วัคซีน Gardasil กับกิแลงแบร์ (Guillain-Barre Syndrome - GBS)
ทุกวันนี้มีเมลจำนวนมากที่เขียนทวงเรื่องเก่าแต่หนหลัง เช่น..
“...หากคุณหมอพอมีเวลาว่ างรบกวนตอบอีเมลฉบับก่อนหน้านี้ ที่ส่งไปปรึกษาคุณหมอด้วยนะคะ
ตอนนี้ยังแปล๊ปๆจี๊ดๆไม่ หายเลยเครียดมากๆ
จึ๊ดๆแปล๊บไปตามแขนขน มือเท้า นิ้ว ขอบคุณมากนะคะ หนูจะรออีเมลของคุณหมอนะคะ..”
เมลทำนองนี้มักจะมาสองแนว ถ้าเป็นของหญิงก็จะออกแนวอ้อนๆอย่างข้างบนนี้
ถ้าเป็นของชายก็จะออกแนวเข้มแข็งแกมขู่นิดๆแบบว่าไม่รีบตอบจะเลิกนับญาติกันนะ
ทำนองนั้น แต่ไม่ว่าจะมาแนวไหนก็มีผลเหมือนกัน คือหมอสันต์ไม่เก็ท เพราะหมอสันต์ไม่เก่งถึงขนาดจะไปค้นหาเมลเก่าซึ่งมีแยะแยะแป๊ะตราไก่เจอ
อีเมลที่ค้างอยู่จึงจะถูกลบอัตโนมัติในเวลาประมาณหกเดือน ดังนั้นสำหรับท่านที่เขียนมาถามอะไรแล้วหากผ่านไปหกเดือนแล้วยังเงียบฉี่สวีวี่วีก็ขอให้
make your heart คือทำใจเสียเถอะ คิดเสียว่าคบกับคนแก่อายุหกสิบก็งี้แหละ
จะให้มันคึกคักฟึบฟับอย่างคนหนุ่มย่อมไม่ได้ ฉันใดก็ฉันเพล
พูดถึงเมลของสาวน้อยข้างบนนี้บังเอิญฟลุ้คว่าผมไปค้นหาแล้วเจอ
จึงเอามาตอบให้วันนี้ เธอถามว่า
“..สวัสดีค่ะคุณหมอ
หนูได้พบบล็อกคุณหมอ ได้อ่านบล็อกของคุณหมอแล้วได้ ความรู้เรื่องสุขภาพเยอะเลยค่ะ
วันนี้หนูมีเรื่องร้อนใจ อยากมาขอคำปรึกษา หนูอายุ 23 ย่าง 24 มีสุขภาพแข็งแรงปนเจ็บป่วยบ้ างเล็กน้อย
ไม่มีโรคประจำตัว ปัญหาสุขภาพของตัวเองที่มี มาตลอดคือ ประจำเดือนมาไม่ปกติ และตกขาวเยอะ
ด้วยความที่กลัวเป็นมะเร็ งปากมดลูกเลยไปรับการคั ดกรองมะเร็งปากมดลูกและได้ฉีดวั คซีดป้องกันมะเร็งปากมดลูก
คุณหมอเลือกฉีด gardasil ให้
จำวันฉีดเข็มแรกที่แน่นอนไม่ได้ แต่เป็นช่วงก่อนสงกรานต์น่าจะสั กอาทิตย์
หรืออาทิตย์กว่า พอวันที่ 16-17 เมษายนมี อาการปวดช่วงต้นขามาก เป็น 2 วันก็หายทั้งที่ก็ไม่ได้ ไปเดินหรือทำอะไรที่ทำให้น่ าจะปวดขามา
พอหลังจากนั้นไม่กี่วันเริ่มมี อาการเจ็บแปล๊บ ตามแขนขา มือเท้า และนิ้ว
อาการคืออยู่ดีๆก้อจี๊ดแปล๊บขึ้ นมาแล้วก็หาย แล้วก้อเป็นขึ้นมาอีก
บางครั้งคล้ายอาการเหมือนโดนเข็ มแทง ช่วงวันที่ 29 เมษาก็มีเหมือนลมพิ ษขึ้นที่แขนนิดนึง
สัก 1 ชั่วโมงมันก็ยุบไปเอง ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอากาศร้ อนหรือเปล่า
หลังจากนั้นก็ขึ้นอีกประมาณ 3 ครั ้งแต่ตอนนี้เรื่องลมพิษหายเป็ นปกติแล้วค่ะ
แต่ก่อนหน้าที่เคยฉีดวัตซีนไม่ เคยเป็นลมพิษมาก่อนเลยนะคะ
ส่วนเรื่องจึี๊ดๆแปล๊บๆเป็ นมา 3 อาทิตย์ได้แล้วค่ะ เป็นทุกวัน และถี่ด้วยค่ะ
ไม่รู้ว่าเป็นผลมาจากการฉีดวั คซีนหรือเปล่า
ก่อนจี๊ดๆแปล๊บๆโดนมีดบาดบ่อยด้ วยคะ ไปร้านขายยา
เค้าบอกว่าหนูเป็นปลายประสาทอั กเสบแล้วให้ยา B-Forte
มาทาน
ข้างกล่องกำกับว่าใช้ในผู้ป่ วยที่มีอาการปลายประสาทอั กเสบเนื่องจากแอลกฮอล์หรื อเบาหวาน
(ซึ่งหนูไม่ได้เป็ นเบาหวานแต่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ นะคะ) หนูทานมา 4 วันแล้วเหมือนจะแปล๊ บเบาขึ้น ดีขึ้นบ้าง
แต่ก็ยังเป็นอยู่ รบกวนขอคำปรึกษาคุณหมอด้วยค่ะ หนูเครียดมากๆ
เครียดจนประจำเดือนไม่มาจะ10 วั นแล้วค่ะ
หนูแพ้วัคซีนที่ฉีดมาหรือเปล่า หนูไม่กล้าไปฉีดเข็มที่ 2 เข็มที่ 3 เลยค่ะ
หนูควรฉีดให้ครบ 3 เข็มไหมคะ
แล้วอาการที่หนูเป็นมันอั นตรายไหม แล้วหนูต้องปฎิบัติตัวอย่างไรต่ อไป
หนูจะเป็น กีแยง
บาร์เรไหมคะ พอดีไปเซิร์ทเจอว่าเป็นผลข้ างเคียงในการฉีดวัคซีน 2009 ได้ด้ วย
เห็นว่า gardasil เป็นวัคซีนเหมือนกั นเลยกลัว แต่หนูหน้าไม่เบี้ ยวนะคะ
คุณหมอให้คำปรึกษาด้วยนะคะ ขอบพระคุณคุณหมออย่างสูงค่ะ...”
.............................................
ตอบครับ
คำถามของคุณเป็นประเด็นความปลอดภัยของวัคซีน ซึ่งมีสาระลึกซึ้ง เข้าใจกันผิดได้ง่ายๆ
และคาบเกี่ยวกับผลประโยชน์ของบริษัทยาอย่างมหาศาล ก่อนตอบคำถามของคุณผมขอ “ออกตัว”
หรือที่ฝรั่งเรียกว่า “disclaim” ก่อนนะ
ว่าตัวผมนี้ไม่ได้เป็นญาติโกโหติกาอะไรกับพวกบริษัทยาฝรั่ง
ไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนแบบว่ารับการสนับสนุนใดๆจากคนผลิตหรือคนขายยา จะมีอยู่บ้างก็แค่น้องสาวแท้ๆของผมที่คลานตามกันออกมาเธอเป็นเภสัชกรและไปทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยการทำยาสระหัวจากหญ้าแห้งและสมุนไพรขาย
แล้วผมก็อาศัยความเป็นพี่ขอยาสระหัวของเธอมาใช้เป็นประจำโดยไม่จ่ายเงิน
นี่จัดว่าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนอันเดียวที่ผมมีอยู่กับผู้ผลิตและขายยา
ดังนั้นคำตอบของผมเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนป้องกัน HPV นี้จึงเป็นคำตอบที่มีพื้นฐานอยู่บนหลักฐานวิทยาศาสตร์ล้วนๆ ไม่ได้ตอบเพื่อแอบเอื้อประโยชน์ให้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนแต่อย่างใด
ก่อนตอบคำถามขอปูพื้นก่อนนะ
1.
ระบบติดตามความปลอดภัยของวัคซีน
ทั้งโลกจะอาศัยระบบรายงานผลข้างเคียงของวัคซีนของอเมริกาซึ่งเรียกย่อๆว่า VAERS ย่อมาจาก vaccine adverse
event reporting system เข้าไปรวมเป็นศูนย์ข้อมูลไว้ที่ศูนย์ควบคุมโรค
(CDC) ข้อมูลจาก VAERS นี้เป็นเพียงบอกว่ามีคนใช้วัคซีนแล้วหลังจากนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ยังไม่ได้พิสูจน์ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือเปล่า ต้องรอการพิสูจน์ด้วยการวิจัยเชิงลึก
ยกตัวอย่างเช่นใช้วัคซีนแล้วหูตึง ก็จะรายงานไปที่ VAERS แต่การพิสูจน์ภายหลังอาจพบความจริงว่าหูตึงไม่ได้เกิดจากวัคซีนหรอก
แต่เกิดจากถูกภรรยา “บ้องหู” เอา (พูดเล่นนะครับ) กล่าวโดยสรุป
เมื่อผมเล่าข้อมูลจาก VAERS ให้ฟัง
พึงเข้าใจว่ามันอาจเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับวัคซีนก็ได้
2.
หากนับมาถึงเดือนกย.ปีที่แล้ว (2011) มีการใช้วัคซีน Gardasil ในอเมริกาไปแล้วประมาณ 40 ล้านโด้ส
มีรายงานผลข้างเคียง 20,096 ราย (0.05%)
ในจำนวนนี้ 19,233 รายหรือ 0.048% เป็นเรื่องไม่ซีเรียสเช่น
ปวด บวม แดง ร้อนตรงที่ฉีด ไข้ เวียนหัว คลื่นไส้ หน้ามืด เป็นลมหลังฉีดแล้วฟื้นได้เองโดยปลอดภัย
เป็นต้น แต่ก็มี 1,607 ราย (0.004%) เป็นเรื่องซีเรียสถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล
หรือทุพลภาพ หรือตาย ในบรรดาผู้ที่ตายมีอยู่ 32 รายที่สามารถวิจัยสาเหตุได้ครบ
ทุกรายพิสูจน์ได้ว่าเหตุการณ์ตายไม่เกี่ยวกับวัคซีน ดังนั้นหากมองจากฐานข้อมูลใหญ่ขนาดนี้
จะเห็นว่าวัคซีน Gardasil ในภาพรวมเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัยสูงมาก
3.
ในประเด็นการเกิดกลุ่มอาการกิแลงบาร์
(Guillain-Barre Syndrome - GBS) ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า
GBS นี้มีอุบัติการณ์เกิด 1-2 คนต่อประชากรวัยรุ่นทั่วไปทุก
100,000 คน จึงไม่น่าแปลกที่ในบรรดาผู้ใช้วัคซีนหลายสิบล้านคนจะมีรายงานว่าเกิด
GBS หลังการใช้วัคซีนอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม อุบัติการณ์เกิด GBS
ในกลุ่มผู้ใช้วัคซีนไม่ได้สูงกว่าอุบัติการณ์ในคนทั่วไป ทั้งการติดตามสืบค้นผู้ที่เกิด
GBS หลังการใช้วัคซีน Gardasil ในขั้นละเอียดทุกคน
ก็ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างการใช้วัคซีนกับการเกิด GBS พูดง่ายๆว่าหลักฐานปัจจุบันบ่งชี้ว่าวัคซีน
Gardasil ไมได้ทำให้เกิด GBS
4.
ขอเจาะลึกเรื่อง
GBS นิดหนึ่ง ว่ามันคือกลุ่มอาการอัมพาตชั่วคราวของขาหรือแขนหรือกล้ามเนื้อเกี่ยวกับการหายใจที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการบาดเจ็บใดๆนำมาก่อน
แต่มักมีการติดเชื้อนำหน้ามาก่อน คนที่เคยเป็น GBS มาแล้วจะมีอุบัติการณ์เป็นซ้ำได้อีกสูง
เพียงแค่มีอะไรมากระตุ้นนิดหน่อยก็เป็นซ้ำได้ง่าย ดังนั้นศูนย์ควบคุมโรค (CDC)
จึงได้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนในคนที่เคยเป็น GBS มาแล้ว เพราะเกรงว่าจะไปกระตุ้นให้โรคเก่ากำเริบขึ้นมาได้ง่าย
เอาละคราวนี้มาตอบคำถามของคุณ
1. ถามว่าอาการปวดช่วงต้นขามากเกิดจากการฉีดวัคซีนได้ไหม
ตอบว่าเป็นไปได้ครับ เพราะรายงานผู้ป่วยที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อหลังฉีดวัคซีน Gardasil มีให้เห็นเป็นประจำ
2. ถามว่าอาการลมพิษเป็นๆหายๆเกิดจากการฉีดวัคซีนได้ไหม
ตอบว่าเป็นไปได้ครับ เพราะมีรายงานผู้ป่วยใน VAERS บ้างเช่นกัน ย้ำว่าเป็นไปได้เฉยๆนะ
แต่อาจจะเกิดจากอะไรอย่างอื่นก็เป็นไปได้อีกนะแหละ จึงไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเกิดจากอะไร
3. ถามว่าอาการเจ็บแปล๊บ
ตามแขนเขา มือ เท้า แบบอยู่ดีๆก้อจี๊ดแปล๊บขึ้ นมา แล้วก็หาย
แล้วก้อเป็นขึ้นมาอีก แถมโดนมีดบาดบ่อยอีกต่างหาก ทั้งหมดนี้เกิดจากการฉีดวัคซีนได้ไหม
อันนี้ผมตอบไม่ได้ครับ เพราะในรายงาน VAERS ไม่เห็นมีเรื่องทำนองนี้รายงานไว้ว่าพบชุกชุมในคนใด้วัคซีนแต่อย่างใด
แต่ผมอยากจะบอกคุณว่าอาการแปล๊บๆจี๊ดๆนี้เป็นได้กับทุกคน มากบ้างน้อยบ้าง คนที่ยิ่งขี้กังวลก็ยิ่งจะมีอาการมาก
คนที่ซื่อบื้อดื้อด้านจะมีอาการแบบนี้น้อย เพราะอาการแปล๊บๆจี๊ดๆนี้มันจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสมองจะเพ็ดทูลคุณ
โดยที่ของจริงในพื้นที่ (หมายถึงที่ปลายประสาท) อาจจะไม่มีรอยโรคใดๆเลยก็ได้ บางคนถึงกับเป็นเหตุให้หมอต้องสืบค้นหาสาระพัดโรคแต่ก็ไม่เจออะไร
ซึ่งหากหาสาเหตุอะไรไม่เจอ หมอก็มักสรุปให้แบบเสร็จสรรพว่าเป็นโรค “ปสด.” (พูดเล่นนะ แหะ แหะ)
4. ถามว่าควรจะเชื่อคำวินิจฉัยของคนขายยาว่าเป็นปลายประสาทอักเสบและกินยา
B-forte ต่อไปดีไหม
ตอบว่าทำตามที่เขาแนะนำก็ไม่เสียหายอะไรครับ เพราะอาการของคุณไม่จำเพาะเจาะจง ถึงคุณไปหาหมอจริงๆตอนนี้เขาก็คงวินิจฉัยอะไรยังไม่ได้
อีกทั้งยาที่ได้มานั้นจริงๆก็คือวิตามินบี 1-6-12 จัดว่าเป็นอาหารด้วยซ้ำ ไม่ใช่ยา ไม่มีพิษอะไร
5. ถามว่าไม่ได้เป็นเบาหวานไม่ได้ดื่มเหล้า
จะเป็นปลายประสาทอักเสบได้หรือ ตอบว่าได้ครับ เพราะอาการปลายประสาทอักเสบเกิดได้จากสารพัดสาเหตุ
ไม่จำเพาะกับเป็นเบาหวานกับดื่มเหล้าเท่านั้น
6. ถามว่าหนูเป็นกิแลงแบร์หรือเปล่า
ตอบว่าไม่เป็นหรอกครับ อาการของคุณเป็นอาการด้านเส้นประสาทรับความรู้สึก (sensory nerve)
ส่วนกิแลงแบร์หรือ GBS
นั้นจะมีอาการเด่นทางด้านประสาทสั่งการเคลื่อนไหว
(motor nerve) คือพูดง่ายๆว่าอาการอัมพาต โดยเริ่มที่ปลายขาหรือปลายแขนแล้วลามขึ้นบน GBS จึงเป็นอะไรที่ใหญ่โตและซีเรียสกว่าที่คุณเป็นอยู่แยะ
7. ถามว่าควรจะไปฉีดวัคซีนเข็มสองและสามต่อให้ครบดีไหม
ตอบว่าขึ้นอยู่กับการประเมินชีวิตของคุณตอนนี้ว่าปกติไหม
หากคุณประเมินอาการแปล๊บๆจี๊ดๆตอนนี้ว่าไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณมีปัญหา
ก็ไปฉีดวัคซีนเข็มสองและสามได้ แต่หากคุณประเมินว่าอาการแปล๊บๆจี๊ดๆนี้รบกวนคุณมาก
ก็ควรจะรอให้เรื่องนี้มันอยู่ตัวก่อน จึงค่อยไปฉีดวัคซีน เพราะสำหรับคนขี้กังวลอย่างคุณหากความวัวยังไม่หาย
คุณไปเอาความควายเข้ามาแทรก ประจำเดือนที่หายไป 10 วันอาจจะหายจ้อยไปเลยก็ได้ ส่วนประเด็นที่ว่าหากทิ้งระยะระหว่างเข็มแรกกับเข็มที่สองห่างเกินไป
จะมีผลให้การกระตุ้นภูมิคุ้มกันลดลงหรือเปล่า ตอบว่าไม่มีผล เพราะธรรมชาติของการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายเรานี้
ยิ่งระยะระหว่างวัคซีนเข็มแรกกับเข็มหลังห่างกันเท่าใด ก็ยิ่งกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันได้แรง
เท่านั้น
8.
ก่อนจบขอแถมนอกเรื่อง GBS นิดหนึ่งนะ ที่คุณว่าไปเซิร์ชเจอว่ากิแลงแบร์เป็นผลข้ างเคียงในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ตรงนี้เป็นตัวอย่างของการใช้ข้อมูลในเน็ทแบบผิดพลาด
คือข้อมูลในเน็ทมีเป็นจำนวนมากที่เป็นข้อมูลระดับงูๆปลาๆ หากไม่มีวิธีกลั่นกรองที่ดี
ก็จะทำให้เข้าใจอะไรผิดได้ง่ายๆ อย่างในเรื่องนี้ความจริงมีอยู่ว่า เมื่อมีการนำวัคซีนไข้หวัดใหญ่รุ่นเก่าออกใช้เมื่อปีพ.ศ.2519 (คศ.1976) หรือเมื่อสามสิบกว่าปีมาแล้ว ก็มีการรายงานว่ามีคนได้วัคซีนแล้วเป็น
GBS มากขึ้น ทำให้วงการแพทย์หันมาทำวิจัยเรื่องนี้อย่างจริงจังกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่รุ่นใหม่ที่นำออกใช้ช่วงปีค.ศ. 2005-2007 โดยทำวิจัยในเด็กจำนวน 1,195,552 คน ก็ได้ข้อสรุปว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่รุ่นใหม่ไม่ได้ทำให้เป็น GBS เพิ่มขึ้น นอกจากนี้งานวิจัยขนาดใหญ่บางรายการเช่นงานวิจัยฐานข้อมูลวัคซีนของอังกฤษ
(GPRD) พบว่าผู้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มีความสัมพันธ์กับการเป็น
GBS น้อยกว่าผู้ที่ไม่ฉีดเสียอีก
ทั้งนี้อาจเป็นผลจากการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ (ซึ่งมักทำให้เป็น GBS ตามหลัง) ลดลง
หรือเกิดจากปัจจัยกวนที่ผู้ได้รับวัคซีนมีสุขภาพทั่วไปดีกว่าผู้ไม่ได้รับก็เป็นได้
งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งวิเคราะห์ข้อมูล GPRD นาน 9 ปีแล้วพบว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่าง GBS กับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เลย
แม้การวิเคราะห์ข้อมูลของวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 เองก็พบว่าอุบัติการณ์เกิด
GBS ของผู้ใช้กับไม่ใช้วัคซีนไม่ได้แตกต่างกัน ข้อสรุปในภาพใหญ่ตอนนี้คือวงการแพทย์ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทำให้เป็น
GBS มากขึ้นจริงหรือไม่
ถ้าทำให้เป็นมากขึ้นก็เป็นอุบัติการณ์ที่ต่ำมากจนข้อมูลปัจจุบันแยกไม่ออกบอกไม่ได้
แต่การที่ชาวเน็ทเล่นทำแบบทนายความเจ้าเล่ห์คือตัดทอนเอาข้อมูลโบราณของวัคซีนเก่ามาบางท่อนแล้วเอามาโพสต์กับเรื่องของวัคซีนใหม่แบบทำให้คนเข้าใจผิดง่ายนี้ไม่ดีเลย
ผมเองก็เคยเห็นข้อความในเน็ทที่ตัดเอาบทความบางเรื่องของผมในบล็อกนี้ไปโพสต์ต่อๆกันไปแบบตัดไปท่อนเดียว
บางทีก็ตัดไปบรรทัดเดียว แล้วก็บอกต่อๆกันไปว่าหมอสันต์พูดว่าอย่างนี้
โดยที่ข้อมูลประกอบที่สำคัญที่จะทำให้เข้าใจเรื่องทั้งหมดไม่ได้เอาไปด้วย การ “จับไปกระเดียด”
แบบนี้ทำให้คนอ่านเข้าใจเรื่องผิดได้ง่ายมาก ซึ่งไม่ดี แต่ผมเองก็ไม่รู้จะแก้ไขยังไง..ได้แต่
“...กุ้มใจ ไม่มี ล ลิง
กุ้มใจ๊จริงๆ ล ลิงไม่มี้..”
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. CDC Reports of Health Concerns Following HPV
Vaccination. Accessed on May 18, 2012 at http://www.cdc.gov/vaccinesafety/Vaccines/HPV/gardasil.html
2. Vellozzi C, Burwen DR, Dobardzic A, Ball R,
Walton K, Haber P. Safety of trivalent inactivated influenza vaccine in adults:
background for pandemic influenza vaccine safety monitoring. Vaccine
2009;27:2114--20.
3. Chung EY, Huang L, Schneider L. Safety of
influenza vaccine administration in egg-allergic patients. Pediatrics
2010;125:e1024--30.