การเลี้ยงเด็กด้วยอาหารพืชเป็นหลัก

(เขียนให้ "ชีวจิต" เมื่อเมย. 59)

     สองสามวันก่อนหมอรุ่นน้องคนหนึ่งพาลูกและสามีมาเยี่ยมผมที่บ้านมวกเหล็ก สามีของเธอเป็นฝรั่ง ลูกสองคนจึงออกแนวฝรั่ง ยังไม่ทันไปอนุบาลเลย ตัวบะเล่งเท่งแล้ว คุยกันไปคุยกันมาจึงได้ทราบว่าครอบครัวนี้เป็นวีแกนกันทั้งบ้านรวมทั้งลูกเล็กเด็กแดงด้วย วีแกน (vegan) หมายความว่าคนที่กินแต่พืช ไม่กินอะไรที่มาจากสัตว์เลย เนื้อ นม ไข่ ไก่ ปลา ก็ไม่ให้กินทั้งนั้น ภรรยาผมซึ่งเป็นหมอเด็ก (หมายความว่าเป็นกุมารแพทย์) เธอคงตั้งใจจะถามหมอรุ่นน้องคนนั้นว่าแล้วไม่กลัวลูกเล็กๆขาดโปรตีนหรือ แต่พอเห็นไซส์ของเด็กทั้งสองคนซึ่งทั้งแน่นทั้งสูงทั้งใหญ่อยู่หัวเคิฟของวัย เธอก็จึงเงียบไป

     สมัยที่ผมยังเลี้ยงลูกเล็ก มีหมอเด็กชาวอเมริกันคนหนึ่งชื่อสป็อค (Dr.Spock) ซึ่งดังมากเพราะเขียนหนังสือที่คนอเมริกันที่เลี้ยงลูกทุกคนต้องได้อ่าน พอแก่ตัวได้ที่แล้วหมอสป็อกแกออกแนวต่อต้านอาหารเนื้อสัตว์ ก่อนตายเขาเขียนมรดกแนะนำแฟนๆหนังสือเขาไว้ว่า

    “ความรู้แพทย์วันนี้ชัดแล้วว่าอาหารเนื้อนมไข่มีผลเสียระยะยาวต่อสุขภาพ และเด็กได้โปรตีนและเหล็กอย่างเหลือเฟือจากถั่ว ผักและพืชอื่นๆจนไม่ต้องกินโคเลสเตอรอลจากเนื้อสัตว์ก็ได้ แคลเซียมจากพืชผักผลไม้ก็มีแยะไม่ขาด ผม (ดร.สป็อก) จึงขอแนะนำว่าเด็กอายุสองขวบขึ้นไปไม่ควรให้กินเนื้อนมไข่แล้ว ควรให้กินแต่พืชเท่านั้น” 

     พอผมเล่าให้ภรรยาฟังเพื่อชักชวนเธอให้ทำตาม เธอตอบว่า

     “สป็อก ก็สป็อกสิ ฉันไม่ใช่สป็อกนะ”

      แป่ว..ว

     ตั้งแต่นั้นมาผมไม่เคยแหยมเข้าไปในเขตอิทธิพลของหมอเด็กอีกเลย เพราะ กัว..ว โห นี่ขนาดผมอ้างหนังสือของดร.สป็อคซึ่งขายมากเป็นอันดับสองรองจากคัมภีร์ไบเบิ้ลเลยนะ ยังต้องถอยกรูดแทบไม่ทัน

     ความจริงหมอสป็อคนี้ตอนที่หนังสือของแกเริ่มดังใหม่ๆเมื่อราวปีค.ศ. 1946 ตัวแกนั่นแหละเป็นหัวหอกให้เลี้ยงเด็กด้วยเนื้อนมไข่ ตอนหลังๆแกก็ค่อยๆมาเน้นเนื้อไม่ติดมัน แต่พอตัวแกเองป่วยแทบเอาตัวไม่รอดแล้วมาดีขึ้นเหมือนตายแล้วเกิดใหม่เพราะแกหันมากินอาหารแบบวีแกน ประมาณปีค.ศ. 1991 ตั้งแต่นั้นมาแกเลยบ้าวีแกน และเริ่มขายไอเดียจนมาเขียนทิ้งทวนก่อนตายว่าใครที่อยากเห็นลูกมีสุขภาพดีต้องจับลูกเป็นวีแกนให้หมด

     อันที่จริง ตอนจะพิมพ์หนังสือครั้งสุดท้ายก่อนแกตาย หมอปาร์คเกอร์ซึ่งเป็นผู้ร่วมนิพนธ์อุตส่าห์ชวนว่าเราเสนอให้พ่อแม่เด็กเลือกได้สองอย่างตามใจชอบดีไหม ว่าใครอยากเป็นวีแกนก็ให้เลี้ยงลูกแบบวีแกนก็ได้ แต่หมอสป็อคไม่ยอม ผมเข้าใจว่าสมองแกคงจะแข็งได้ที่แล้วตอนนั้น หิ หิ หมอสป็อคยืนยันกับหมอปาร์คเกอร์ว่าเขาต้องการให้หนังสือของเขาเป็นหัวหอกในการทะลวงให้โลกเห็นความจริงที่ว่าอาหารเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์นี่แหละเป็นต้นกำเนิดของโรคร้ายทั้งหลาย

มาถึงวันนี้ หมอสป็อคได้ตายไปนานแล้ว หนังสือคู่มือการเลี้ยงเด็กของเขายังติดตลาดอยู่ไม่เคยเสื่อมคลาย และผมดูท่าว่าจะไม่เสื่อมคลายภายในหลายสิบปีข้างหน้านี้ แต่ไอเดียที่จะให้คนเลี้ยงลูกให้เป็นวีแกนของแกไม่เห็นติดตลาดเลยแฮะ

     สาเหตุที่ผู้คนทั่วไปไม่ยอมให้เด็กกินอาหารวีแกนส่วนใหญ่มักจะอ้างกันว่ากลัวเด็กจะไม่โตและขาดโปรตีนขาดแคลเซียมขาดสาระพัด แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่แท้จริงหรอก เพราะได้มีงานวิจัยอย่างดีชิ้นหนึ่งทำที่เมืองโลมา ลินดา ซึ่งเป็นเมืองของคนนับถือศาสนาคริสต์นิกายเซเวนเดย์แอดเวนทิสอยู่ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย นิกายนี้สอนไม่ให้กินเนื้อสัตว์ งานวิจัยนี้ได้เปรียบเทียบการเติบโตของเด็กในโรงเรียน ระหว่างเด็กของครอบครัวที่เคร่งศาสนาซึ่งเป็นวีแกนกันทั้งบ้านรวมทั้งตัวเด็กด้วย กับเด็กของครอบครัวที่นับถือนิกายอื่นหรือนับถือนิกายนี้แต่ไม่เคร่ง คือเด็กได้กินเนื้อสัตว์ในชีวิตประจำวันปกติ ผลวิจัยพบว่าหากเทียบกันหัวต่อหัว เพศต่อเพศ อายุต่ออายุ ชั้นเรียนต่อชั้นเรียน เด็กแว้น เอ๊ย ไม่ใช่ เด็กวีแกนมีความสูงเฉลี่ยนำหน้าเด็กกินเนื้อสัตว์ไป 2 ซม.เสมอต้นเสมอปลายแบบม้วนเดียวจบ แต่หากนับความกว้าง (หิ หิ หมายความว่าความอ้วนหรือดัชนีมวลกาย) พบว่าเด็กกินเนื้อสัตว์อ้วนกว่าเด็กที่กินอาหารแบบวีแกน พูดๆง่ายๆว่างานวิจัยนี้มีผลสนับสนุนว่าการเลี้ยงเด็กด้วยอาหารวีแกนดีกว่าอาหารเนื้อสัตว์ เพราะมีใครไม่อยากให้ลูกสูงแต่อยากให้ลูกอ้วนบ้าง?

     แต่ผมไม่แปลกใจว่าทำไมคนฝรั่งทั่วไปถึงไม่อยากให้ลูกกินอาหารวีแกน โถ อาหารวีแกนเนี่ยแค่ทำให้ผู้ใหญ่กินยังยากเลย จะทำเลี้ยงเด็กนะจะไหวหรือ การจะเป็นวีแกนหมายความว่าฝรั่งต้องหันมากินข้าวกินถั่ว การหุงข้าวและทำพาสต้าหนะไม่ยากหรอก แต่การจะปรุงถั่วกินเนี่ย.. ลองมากวนถั่วกินเองสักมื้อหนึ่งดูไหมละ มันใช้เวลาค่อนวันเลยนะคุณพี่ขา
 
     ที่เขียนอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าหมอสันต์ไม่เห็นด้วยกับการให้เด็กกินอาหารแบบวีแกนนะ ผมเห็นด้วย..แต่ผมไม่ทำ

    "อ้าว หมอสันต์พูดอย่างนี้ได้ไง ทำไมเห็นด้วยแล้วตัวเองไม่ทำ" 

    หิ หิ ตอบว่า

    "เพราะตอนลูกผมยังเด็ก ม. ของผมไม่ยอมให้ทำ"

     ..จบข่าว


นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

ทะเลาะกันเรื่องฝุ่น PM 2.5 บ้าจี้ เพ้อเจ้อ หรือว่าไม่รับผิดชอบ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

แจ้งข่าวด่วน หมอสันต์ตัวปลอมกำลังระบาดหนัก

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

เลิกเสียทีได้ไหม ชีวิตที่ต้องมีอะไรมาจ่อคิวต่อรอให้ทำอยู่ตลอดเวลา

ไปเที่ยวเมืองจีนขึ้นที่สูงแล้วกลับมาป่วยยาว (โรค HAPE)

เสพย์ติดหนังโป๊และการช่วยตัวเอง (masturbation)

หมอสันต์สวัสดีปีใหม่ 2568 / 2025