ปวดประสาท จนไม่อยากมีชีวิตอยู่
เรียนคุณหมอสันต์
ผมเป็นเบาหวานแล้วมีอาการปวดขามาก ไปตรวจตอนแรกแพทย์ว่าหลอดเลือดไปเลี้ยงปลายขาตีบ แต่เมื่อตรวจเพิ่มเติมด้วยการฉีดสีก็พบว่าไม่ได้ตีบ ท้ายที่สุดแพทย์สรุปว่าเป็นปลายประสาทอักเสบ ได้ให้ยาวิตามินบี.รวมและบี.12 ยาแก้ปวดทรามอล และยานอนหลับ จนผมติดยาแล้วแต่อาการก็ไม่เคยดีขึ้น แต่หมอก็บอกว่าทำได้แค่นี้ เพื่อเอาน้ำมันกัญชามาให้ลอง ผมหยดแล้วคลื่นไส้อาเจียนทนไม่ไหวจึงไม่ได้ใช้ต่อ ทุกวันนี้ผมอายุ 62 ปีไม่ได้ทำอะไรแล้ว เพราะมันไม่มีอารมณ์จะทำ มันปวดแบบทุกข์ทรมานมาก จนบางวันไม่อยากจะอยู่แล้วครับ มันมีอะไรที่ผมควรจำทำให้หายปวดอีกบ้างไหมครับ
........................................................
ตอบครับ
อาการที่คุณเป็น เรียกแบบบ้านๆว่าปลายประสาทอักเสบ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้มีการอักเสบแบบปวดบวมแดงร้อนให้เห็นดอก มันเป็นแค่การที่เส้นประสาททำงานเพี้ยน คือไม่มีความรู้สึกอะไรก็รายงานว่ามี บ้างก็เป็นความรู้สึกเหน็บๆ ชาๆ ตื้อๆ ซู่ๆ ซ่าๆ ยุบๆยับๆเหมือนมดไต่ และแบบที่แย่ที่สุดก็คือปวดหรือร้อนไม่เลิกจนทำเอากินไม่ได้นอนไม่หลับ คนป่วยโรคเบาหวานท้ายที่สุดจะมีประมาณกึ่งหนึ่งที่มีอาการปลายประสาทอักเสบ ทุกวันนี้วงการแพทย์ยังไม่มีวิธีรักษาอื่นนอกจากอัดยาแก้ปวด ยาสะเตียรอยด์ ยาต้านซึมเศร้า และให้ยาวิตามินบี.ซึ่งได้ผลในบางรายที่ขาดวิตามิน ยาแก้ปวดนั้นให้กันทุกรูปแบบ และในสถิติของผู้ติดยากลุ่มมอร์ฟีน ขาประจำก็คือผู้ป่วยปลายประสาทอักเสบ
ความจริงจะว่าวงการแพทย์ไม่มีวิธีรักษาก็ไม่ถูกนะ เพราะเมื่อเกือบสามสิบปีมาแล้ว ได้มีการทำวิจัยเอาผู้ป่วยเบาหวานที่มีอาการปลายประสาทอักเสบแบบปวดรุนแรงอย่างคุณนี้มา 21 คน เอามาขังไว้ในโรงพยาบาลแล้วบังคับให้กินอาหารที่มีแต่พืชไม่มีเนื้อสัตว์หรือเนื้อนมไข่เลย บวกกับให้เดินออกกำลังกายทุกวันวันละครึ่งชั่วโมง ผลปรากฎว่า 17 คนอาการปวดหายไปเลย บางมีอาการตื้อๆค้างอยู่บ้าง ผลพลอยได้คือทุกคนน้ำหนักลดเฉลี่ยคนละ 4.5 กก. เลิกยากินได้หมด และลดยาฉีดลงได้เฉลี่ยครึ่งหนึ่ง ที่กินยาความดันอยู่ก็ลดยาได้ 80% ในเวลาเพียง 3 สัปดาห์ และเมื่อติดตามดูผู้ป่วยทั้ง 17 คนที่หายปวดว่าเมื่อจบงานวิจัยแล้วเขาจะกลับไปกินเนื้อสัตว์อีกหรือเปล่า พบว่า 16 คนไม่กลับไปกินเนื้อสัตว์เลย มีคนเดียวที่กลับไปกินเนื้อสัตว์ เพราะคนที่ปวดประสาทแบบถึงกึ๋นมาแล้วจะให้ทำอะไรนานแค่ไหนก็ทำได้ทั้งนั้น ขอให้หายปวดเถอะ สมัยผมหนุ่มๆไปเป็นหมอบ้านนอกอยู่อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช คนไข้คนหนึ่งบอกผมว่าถ้าใช้ให้ไปยิงใครสักคนหนึ่งแลกกับการหายปวด เขาก็จะทำ มันปวดขนาดนั้น ความปวดรุนแรงจึงเป็นแรงบันดาลใจให้การเปลี่ยนอาหารในผู้ป่วย 16 คนทำได้สำเร็จอย่างถาวร
ผมเป็นเบาหวานแล้วมีอาการปวดขามาก ไปตรวจตอนแรกแพทย์ว่าหลอดเลือดไปเลี้ยงปลายขาตีบ แต่เมื่อตรวจเพิ่มเติมด้วยการฉีดสีก็พบว่าไม่ได้ตีบ ท้ายที่สุดแพทย์สรุปว่าเป็นปลายประสาทอักเสบ ได้ให้ยาวิตามินบี.รวมและบี.12 ยาแก้ปวดทรามอล และยานอนหลับ จนผมติดยาแล้วแต่อาการก็ไม่เคยดีขึ้น แต่หมอก็บอกว่าทำได้แค่นี้ เพื่อเอาน้ำมันกัญชามาให้ลอง ผมหยดแล้วคลื่นไส้อาเจียนทนไม่ไหวจึงไม่ได้ใช้ต่อ ทุกวันนี้ผมอายุ 62 ปีไม่ได้ทำอะไรแล้ว เพราะมันไม่มีอารมณ์จะทำ มันปวดแบบทุกข์ทรมานมาก จนบางวันไม่อยากจะอยู่แล้วครับ มันมีอะไรที่ผมควรจำทำให้หายปวดอีกบ้างไหมครับ
........................................................
ตอบครับ
อาการที่คุณเป็น เรียกแบบบ้านๆว่าปลายประสาทอักเสบ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้มีการอักเสบแบบปวดบวมแดงร้อนให้เห็นดอก มันเป็นแค่การที่เส้นประสาททำงานเพี้ยน คือไม่มีความรู้สึกอะไรก็รายงานว่ามี บ้างก็เป็นความรู้สึกเหน็บๆ ชาๆ ตื้อๆ ซู่ๆ ซ่าๆ ยุบๆยับๆเหมือนมดไต่ และแบบที่แย่ที่สุดก็คือปวดหรือร้อนไม่เลิกจนทำเอากินไม่ได้นอนไม่หลับ คนป่วยโรคเบาหวานท้ายที่สุดจะมีประมาณกึ่งหนึ่งที่มีอาการปลายประสาทอักเสบ ทุกวันนี้วงการแพทย์ยังไม่มีวิธีรักษาอื่นนอกจากอัดยาแก้ปวด ยาสะเตียรอยด์ ยาต้านซึมเศร้า และให้ยาวิตามินบี.ซึ่งได้ผลในบางรายที่ขาดวิตามิน ยาแก้ปวดนั้นให้กันทุกรูปแบบ และในสถิติของผู้ติดยากลุ่มมอร์ฟีน ขาประจำก็คือผู้ป่วยปลายประสาทอักเสบ
ความจริงจะว่าวงการแพทย์ไม่มีวิธีรักษาก็ไม่ถูกนะ เพราะเมื่อเกือบสามสิบปีมาแล้ว ได้มีการทำวิจัยเอาผู้ป่วยเบาหวานที่มีอาการปลายประสาทอักเสบแบบปวดรุนแรงอย่างคุณนี้มา 21 คน เอามาขังไว้ในโรงพยาบาลแล้วบังคับให้กินอาหารที่มีแต่พืชไม่มีเนื้อสัตว์หรือเนื้อนมไข่เลย บวกกับให้เดินออกกำลังกายทุกวันวันละครึ่งชั่วโมง ผลปรากฎว่า 17 คนอาการปวดหายไปเลย บางมีอาการตื้อๆค้างอยู่บ้าง ผลพลอยได้คือทุกคนน้ำหนักลดเฉลี่ยคนละ 4.5 กก. เลิกยากินได้หมด และลดยาฉีดลงได้เฉลี่ยครึ่งหนึ่ง ที่กินยาความดันอยู่ก็ลดยาได้ 80% ในเวลาเพียง 3 สัปดาห์ และเมื่อติดตามดูผู้ป่วยทั้ง 17 คนที่หายปวดว่าเมื่อจบงานวิจัยแล้วเขาจะกลับไปกินเนื้อสัตว์อีกหรือเปล่า พบว่า 16 คนไม่กลับไปกินเนื้อสัตว์เลย มีคนเดียวที่กลับไปกินเนื้อสัตว์ เพราะคนที่ปวดประสาทแบบถึงกึ๋นมาแล้วจะให้ทำอะไรนานแค่ไหนก็ทำได้ทั้งนั้น ขอให้หายปวดเถอะ สมัยผมหนุ่มๆไปเป็นหมอบ้านนอกอยู่อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช คนไข้คนหนึ่งบอกผมว่าถ้าใช้ให้ไปยิงใครสักคนหนึ่งแลกกับการหายปวด เขาก็จะทำ มันปวดขนาดนั้น ความปวดรุนแรงจึงเป็นแรงบันดาลใจให้การเปลี่ยนอาหารในผู้ป่วย 16 คนทำได้สำเร็จอย่างถาวร
ทำไมการเลิกกินเนื้อสัตว์มากินแต่พืชจึงรักษาอาการปวดประสาทได้ วงการแพทย์ก็ไม่รู้เหมือนกัน ได้แต่เดาเอา เช่นเดาว่าคงเป็นเพราะไขมันทรานส์ซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติในอาหารเนื้อสัตว์ไปก่อการอักเสบในเส้นประสาท เพราะมีงานวิจัยเอาเข็บเจาะดูดชิ้นเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนังที่ก้นของคนกินเนื้อกินนมมาตรวจเปรียบเทียบกับเนื้อเยื่อไขมันของคนที่ไม่กินเนื้อไม่กินนม พบว่าเนื้อเยื่อไขมันของคนกินเนื้อกินนมมีไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบ ขณะที่คนไม่กินเนื้อไม่กินนมไม่มีไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบ
บ้างก็เดาว่าคงเป็นเพราะกินพืชแล้วการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงเส้นประสาทดีขึ้น เพราะงานวิจัยการตัดชิ้นเนื้อปลายประสาทผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาตรวจพบว่าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงปลายประสาทนั้นตีบแคบหรืออุดตันเสียส่วนหนึ่ง ระดับออกซิเจนในเนื้อเยื่อบริเวณนั้นต่ำกว่าในเลือดดำเสียอีก ทำให้ปลายประสาทขาดออกซิเจนจนปวดขึ้น
น่าประหลาดที่วงการแพทย์ไม่มีการพูดถึงงานวิจัยนี้เลย ในการสอนแพทย์ก็ได้แต่พูดกรอกหูนักศึกษาแพทย์เช้าเย็นว่าปลายประสาทอักเสบไม่มีวิธีรักษาให้หาย ตัวผมเองก็เพิ่งมาอ่านพบงานวิจัยนี้เมื่อตอนที่ผมตัดสินใจรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบของตัวเองด้วยการเปลี่ยนอาหารมากินแต่พืชเป็นหลัก ผมเข้าใจว่าที่วงการแพทย์ไม่มีการพูดถึงงานวิจัยนี้เป็นเพราะแพทย์เกือบทั้งหมดเป็นนักบริโภคเนื้อสัตว์ จึงไม่ถนัดที่จะพูดถึงสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ
นอกจากการทดลองเปลี่ยนมากินอาหารที่ไม่มีเนื้อนมไข่ไก่ปลาแล้ว สิ่งที่คุณพึงทำได้เลยทันทีอีกอย่างหนึ่งคือการ "เอาธรรมะเข้าขย่ม" ผมหมายถึงการยอมรับอาการปวด คือการเกิดมาเป็นคนนี้การจะต้องเจ็บปวดนั้นเป็นของแน่ การันตีได้เลยว่าทุกคนต้องเจอเสมอหน้ากันหมด แต่การจะเป็นทุกข์หรือทรมานเพราะความปวดหรือไม่นั้นเรามีสิทธิ์เลือกได้ เพราะความปวดเป็นความรู้สึก (feeling) ส่วนความทุกข์ทรมานนั้นเป็นความคิด (thought) ความคิดจะเกิดขึ้นต่อยอดบนความรู้สึกเสมอถ้าเราเผลอ แต่ถ้าเราเอาความสนใจมาจดจ่อสังเกตได้ตั้งแต่เมื่อมันเป็นความปวด ความคิดต่อยอดจะไม่เกิดขึ้น หรือหากเกิดขึ้นแล้วหากเราเฝ้าสังเกตอยู่ ความคิดนั้นก็จะฝ่อหายไปเอง นี่มันเป็นธรรมชาติของความคิด คือมันจะหลบหน้าความรู้ตัวเสมอ ลองเอาไปปฏิบัติดูนะครับ ถ้าทำเองแล้วไม่สำเร็จ ลองหาเวลามาเข้าแค้มป์ SR
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
นอกจากการทดลองเปลี่ยนมากินอาหารที่ไม่มีเนื้อนมไข่ไก่ปลาแล้ว สิ่งที่คุณพึงทำได้เลยทันทีอีกอย่างหนึ่งคือการ "เอาธรรมะเข้าขย่ม" ผมหมายถึงการยอมรับอาการปวด คือการเกิดมาเป็นคนนี้การจะต้องเจ็บปวดนั้นเป็นของแน่ การันตีได้เลยว่าทุกคนต้องเจอเสมอหน้ากันหมด แต่การจะเป็นทุกข์หรือทรมานเพราะความปวดหรือไม่นั้นเรามีสิทธิ์เลือกได้ เพราะความปวดเป็นความรู้สึก (feeling) ส่วนความทุกข์ทรมานนั้นเป็นความคิด (thought) ความคิดจะเกิดขึ้นต่อยอดบนความรู้สึกเสมอถ้าเราเผลอ แต่ถ้าเราเอาความสนใจมาจดจ่อสังเกตได้ตั้งแต่เมื่อมันเป็นความปวด ความคิดต่อยอดจะไม่เกิดขึ้น หรือหากเกิดขึ้นแล้วหากเราเฝ้าสังเกตอยู่ ความคิดนั้นก็จะฝ่อหายไปเอง นี่มันเป็นธรรมชาติของความคิด คือมันจะหลบหน้าความรู้ตัวเสมอ ลองเอาไปปฏิบัติดูนะครับ ถ้าทำเองแล้วไม่สำเร็จ ลองหาเวลามาเข้าแค้มป์ SR
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. Crane MG, Sample C. Regression of diabetic neuropathy with total vegetarian (vegan) diet. J Nutr Med. 1994;4:431–439.
2. Sun Y, Lai MS, Lu CJ. Effectiveness of vitamin B12 on diabetic neuropathy: systematic review of clinical controlled trials. Acta Neurol Taiwan. 2005;14:48–54. [PubMed]
2. Sun Y, Lai MS, Lu CJ. Effectiveness of vitamin B12 on diabetic neuropathy: systematic review of clinical controlled trials. Acta Neurol Taiwan. 2005;14:48–54. [PubMed]