จุ่มสามล้างห้า อืม..ม ของเขาดี
ขอคำปรึกษาปัญหาครอบครัวครับ
กระผมชื่อนาย ... อายุ 34 ปี ทำงานค้าขายทั่วไป อยู่จังหวัด ... ผมพึ่งแต่งงานมาได้ไม่กี่เดือน ภรรยา อายุ 32 ปี
ตอนนี้ทางเราต้องการหาจิตแพทย์ครับ เพราะภรรยาเค้ารู้สึกเครียด ไม่ชอบที่บ้าน เค้าอยากมีความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบให้คนที่บ้านถามนู่น นี้ นั้น เค้าจึงเครียด ไม่มีอารมณ์ทางเพศเลย
ผมควรทำอย่างไรดีครับ
ขอบพระคุณครับ
............................................................
ตอบครับ
ฟังดูแล้วเป็นประเด็นแม่ผัวลูกสะใภ้ หมอสันต์แนะนำว่าการแก้ปัญหาว่าควรทำตามลำดับดังนี้ คือ
(1) วางแผนกิจกรรมให้ภรรยาไม่ต้องได้พบหน้ากับเตี่ยแม่อากงอาม่าของคุณมากนักในแต่ละวัน เช่นทำทีเป็นงานยุ่งจนต้องกินข้าวคนละเวลา
(2) โยกย้ายห้องหับภายในให้แยกห้องนอนของคุณกับภรรยาออกมาเป็นสัดส่วนให้อยู่ห่างๆจากห้องของครอบครัวเดิมของคุณ หรือแม้กระทั่งไปปลูกกระต๊อบเล็กๆอยู่ท้ายสวนถ้าทำได้
(3) ย้ายบ้านออกไปอยู่ข้างนอก แล้วเข้ามาทำงานกงสีแบบเช้าไปเย็นกลับ
(4) คุณเป็นคนกลางพูดคุยกับทั้งสองฝ่าย ทีละฝ่ายนะ ว่าเอาเถอะไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราคงต้องยอมรับว่ารากเหง้าวัฒนธรรมไม่เหมือนกัน ขอให้ต่างฝ่ายต่างปรับตัวคนละครึ่ง ข้างภรรยาก็ให้ฝึกวิชาหูทวนลม ฟังแต่เสียงในระดับปรมัตถ์ ไม่ต้องฟังเสียงในระดับสมมุติบัญญัติ คือฟังเสียงทุกเสียงของอาม่าอากงให้ได้ยินเป็นเสียงดนตรีหมด อย่าตีความเอาความหมายตามภาษา หิ หิ ข้างพ่อแม่อากงอาม่าของคุณก็ให้ลดการตั้งความคาดหวังและยุ่งเกี่ยวแทรกแซงสะใภ้ลง
(5) เลิกกันซะ กลับบ้านใครบ้านมัน นี่เป็นทางเลือกสุดท้ายถ้าทำทุกทางแล้วก็ยังไม่มีความสุข เป็นทางเลือกสุดท้ายนะ..ย้ำ อย่าอ้างว่าหมอสันต์แนะนำว่าเป็นทางเลือกแรก บาปกรรม
นี่เป็นตัวอย่างคลาสสิกของชีวิตการแต่งงาน ซึ่งเป็นนาฏกรรมประเภท "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า" ว่าไปแล้วมันเหมือนกับตลกเรื่อง "จุ่มสามล้างห้า" ในงานวัด
เรื่องมีอยู่ว่างานวัดซึ่งมีร้านต่างๆมากมาย มีอยู่ร้านหนึ่งโฆษณาขายความบันเทิงชื่อ "จุ่มสาม ล้างห้า" คนที่สนใจก็เข้าไปซื้อบริการ ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินสามบาทก่อน จึงจะได้เอามือจุ่มลงไปสัมผัสบันเทิงในชีวิตในรูมืดซึ่งไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น อยากรู้ก็ต้องจ่ายมาก่อนสามบาท ซึ่งก็มีลูกค้าที่เป็นหน่วยกล้าตายชอบสำรวจยอมจ่ายเงินซื้อ พอจุ่มมือลงไปก็สัมผัสได้แต่อะไรก็ไม่รู้เหมือนโคลนเย็นๆ พอถอนมือออกมาจึงว่ามือนั้นจุ่มเข้าไปในขี้ ยี้..ย ทำไงดีคราวนี้ ก็ล้างห้าไง คือถ้าจะล้างมือก็ต้องจ่ายก่อนห้าบาท ถ้าไม่อยากล้างก็ไม่เป็นไร จบเกมกันแค่นี้ แน่นอนลูกค้าก็ต้องกัดฟันจ่ายอีกห้าบาท
พอหน่วยกล้าตายออกมา ไทยมุงที่ออกันอยู่ข้างหน้าเต้นท์ก็ถามว่า
"เป็นไง เป็นไง จุ่มสามล้างห้า ดีไหม ดีไหม"
หน่วยกล้าตายเชิดหน้าขึ้นตอบด้วยเสียงต่ำๆน่าเชื่อถือว่า
"อืม..ม ดี ดี ของเขาดี"
(ฮะ ฮะ ฮ่า แคว่ก แคว่ก แคว่ก ตะแล้น ตะแล้น ตะแล้น)
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
กระผมชื่อนาย ... อายุ 34 ปี ทำงานค้าขายทั่วไป อยู่จังหวัด ... ผมพึ่งแต่งงานมาได้ไม่กี่เดือน ภรรยา อายุ 32 ปี
ตอนนี้ทางเราต้องการหาจิตแพทย์ครับ เพราะภรรยาเค้ารู้สึกเครียด ไม่ชอบที่บ้าน เค้าอยากมีความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบให้คนที่บ้านถามนู่น นี้ นั้น เค้าจึงเครียด ไม่มีอารมณ์ทางเพศเลย
ผมควรทำอย่างไรดีครับ
ขอบพระคุณครับ
............................................................
ตอบครับ
ฟังดูแล้วเป็นประเด็นแม่ผัวลูกสะใภ้ หมอสันต์แนะนำว่าการแก้ปัญหาว่าควรทำตามลำดับดังนี้ คือ
(1) วางแผนกิจกรรมให้ภรรยาไม่ต้องได้พบหน้ากับเตี่ยแม่อากงอาม่าของคุณมากนักในแต่ละวัน เช่นทำทีเป็นงานยุ่งจนต้องกินข้าวคนละเวลา
(2) โยกย้ายห้องหับภายในให้แยกห้องนอนของคุณกับภรรยาออกมาเป็นสัดส่วนให้อยู่ห่างๆจากห้องของครอบครัวเดิมของคุณ หรือแม้กระทั่งไปปลูกกระต๊อบเล็กๆอยู่ท้ายสวนถ้าทำได้
(3) ย้ายบ้านออกไปอยู่ข้างนอก แล้วเข้ามาทำงานกงสีแบบเช้าไปเย็นกลับ
(4) คุณเป็นคนกลางพูดคุยกับทั้งสองฝ่าย ทีละฝ่ายนะ ว่าเอาเถอะไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราคงต้องยอมรับว่ารากเหง้าวัฒนธรรมไม่เหมือนกัน ขอให้ต่างฝ่ายต่างปรับตัวคนละครึ่ง ข้างภรรยาก็ให้ฝึกวิชาหูทวนลม ฟังแต่เสียงในระดับปรมัตถ์ ไม่ต้องฟังเสียงในระดับสมมุติบัญญัติ คือฟังเสียงทุกเสียงของอาม่าอากงให้ได้ยินเป็นเสียงดนตรีหมด อย่าตีความเอาความหมายตามภาษา หิ หิ ข้างพ่อแม่อากงอาม่าของคุณก็ให้ลดการตั้งความคาดหวังและยุ่งเกี่ยวแทรกแซงสะใภ้ลง
(5) เลิกกันซะ กลับบ้านใครบ้านมัน นี่เป็นทางเลือกสุดท้ายถ้าทำทุกทางแล้วก็ยังไม่มีความสุข เป็นทางเลือกสุดท้ายนะ..ย้ำ อย่าอ้างว่าหมอสันต์แนะนำว่าเป็นทางเลือกแรก บาปกรรม
นี่เป็นตัวอย่างคลาสสิกของชีวิตการแต่งงาน ซึ่งเป็นนาฏกรรมประเภท "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า" ว่าไปแล้วมันเหมือนกับตลกเรื่อง "จุ่มสามล้างห้า" ในงานวัด
เรื่องมีอยู่ว่างานวัดซึ่งมีร้านต่างๆมากมาย มีอยู่ร้านหนึ่งโฆษณาขายความบันเทิงชื่อ "จุ่มสาม ล้างห้า" คนที่สนใจก็เข้าไปซื้อบริการ ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินสามบาทก่อน จึงจะได้เอามือจุ่มลงไปสัมผัสบันเทิงในชีวิตในรูมืดซึ่งไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น อยากรู้ก็ต้องจ่ายมาก่อนสามบาท ซึ่งก็มีลูกค้าที่เป็นหน่วยกล้าตายชอบสำรวจยอมจ่ายเงินซื้อ พอจุ่มมือลงไปก็สัมผัสได้แต่อะไรก็ไม่รู้เหมือนโคลนเย็นๆ พอถอนมือออกมาจึงว่ามือนั้นจุ่มเข้าไปในขี้ ยี้..ย ทำไงดีคราวนี้ ก็ล้างห้าไง คือถ้าจะล้างมือก็ต้องจ่ายก่อนห้าบาท ถ้าไม่อยากล้างก็ไม่เป็นไร จบเกมกันแค่นี้ แน่นอนลูกค้าก็ต้องกัดฟันจ่ายอีกห้าบาท
พอหน่วยกล้าตายออกมา ไทยมุงที่ออกันอยู่ข้างหน้าเต้นท์ก็ถามว่า
"เป็นไง เป็นไง จุ่มสามล้างห้า ดีไหม ดีไหม"
หน่วยกล้าตายเชิดหน้าขึ้นตอบด้วยเสียงต่ำๆน่าเชื่อถือว่า
"อืม..ม ดี ดี ของเขาดี"
(ฮะ ฮะ ฮ่า แคว่ก แคว่ก แคว่ก ตะแล้น ตะแล้น ตะแล้น)
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์