Colic ในเด็กโต


ขอเวลานอก

ก่อนเปิดจดหมาย ผมขอเวลานอกพูดถึงจดหมายของหลายท่านที่เขียนมาโดยขอให้ผมตอบอีเมลส่วนตัวโดยขอไม่เอาลงในเว็บ ซึ่งผมต้องขอโทษที่ทำให้ไม่ได้ เพราะผมไม่มีเวลา จดหมายเหล่านั้นจึงถูกทิ้งไปอย่างน่าเสียดายทั้งๆที่บางฉบับมีสาระน่าจะมีประโยชน์กับผู้อื่นอีกมาก ขอทำความตกลงกฎกติกาก่อนนะว่าการตอบจดหมายของผมทุกครั้งผมต้องเอาลงบล็อกนี้ เพื่อให้คุ้มค่ากับเวลาที่ผมใช้ตอบจดหมาย เพราะว่าได้อ่านกันทีละหลายคน ดีกว่าได้อ่านคนเดียว ผมรับปากให้ได้อย่างเดียวว่าจะช่วยปกปิด privacy ให้กับจดหมายทุกฉบับ แต่ถ้าจะให้ผมตอบ ต้องยอมให้ผมเผยแพร่เรื่องของท่านเป็นการแลกเปลี่ยนนะครับ

เอาละมาตอบจดหมายกันต่อ ฉบับนี้คุณแม่ถามเรื่องลูกสาว

...........................................

เรียน คุณหมอสันต์ที่เคารพ

ลูกสาวหนูคนโต อายุ 6 ปี ส่วนสูง 121 ซม น้ำหนัก 27 กิโลกรัม มีอาการปวดท้องบริเวณสะดือ มาได้สองสัปดาห์ ขับถ่ายเป็นปกติ วันละสองครั้ง แต่บางวันอุจจาระเป็นก้อนเล็กๆความยาวประมาณ 2-3 ซม บางวันเป็นเส้นปกติ ไม่มีอาการอาเจียน ไม่มีไข้ ยังคงร่าเริงดี เล่นดี แต่บ่นปวดท้องบ่อยขึ้นเรื่อยๆ  ตอนเย็นๆ หนูได้พาไปหาคุณหมอทางเดินอาหารเด็ก คุณหมอแจ้งว่าเป็นโคลิคในเด็กโต ลำไส้ทำงานเร็วมาก เมื่อคืนนี้ตอนประมาณสามทุ่ม ลูกปวดท้องจนร้องไห้ หนูเลยใจไม่ดี

ขอเรียนถามคุณหมอดังนี้

     1. ในเด็กวัยนี้ เราสามารถทำอัลตราซาวด์ x-ray หรือส่องกล้องได้มั๊ยคะ ให้รู้แน่ชัดว่าเป็นอะไรกันแน่ เพราะหนูไม่สบายใจเลย ไปหาคุณหมอมาแล้วสองท่านทั้งสองท่านยืนยันว่าเป็นโคลิค ไม่อันตรายแต่หนูกลัวว่าอาการนี้จะรบกวนการเรียนหนังสือของลูกทำให้ลูกเรียนไม่รู้เรื่อง (ปกติลูกสาวเป็นเด็กดีมาก อารมณ์ดี ร่าเริงมากๆ ตั้งใจเรียนสมาธิดีมาก มาโดยตลอด)
     2. สามารถเป็น symptom ของโรคอะไรที่รุนแรงในเด็กม้๊ยคะ ลูกปวดเฉพาะที่สะดือ เวลาลูกปวดไม่ถึงกับปวดตัวงอ ยังคงเดินตัวตรงๆ ทำกิจกรรมได้ปกติ แต่จะทำหน้านิ่วเล็กน้อย มีเมื่อคืนครั้งเดียวที่ปวดจนร้องไห้
     3. เป็นไปได้มั๊ยคะว่าเกิดจากความเครียด ตอนนี้ ลูกขึ้นป 1 ต้องปรับตัวมาก เรียนหนักกว่าอนุบาล และ คุณครู ให้ทำงานค่อนข้างมาก ตามสไตล์เด็กสาธิต แต่หนูถามเค้าว่า ลูกเครียดเรื่องอะไรมั๊ยคะ ลูกตอบว่า หนูว่าหนูเรียนหนักแต่ไม่เครียดนะมาม๊า  

ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ

……………………………………………………

ตอบครับ

1.. ในเด็กอายุ 6 ขวบ การทำอัลตราซาวด์ ก็ดี  x-ray ก็ดี ส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารก็ดี สามารถทำได้หมด แต่ไม่ควรทำ เพราะประโยชน์ของการตรวจเหล่านี้มีน้อยจนไม่คุ้มทำ กล่าวคือ
1.1.การทำเอ็กซ์เรย์ท้องนั้นจะช่วยวินิจฉัยโรคเฉพาะกรณีมีนิ่วในทางเดินปัสสาวะหรือกรณีลำไส้อุดตัน (gut obstruction) จากสาเหตุต่างๆเช่นลำไส้กลืนกัน ลำไส้หมุนบิดรอบขั้ว เป็นต้น ซึ่งในกรณีของลูกสาวคุณ หมอเขาสามารถวินิจฉัยแยกจากอาการได้แต่แรกแล้วว่าไม่ใช่ลำไส้อุดตัน ส่วนการมีนิ่วในทางเดินปัสสาวะนั้น ถ้าจะตรวจก็ควรจะเริ่มที่การวิเคราะห์ปัสสาวะ (UA)ก่อนดีกว่า เพราะทำง่าย ไม่ต้องปล้ำเด็ก ไม่เจ็บ ไม่ต้องโดนรังสีเอ็กซ์เรย์
1.2.การทำอุลตร้าซาวด์ท้องจะมีประโยชน์มากในการช่วยวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบโดยเฉพาะในระยะแรก ซึ่งในกรณีของลูกสาวของคุณหมอเขาวินิจฉัยได้จากอาการแล้วเช่นกันว่าไม่ใช่กรณีไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน
1.3. การส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารในเด็กอายุขนาดนี้มีโอกาสที่จะพบพยาธิสภาพในกระเพาะอาหารและหลอดอาหารน้อยมาก เพราะสาเหตุของการปวดท้องในเด็กวัยนี้เช่นแก้ส หรือกรดในกระเพาะมาก จะไม่ไม่ทิ้งร่องรอยพยาธิสภาพใดๆไว้ให้ส่องเห็น ส่องไปก็ไลฟ์บอย จึงไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่ต้องจับเด็กดมยาสลบเพื่อตรวจ เพราะเด็กทั่วไปในวัยนี้จะกลัวและร้องจนไม่ยอมให้ตรวจดีๆแน่นอน

2.. อาการปวดท้องในเด็กอายุหกขวบ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ แต่ที่สาเหตุที่พบบ่อยมีดังนี้
2.1. มีแก้สในท้อง จะในกระเพาะ หรือในลำไส้ก็ทำให้ปวดได้ การนวดคลึงท้อง หรือกินยาตีฟองแก้สเช่น Simethicone อาจช่วยได้บ้าง
2.2. ติดเชื้อไวรัสอะไรสักอย่าง เช่น ไข้หวัดใหญ่ พวกนี้มักทำให้ปวดท้องได้ ส่วนใหญ่โดยผ่านกลไกทำให้ต่อมน้ำเหลืองที่ขั้วลำไส้อักเสบ (mesenteric lymphadenitis)
2.3 อาหารเป็นพิษ หมายถึงว่ามีเชื้อบักเตรีหรือไวรัสที่ทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย อยู่ในอาหาร
2.4 กรดในกระเพาะมากชั่วคราว แบบที่ผู้ใหญ่เป็น heartburn คือจุกเสียดแน่นเฟ้อเรอเปรี้ยว
2.5 แพ้อาหาร ที่แพ้กันบ่อยที่สุดและทำให้ปวดมวนท้องมากที่สุดได้แก่ นม ถั่ว ปลา ข้าวสาลี หรือแม้กระทั่งไข่ก็มีแพ้กันบ่อยๆ
2.6 ปวดเพราะอาหารเป็นกรด เช่นซอสมะเขือเทศ ส้ม น้ำส้ม เป็นต้น
2.7 ท้องผูก
2.8 ปวดกล้ามเนื้อผนังหน้าท้อง ซึ่งทำให้ปวดท้องไปนานเป็นเดือนๆได้เหมือนกัน ลองมองหารอยฟกช้ำบนกล้ามเนื้อหน้าท้อง สีข้าง และหลัง แสะเลียบเคียงถามเรื่องการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุที่โรงเรียน ถ้ามีร่องรอยฟกช้ำผิดสังเกต อย่าลืมคิดเผื่อไปถึงการทำทารุณกรรมเด็ก (child abuse) ไว้ด้วย เพราะทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ไม่ว่าจะเป็น พี่เลี้ยง ครู เพื่อนตัวโตๆ รุ่นพี่ ล้วนอยู่ในข่ายที่จะทำทารุณกรรมต่อเด็กได้ทั้งนั้น
2.9 ปวดประจำเดือน เคยมีรายงานว่าเกิดในเด็กอายุ 8 ขวบ ผมยังไม่เคยได้อ่านหรือได้ยินว่ามีในเด็กอายุ 6 ขวบ 
2.10 สาเหตุรุนแรงที่สุดของการปวดท้องในเด็กสองประการ (ซึ่งวินิจฉัยได้ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าไม่ใช่ในกรณีลูกสาวของคุณ) คือ ไส้ติ่งอักเสบ และลำไส้อุดตัน  

3. การปวดท้องจากความเครียดเป็นไปได้ในคนทุกอายุ รวมทั้งเด็กอายุหกขวบด้วย

4. คำแนะนำของผมก็คือคุณลองไล่สาเหตุข้างต้นว่าจะเป็นอะไรได้บ้าง ถ้าไล่แล้วก็ไม่พบว่าจะมีสาเหตุอะไรเป็นตุเป็นตะสักอย่าง ก็ให้ทำตามที่หมอของคุณแนะนำ คือ...เฉยเอาไว้ก่อน เดี๋ยวดีเอง

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

วิตามินดีเกิน 150 หมอบอกมากเกินไป ท้ังๆที่ไม่ได้ทานวิตามินดี

Life Skill Camp for Kids แค้มป์ทักษะชีวิตเยาวชนที่มิวเซียมสยาม 16 พย. 67

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี