เล่าความคืบหน้า Senior Co-Housing
ประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้มีจดหมายท่านผู้อ่านจำนวนมากขอให้ผมเขียนเรื่องการเมืองต่อจากเดิมอีกสักครั้ง
ผมขอบอกท่านผู้อ่านไว้เสียตรงนี้เลยนะครับว่าผมไม่ยุ่งกับเรื่องการเมืองอีกแล้วแน่นอนเด็ดขาด
เขียนครั้งเดียวแล้วจบเลย ส่วนท่านผู้อ่านที่กังวลว่าบ้านเมืองจะเป็นยังไงต่อไปนั้นไม่ต้องไปคิดมากหรอกครับ
เด็กอมมือก็เดาทางได้ว่าบ้านเมืองของเรากำลังมาถึงยุคแตกแยกเข่นฆ่ากัน
และมันก็จะเป็นเช่นนี้ไปสักพักรอให้มีเหตุการณ์ที่ใหญ่ระดับช็ฮกซีนีมาพอให้ผู้คนหายบ้า เมื่อผู้คนหายบ้าแล้วทุกอย่างก็จะกลับมาสงบสุขเอง
เหมือนตอนต้นเรื่องสามก๊ก ที่เล่าปี่ไปเสาะหาผู้รู้มาช่วยงานกู้ชาติของตน
ก่อนที่จะไปหาขงเบ้ง เขาไปหาคนที่เจ๋งกว่าขงเบ้งแยะชื่อสุมาเต็กโช
ซึ่งปลูกกระต๊อบอยู่บนเขา
เมื่อได้ต้อนรับขับสู้และรับทราบวัตถุประสงค์ของเล่าปี่แล้ว
สุมาเต็กโชก็บอกเล่าปี่ด้วยความหวังดีว่า
“...เป็นธรรมดาของแผ่นดินนี้
เมื่อเป็นสุขแล้ว ก็เกิดจราจลเล่า เมื่อเกิดจลาจลแล้วก็กลับเป็นสุขเล่า
แลท่านซึ่งปรารถนาจะปราบปรามแผ่นดินอันถึงคราวจราจลให้กลับเป็นสุข
เกรงว่าจะไม่สมปรารถนา ก็จะป่วยการเสียเปล่า..”
ดังนั้นอย่าไปยุ่งกับเรื่องการเมืองเลยครับ
มาคุยกันเรื่องหนุกๆบายๆดีกว่า ผมจะเล่าเรื่องความคืบหน้าการสร้างชุมชนผู้สูงอายุ senior
co-housing ที่มวกเหล็กให้ฟัง เมื่อวานนี้บรรดาผู้ที่จะเข้าอยู่อาศัยใน coho
ทั้ง
11 แปลง (จาก 12 แปลง) ได้มาประชุมกันที่ Health Cottage ที่มวกเหล็ก เพื่อออกแบบชุมชน
ได้คุยกันจนได้ข้อสรุปหลายเรื่อง ซึ่งผมสรุปความคืบหน้าให้ท่านผู้อ่านที่ติดตามโครงการนี้เป็นงานอดิเรกทราบดังนี้
1.. โอเค.กันเรื่องคอนเซ็พท์ที่จะให้อยู่ร่วมกันในอนาคต ว่าจะยึดหลัก (1) Co
care คือดูแลกันและกัน (2) Age
in place คือจะอยู่ที่นี่จนวาระสุดท้าย (3) Co decision คือตัดสินใจทุกอย่างร่วมกันด้วยมติเอกฉันท์
(4) Community + Private life คือจะมีทั้งชีวิตส่วนตัวและชีวิตรวมกลุ่มควบกันไป
(5) Visiting caregiver คือจะนำเข้าผู้ดูแลคนสูงอายุจากภายนอกเข้ามาเมื่อจำเป็น
(6) สมาชิกจะไม่ค้าขายกับ
Coho คือทำอะไรให้ coho ก็ต้องเป็นจิตอาสาฟรีหมด
2.. โอเค.กับ theme ที่จะใช้บอกความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน coho
ว่าจะมีสามอย่าง
คือ (1) จะใช้เนินหญ้าเขียวเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ ให้หญ้าเขียวลาดขึ้นลงไปตามเนิน
สอดแทรกไปถึงทุกตัวบ้านซึ่งตั้งอยู่ห่างกันพอประมาณและไม่มีรั้วระหว่างกัน (2) ทำสวนดอกไม้แบบ
cottage garden ที่ common area ให้เป็นศูนย์กลางชุมชน และสนับสนุนให้สมาชิกทำสวนดอกไม้หน้าบ้านตนเองถ้าสามารถทำได้
(3) ใช้หลังคาบ้านแบบ shingle เหมือนกันหมด จะเป็น asphalt หรือ wood
shingle ก็ได้ ทั้งนี้ยกเว้นบ้านของสมาชิกที่ออกแบบ modern หลังคาราบ
3.. ตกลงเรื่อง Common area ว่าจะให้มี (1) บ้านพักคนสวนขนาด
24 ตรม. ในรูปแบบ ADU (accessory dwelling unit) ที่ออกแบบให้ดูดี
(2) มีสวน
cottage garden (3) มีมุมพบปะกันกลางแจ้ง ส่วนแนวคิดเดิมที่จะสร้าง common house
นั้นยกเลิกไปตามผลสำรวจความเห็นครั้งแรกที่สรุปก่อนหน้านี้ว่าไม่น่าจะเวอร์ค (4) ฝังถังเก็บน้ำไว้ใต้ดิน
ส่วนข้อเสนอที่จะให้มีสระเก็บน้ำดิบสำหรับรดต้นไม้แยกจากระบบน้ำใช้ในบ้านนั้นสมาชิกบางรายที่ถือเรื่องฮวงจุ้ยไม่เอาด้วย
เพราะไม่อยากมีสระน้ำอยู่หลังบ้าน จึงต้องยกเลิกไป
4.. แล้วก็มาคุยกันเรื่องรั้วรอบชุมชน รั้วชนิดกำแพงทึบสมาชิกหลายท่านไม่เอาด้วย รั้วชนิดคาวบอยของเดิมก็กลัวคนบุกรุกง่าย รั้วเหล็กแบบมีคานคอดินแน่นหนาดูดีก็ราคาแพงเกินไป ในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกรั้วแบบ G-fence ในวงเงินประมาณ 1800 บาทต่อเมตร
เป็นรั้วของชุมชน
5.. ตกลงเลือกแนวทางเดินเลียบด้านในของรั้วในเป็นทางเดินออกกำลังกายภายในชุมชน
โดยจะเคลียร์แนวทางแล้วทดลองใช้ไปก่อนโดยยังไม่ก่อสร้างเป็นทางคอนกรีต
เมื่อใช้การได้ดีไม่มีอุปสรรคแล้วจึงค่อยสร้างเป็นทางเดิน คสล.
หรือทางเดินราดอัสฟัลท์ภายหลัง
6.. ตกลงกรอบงบประมาณ coho ดังนี้ คือ
ค่าที่ดินส่วนกลาง 492,000 บาท ค่ารั้ว 1.2 ล้านบาท ค่าระบบจ่ายน้ำ 600,000 บาท
ค่าอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง 1.1 ล้านบาท ค่าปลูกบ้านพักคนสวน 240,000 บาท
ค่าสร้างภูมิทัศน์ 1 ล้านบาท เงินสำรอง 1.6 ล้านบาท โหลงโจ้งคือตั้งงบส่วนกลางไว้ 6.25
ล้านบาท
7… คราวนี้ก็มากำหนดตำแหน่งบ้านของแต่ละคนเพื่อไม่ให้บดบังวิวของกันและกัน
สมาชิกเอาแบบจำลองบ้านของตัวเองแปะลงไปบนเลย์เอ้าท์ของชุมชน ดูทิศทางลม ทิศทางแดด
และฮวงจุ้ยของใครของมัน ขยับไปขยับมาจนลงตัว
แล้วออกไปตากแดดดูพื้นที่จริงกันอีกทีหนึ่ง
ขณะไปดูที่กัน ได้มีเพื่อนบ้านเป็นวิศวกรการบินคนหนึ่งชื่อนายช่างชัย เขาได้ทิ้งงานปลูกบ้านของตัวเองเดินขึ้นเนินมาในชุดช็อพซ่อมเครื่องบิน มาเม้าท์กับสมาชิก coho เม้าท์ไปเม้าท์มาทำให้สมาชิกโคโฮสลายการประชุมไปเพราะอากาศเย็นแล้ว โดยลืมคุยกันในเรื่องที่ตั้งเป็นวาระไว้อีกสองสามเรื่อง..โทษนายช่างชัยเนี่ยแหละ
8.. สมาชิกเสนอให้กำหนดตำแหน่งและขนาดของต้นไม้ใหญ่บางต้นที่จะเป็นเอกลักษณ์เชิงภูมิสถาปัตย์ของชุมชน
จึงตกลงกันว่าให้สมาชิกช่วยกันออกแบบตำแหน่งของต้นไม้หลักในเชิงภูมิสถาปัตย์ออกมาก่อน
แล้วเช็คความเห็นกันทาง line เมื่อเห็นพ้องกันแล้วจึงหารือเจ้าของที่ดินที่จะเป็นที่วางต้นไม้
ถ้าเจ้าของที่ดินโอเค. จึงจะปลูกต้นไม้นั้นด้วยเงินของ coho
9. สมาชิกบางคนคิดจะทำสระว่ายน้ำส่วนตัว ผมจึงยุส่งว่าไหนๆจะทำสระแล้วขอเป็นสระน้ำอุ่นนะจะได้มาขอว่ายด้วย
เพราะที่มวกเหล็กหากทำสระน้ำเย็นมีหวังไม่ได้ว่ายซะเจ็ดเดือนในหนึ่งปี แถมคนแก่เมื่อลงน้ำเย็นแล้วจะปวดข้อปวดกระดูกทรมานชะมัด
10.. สมาชิกที่อยู่ในที่ต่ำกังวลเรื่องน้ำไหลผ่าน จึงได้ตกลงกันว่าเมื่อภูมิสถาปนิกได้จัดทำ
contour map แล้ว coho จะทำแผนปรับเนินหญ้าเป็น slope พาน้ำไหลหลบพื้นที่ปลูกบ้านของสมาชิกทุกหลังเพื่อเอาน้ำไปออกคลองระบายริมถนนนอกรั้วชุมชน
ขั้นตอนจากนี้ไปก็คือการปลูกบ้านของสมาชิก
โดยหากประสงค์จะใช้บริการของสถาปนิกและผู้รับเหมาที่ coho เลือกไว้สมาชิกก็แจ้ง
conceptual design ของตัวเองแล้วส่งให้ผู้รับเหมาประเมินราคาเบื้องต้นได้เลย
ส่วนใครที่คิดจะออกแบบปลูกสร้างเองก็เดินหน้าเองได้
โดยมีกรอบกว้างๆแค่ว่าความสูงบ้านไม่เกิน 7 เมตรบวกลบนิดหน่อยได้ถ้าไม่สูงโด่ค้ำบ้านคนอื่น
ยังไม่ทันจะโอนโฉนดกันเลย สมาชิกบางท่านก็เริ่มเดินหน้าปลูกบ้านไปแล้ว
ประมาณว่าต้นหน้าหนาวปีหน้านี้ common area และสวนดอกไม้ cottage garden น่าจะเสร็จ ถ้าเสร็จแล้วผมจะถ่ายรูปมาให้ดู และบ้านสมาชิกอย่างน้อยหนึ่งหลังน่าจะเสร็จให้ทันฉลองเปิดชุมชนเอาฤกษ์เอาชัยในหน้าหนาวปลายปีนี้แน่นอน
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์