคยได้วัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็มแล้วมาติดเชื้อธรรมชาติหนึ่งครั้ง (3) ผู้ได้วัคซีนครบสองเข็ม แต่ไม่เคยติดเชื้อธรรมชาติเลย แล้วตามดูว่าทั้งสามกลุ่มจะเกิดการติดเชื้อซ้ำมากน้อยต่างกันอย่างไร พบว่าสองกลุ่มแรกที่เคยติดเชื้อธรรมชาติมาแล้วมีความเสี่ยงเกิดติดเชื้อซ้ำน้อยกว่าผู้ได้วัคซีนครบถ้วนถึง 13 เท่า ดังนั้นเมื่อได้วัคซีนครบแล้ว ให้มองการติดเชื้อธรรมชาติว่าเป็นคุณในแง่ของการป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อซ้ำอีกในระยะยาว ไม่ใช่มองแต่ด้านที่จะเป็นโทษ
3. การคิดถึงความตายทุกวันมันเป็นคนละเรื่องกับการใช้ “ความคิด” เกี่ยวกับ “ความตาย” นะ ไม่ใช่การคอยคิดว่าฉันจะตายอย่างไร ตายแล้วฉันไปไหน ทั้งหมดนั้นเป็นความคิด ชื่อว่าความคิดล้วนเป็นของแสลงไม่มีอะไรดี
มรณานุสติของแท้ออริจินัลหมายถึงการตั้งใจที่จะอยู่กับเดี๋ยวนี้ การตระหนักว่าชีวิตมีแต่เดี๋ยวนี้เท่านั้น มีแต่ลมหายใจนี้เท่านั้น หมดลมหายใจนี้แล้วอาจจะไม่มีลมหายใจหน้ามาต่อแล้ว ดังนั้นให้ใช้ชีวิตอยู่แต่กับลมหายใจนี้เท่านั้น ทุ่มเทพลังและศักยภาพทั้งหมดที่ตัวเองมีเพื่อใช้ชีวิตในลมหายใจนี้ให้สงบเย็นและสร้างสรรค์เต็มศักยภาพที่ตนมี อย่าเสียเวลาไปกับเรื่องเหลวไหลไร้สาระ เพราะลมหายใจหน้าอาจจะไม่มีแล้ว นี่คือสารัตถะที่แท้จริงของมรณานุสติ ถ้าพี่ใช้มรณานุสติแบบของแท้ออริจินอลพี่จะไม่เครียด เพราะมีแต่เดี๋ยวนี้ไม่มีอดีตไม่มีอนาคตพี่จะไปเครียดได้อย่างไร ที่พี่เครียดอยู่ตอนนี้เพราะพี่กลัว
ความกลัวคือความคิดว่าสิ่งร้ายๆที่รู้มาในอดีตจะเกิดขึ้นกับตัวตนของพี่ในอนาตต ฟังให้ดีนะ ผมแตกความกลัวให้พี่เห็นในสี่ประเด็น
3.1 ความกลัวเป็นความคิด ไม่ใช่เรานะ ความคิดกับเราเป็นคนละอันกัน
3.2 ความกลัวเป็นความคิดที่เก็บเอาสิ่งเลวร้ายที่เคยประสบมาหรือได้ยินได้ฟังมาเป็นเชื้อ พูดง่ายๆว่าเป็นความคิดลบ
3.3 ความกลัวดำรงอยู่ได้เพราะในใจมีอดีตมีอนาคต คือเก็บเอาสิ่งร้ายๆจากอดีต มาวาดภาพว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคต ถ้าในใจไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต ความกลัวก็ไม่มีที่อยู่
3.4 ความกลัวมีขึ้นเพื่อปกป้องตัวตันหรือ identity ของเรา ดังนั้นตราบใดที่เรายังไม่ทิ้ง identity นี้ไปเป็นเพียงผู้สังเกตที่ไม่มีเอี่ยวอะไรด้วย ตราบนั้นในชีวิตนี้ก็จะมีแต่ความกลัวไม่รู้จักเลิก
5. การฟังเทปหรือดูวิดิโอ.พุทธวจนะหรืออะไรก็ตาม เหล่านั้นก็ล้วนเป็นสื่อความคิดนะ หากดูหรือฟังแล้วมีความคิดมากขึ้นก็กลับเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ดูไม่ฟังอะไรเลยแล้วไม่มีความคิด ย่อมดีเสียกว่า เพราะการปลอดความคิดเป็นโอกาสเดียวที่จะได้สังเกตเห็นสิ่งต่างๆตามที่มันเป็น ขณะที่ความคิดที่เกิดจากการขยันฟังขยันดูวิดิโอเป็นตัวปิดโอกาสที่จะได้เห็นสิ่งต่างๆตามที่มันเป็น
6. ความเครียดของพี่มาจากความคิด ชื่อว่าความคิดเกือบร้อยทั้งร้อยถูกนำเสนอโดยสำนึกว่าเป็นบุคคลของเรา หรือ identity ของเรา หรือตัวตนของเรา หรืออีโก้ของเรา ผมใช้หลายคำสื่อถึงสิ่งเดียวกันเพื่อย้ำให้พี่เก็ท พี่ต้องฝึกวางความคิด เปลี่ยน identity เสียว่าเราไม่ใช่บุคคลที่ชื่อนี้ บุคคลที่ชื่อนี้ มีการศึกษาสูงขนาดนี้ มีหน้าที่การงานหลักฐานเป็นที่นับถือขนาดนี้ ทั้งหมดนั้นเป็นความคิด เราไม่ใช่ความคิด ความคิดก็คือความคิด เราก็คือเรา คนละอันกัน เราสามารถสังเกตเห็นความคิดของเราได้ เราเป็นแค่ no body ที่มาอาศัยร่างกายนี้สังเกตเรียนรู้การมีชีวิตและทำอะไรที่เราคิดว่าสร้างสรรค์เท่าที่เราจะทำได้ เราเป็นผู้สังเกต ย้ำ การสังเกตเรียนรู้อะไรไม่ทำให้ใครเครียดดอก พี่เป็นนักวิทยาศาสตร์ย่อมเข้าใจความข้อนี้ดี แต่การมองสิ่งรอบตัวไปพร้อมกันการพยายามปกป้อง identity ที่เราเหมาเอาว่าเป็นเรานั่นแหละทำให้คนเราเครียด
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์