บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กุมภาพันธ์, 2020

เป็นหมอดมยาทำงานเครียดจนผมขาว

สวัสดีคะ อาจารย์ หนูเป็นหมอดมยา แต่ทำงานเครียดง่ายมากจนผมขาวเลยคะ. อยากเลิกแต่ก็ไม่รู้จะหาเงินจากไหนแทน ถ้าเป็นอาจารย์จะทำไงดีคะ ทุกวันนี้ทนๆๆทำไปมา9ปีแล้วคะ. แต่รู้ตัวว่าอายุสั้นแน่นอนคะ ...................................................... ตอบครับ      ถามว่าถ้าเป็นหมอสันต์ทำงานเครียดจนผมขาวแล้วจะทำไง ตอบว่าก็ย้อมผมสิครับ (หิ หิ ขอโทษ พูดเล่น)      sincerely เลยก็คือผมเข้าใจคุณนะ       แต่ผมยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคุณเครียดจากอะไร คุณต้องการลาออกจากอะไร การเป็นหมอดมยานั้นลาออกไม่ยากดอก แม้การเป็นภรรยาของผู้ชายบื้อๆสักคนก็ยังลาออกไม่ยาก แต่การเป็นอย่างอื่นบางอย่างเช่นการเป็นแม่ หรือการเป็นลูก มันลาออกยากนิดหน่อย ผมไม่รู้ว่าคุณเครียดจากอะไรกันแน่ จึงได้แต่เดาเอาว่าความเครียดของคุณเป็นผลจากการประชุมแห่งเหตุ คือทุกๆอย่าง ทุกๆบทบาท ทุกๆ personality ในชีวิตของคุณ รวมกันแล้วทำให้คุณเครียด หรือพูดอีกอย่างว่าการที่คุณแบกโลกไว้ ทำให้คุณเครียด      คำว่า personality หรือ person ที่แปลว่าความเป็นบุคคลนี้มาจากคำภาษาละตินว่า persona ซึ่งแปลว่า "หน้ากาก" ที่ใช้แสดงละครกลางแจ้งใ

น้ำหนักลดมากเกินไปทำอย่างไรดี

เรียนคุณหมอที่เคารพ ดิฉันมีปัญหาน้ำหนักลดและผอมมาก ปีกลาย 54 กก. ปีนี้ 49 กก. สูง 166 ซม.ค่ะ อายุ 62 ปี อย่างนี้น้ำหนักน้อยไปไหม น้ำหนักลดมากแค่ไหนจึงจะต้องกังวลคะ หรือว่าไม่ต้องกังวล จะให้ทนเบื่อคนทักเอาก็ได้นะหากไม่มีโทษอย่างอื่น ถ้าควรแก้ไขดิฉันควรแก้ไขเรื่องผอมนี้อย่างไร มียารักษาให้หายผอมไหม ตอนนี้ยาที่กินอยู่มี Aspirin, Cozarr, rosuvastatin, propanolol ...................................................... ตอบครับ      1. ถามว่าแค่ไหนจึงจะเรียกว่าน้ำหนักน้อยเกินไป ตอบว่าในทางการแพทย์ถือเอาดัชนีมวลกาย (BMI) ต่ำกว่า 18.5 กก./ตรม. เป็นเกณฑ์วินิจฉัยว่าผอมจนผิดปกติ ดัชนีมวลกายนี้คำนวณจากน้ำหนักเป็นกก. หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรสองครั้ัง ยกตัวอย่างเช่นคุณน้ำหนัก 49 กก. สูง 166 ซม. ก็เอา 49 ตั้งแล้วเอา 1.66 ไปหาร หารครั้งที่หนึ่งได้ 29.5 ก็เอาค่าที่ได้ 29.5 นี้ตั้ง เอา 1.66 ไปหารเป็นครั้งที่สอง ได้17.7 นั่นแหละคือดัชนีมวลกายของคุณ      2. ถามว่าน้ำหนักลดลงมากแค่ไหนจึงจะต้องกังวล ตอบว่าวงการแพทย์ถือว่าหากน้ำหนักลดลงมากกว่าเดิมเกิน 5% ในเวลา 1 ปีโดยไม่ได้ตั้งใจลด ถือว่าเป็น unintenti

(เรื่องไร้สาระ 5) ปิคนิคระดับหรู

รูปภาพ
    สมัยเป็นหมออยู่ที่นิวซีแลนด์ ผมได้ติดนิสัยฟุ่มเฟือยของฝรั่งกีวี่มาอย่างหนึ่ง คือการชอบไปปิคนิค อาทิตย์ไหนไม่ได้อยู่เวรเป็นต้องขนลูกเมียและเสื่อไปปูปิคนิคในปาร์คในเมืองบ้าง นอกเมืองบ้าง พอกลับมาอยู่บ้านเรามันไม่มีปาร์คให้นั่งปิคนิคสบายๆอย่างนั้นแล้ว แต่นิสัยเดิมก็แก้ไม่หาย บางครั้งพื้นที่เป็นพงรกชัฎ แถมร้อนตับแล่บ ยุงแมลงเพียบ คนอื่นไม่มีใครเอาด้วย แต่ผมก็ปูเสื่อหรือวางเก้าอี้ปิคนิคของผมอยู่คนเดียว     เดือนที่แล้วผมมีโอกาสได้แวะไปดูที่ดินเก่าแก่ของตัวเอง มีอยู่ประมาณ 2 ไร่อยู่ริมคลองแห้งเล็กๆที่ไม่มีน้ำ อยู่ในมวกเหล็กวาลเลย์นี้เอง กะว่าจะเปลี่ยนบรรยากาศหามุมเงียบๆปูเสื่อนั่งสมาธิอยู่คนเดียวสักพัก แต่พอไปถึงก็พบว่าไฟป่าได้เผาต้นกระถินยักษ์และหญ้าวอดดำสนิทไปหมด ผมเหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นมีใครก็จึงเอาเสื่อจากท้ายรถไปปูปิคนิคบนพื้นขี้เถ้าดำๆนั่นแหละ คลองนี้สมัยก่อนฝรั่งที่เป็นเจ้าของมวกเหล็กวาลเลย์ทำฝายแม้วกั้นคลองไว้เป็นช่วงๆ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพราะไม่มีน้ำ ผมปักหลักปูเสื่อนั่งอยู่กลางฝายแม้ว ปลีกวิเวกตากยุงยามค่ำอยู่คนเดียว ลมพัดขี้เถ้าคลุ้ง กลิ่นขี้เถ้าแห้งฉุนจมูกกึก คิดถึงว่าสม

ปวดประสาท จนไม่อยากมีชีวิตอยู่

เรียนคุณหมอสันต์ ผมเป็นเบาหวานแล้วมีอาการปวดขามาก ไปตรวจตอนแรกแพทย์ว่าหลอดเลือดไปเลี้ยงปลายขาตีบ แต่เมื่อตรวจเพิ่มเติมด้วยการฉีดสีก็พบว่าไม่ได้ตีบ ท้ายที่สุดแพทย์สรุปว่าเป็นปลายประสาทอักเสบ ได้ให้ยาวิตามินบี.รวมและบี.12 ยาแก้ปวดทรามอล และยานอนหลับ จนผมติดยาแล้วแต่อาการก็ไม่เคยดีขึ้น แต่หมอก็บอกว่าทำได้แค่นี้ เพื่อเอาน้ำมันกัญชามาให้ลอง ผมหยดแล้วคลื่นไส้อาเจียนทนไม่ไหวจึงไม่ได้ใช้ต่อ ทุกวันนี้ผมอายุ 62 ปีไม่ได้ทำอะไรแล้ว เพราะมันไม่มีอารมณ์จะทำ มันปวดแบบทุกข์ทรมานมาก จนบางวันไม่อยากจะอยู่แล้วครับ มันมีอะไรที่ผมควรจำทำให้หายปวดอีกบ้างไหมครับ ........................................................ ตอบครับ      อาการที่คุณเป็น เรียกแบบบ้านๆว่าปลายประสาทอักเสบ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้มีการอักเสบแบบปวดบวมแดงร้อนให้เห็นดอก มันเป็นแค่การที่เส้นประสาททำงานเพี้ยน คือไม่มีความรู้สึกอะไรก็รายงานว่ามี บ้างก็เป็นความรู้สึกเหน็บๆ ชาๆ ตื้อๆ ซู่ๆ ซ่าๆ ยุบๆยับๆเหมือนมดไต่ และแบบที่แย่ที่สุดก็คือปวดหรือร้อนไม่เลิกจนทำเอากินไม่ได้นอนไม่หลับ คนป่วยโรคเบาหวานท้ายที่สุดจะมีประมาณกึ่งหนึ่งที่มีอาการ

ความเชื่อเรื่องอาหารออกซาเลทเป็นตัวก่อนิ่วในไตได้ถูกกลบด้วยงานวิจัยนี้

เรียนคุณหมอสันต์ที่นับถือ ดิฉันติดตามอ่านบทความของคุณหมอเป็นประจำ และได้นำความรู้ไปแนะนำคุณแม่ (อายุ 70 ปี) ที่เป็นโรคเบาหวานและกระดูกพรุนให้รับประทานอาหารพืชเป็นหลัก และทานถั่วทุกชนิดรวมประมาณ 1 กำมือทุกๆวัน และยังเติมงาบดในเครื่องดื่มเช่นนมถั่วเหลืองอีกด้วย แต่เมื่อไม่นานมานี้พบว่าคุณแม่ดิฉันมีนิ่วในไตหลายเม็ด จึงรู้สึกสับสนในแนวทางการรับประทานอาหารค่ะ เนื่องจากทราบว่าในถั่วต่างๆ รวมถึงผักหลายชนิด มีออกซาเลตสูง มีผลให้เกิดนิ่วในไตเพิ่มขึ้น จึงต้องรบกวนขอคำแนะนำคุณหมอว่าคุณแม่สามารถทานถั่วในปริมาณเดิมได้หรือไม่ และควรปรับเปลี่ยนการทานอาหารอย่างไรบ้างคะ ...................................................................... ตอบครับ      การแพทย์แผนปัจจุบันมีข้อดีมากมายก็จริง แต่ก็มีข้อเสียอย่างเอนกอนันต์อันหนึ่งก็คือการสร้างนิสัยที่ฝรั่งเรียกว่า reductionism หมายถึงมองอะไรแยกออกมาเป็นส่วนย่อยยุบยิบยับแล้วปักใจเชื่อว่าสัจจธรรมมีอยู่แค่นั้น คือไปทำให้คนเชื่อในข้อมูลที่ได้จากการศึกษาในห้องแล็บ (in vitro) แต่ในชีวิตจริงในร่างกายมนุษย์นี้มีความสัมพันธ์กับอาหารและสิ่งแวดล้อมอย่างซับซ้

ความคิด กับความรู้ตัว มันสัมพันธ์กันอย่างไร

หนูสมัครมา SR14 แต่เต็มเสียแล้ว จะรอลุ้น SR15 ตอนนี้ขอถาม 1. หนูไม่เข้าใจที่คุณหมอพูดถึงความคิดและการวางความคิด 2. ความคิดกับความรู้ตัวนี้มันสัมพันธ์กันอย่างไร ถ้าเราคิดก็หมายความว่ามีความรู้ตัวอยู่ในนั้นด้วยใช่ไหม ถ้าความคิดดับแล้วความรู้ตัวไปอยู่ไหน 3. อย่างความรู้ตัวของหนู มันเป็นของหนูคนเดียวหรือเปล่า 4. การวางความคิดกับการทำสมาธิเหมือนกันไหม 5. ทำไมต้องทำสมาธิด้วย 6. อะไรเป็นปัจจัยให้ทำสมาธิได้สำเร็จ ขอบพระคุณค่ะ .............................................................. ตอบครับ      1. ถามว่าความคิดคืออะไร ตอบว่าความคิดที่ผมพูดถึงนี้ผมหมายเจาะจงถึงความคิดที่ทำให้เราเป็นทุกข์ ซึ่งเกิดขึ้นจากเชาวน์ปัญญาที่เรามีอยู่นี้เองมันหวังดีพยายามจะปกป้องสำนึกว่าเป็นบุคคลของเรา สำนึกว่าเป็นบุคคลนี้เกิดขึ้นจากการที่เราสำคัญมั่นหมาย (identify) ว่าเราหรือ "ฉัน" นี้เป็นใคร หรือการยึดติดว่าอะไรที่สื่อถึงความเป็นฉัน เช่น เพศของฉัน อายุของฉัน ครอบครัวของฉัน หมู่บ้านของฉัน โรงเรียนของฉัน อาชีพของฉัน ชื่อเสียงของฉัน บริษัทของฉัน ชาติของฉัน ศาสนาของฉัน ความเชื่อของฉัน การเป็นคนรักคว

การฝึกสมาธิจะช่วยลดความอ้วนได้อย่างไร

(หมอสันต์ตอบคำถามสมาชิกแค้มป์ลดน้ำหนัก) สมาชิกถาม      "การฝึกสมาธิอย่างที่อาจารย์สอนนี้ จะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร" หมอสันต์ตอบ      1. ในระดับที่เข้าใจได้ง่าย การที่เรากลายมาเป็นคนอ้วนนี้ เป็นเพราะการใช้ชีวิตของเราในอดีตที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการกินก็ดี การมีกิจกรรมประจำวันก็ดี มันล้วนเกื้อหนุนให้เราเป็นคนอ้วน กล่าวคือเรากินอาหารที่มีแคลอรี่สูง มีกากน้อย และกินในปริมาณมาก ขณะเดียวกันเราก็มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวออกกำลังกายน้อย มัวแต่ใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งมองหน้าจอ เราเองก็รู้ทั้งรู้อยู่ว่าเราจะต้องกินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ มีกากแยะๆ ลดปริมาณการกินลง แล้วเคลื่อนไหวออกกำลังกายให้มากขึ้น แต่รู้ทั้งรู้ เราทำไม่ได้      เพราะชีวิตของเราทุกวันนี้ที่เราภูมิใจว่าเป็นชีวิตอิสระเสรีอยากกินอะไรก็ได้กินอยากทำอะไรก็ได้ทำนั้น แท้จริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ มันเป็นชีวิตของทาส เราเป็นทาสความย้ำคิดย้ำทำ (compulsiveness) ซึ่งผูกเป็นวงจรแน่นหนาไว้ในระบบประสาทอัตโนมัติที่ฝังอยู่ในร่างกายเรา เราเป็นทาสของประสบการณ์ในอดีตของเราเอง แต่หลงภูมิใจว่าเราเป็นเสรีชน      เราจะเป็นเสรีชนได้อย่างไร เสรีชน

หมอสันต์สอนเดินจงกรมแบบ Walk To New Identity

     (หมอสันต์พูดกับสมาชิกแค้มป์ลดน้ำหนัก)      ชั่วโมงนี้ทุกคนต้องถอดรองเท้าถุงเท้านะ เราจะเดินเท้าเปล่าบนสนามหญ้า ไม่ต้องกลัวเท้าเปื้อนดิน เปื้อนแล้วจบชั่วโมงแล้วก็ไปล้างที่ก๊อกที่หน้าฮอลได้      เราจะเรียน Walking Meditation พูดภาษาบ้านๆก็คือเดินจงกรม เดินแบบธรรมดานะ แบบที่เดินอยู่ตามบ้านในชีวิตปกตินั่นแหละ อย่าเดินช้าอย่างหอยทาก อย่างนั้นไม่เอา เพราะเราฝึกเพื่อเดินในชีวิตประจำวัน เดินอย่างหอยทากเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้      เราจะเดินกันสองรอบนะ รอบที่หนึ่งนี้เรียกว่า "เดินจากคิดไปรู้" หรือ "Walk from think to feel" คือเดินเพื่อฝึกวางความคิดมาอยู่กับความรู้สึกตัว รอบที่สองเรียกว่า "เดินไปเป็นคนใหม่" หรือ "Walk to new identity" การเดินรอบที่ 1. Walk from think to feel      การฝึกเดินในรอบแรกนี้มันจะมีสามระดับนะ หรือสาม level      ระดับที่ 1. รู้สึกฝ่าเท้า  เมื่อเดิน ให้คุณ feel หรือรู้สึกความรู้สึกบนฝ่าเท้าทุกครั้งที่ฝ่าเท้าสัมผัสพื้น รู้สึกถึงว่าหญ้ามันทิ่ม ดินมันแฉะ กรวดมันคม วางเท้าครั้งหนึ่งก็รับรู้ความรู้สึกที่ฝ่าเท้าครั้ง

น้ำมันพืชสำหรับคนเป็นโรคหัวใจ

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่า คุณพ่อของดิฉันเป็นโรคหัวใจ ตีบ 3 เส้น แต่ได้บายพาสแล้วค่ะ ผ่านมาประมาณ 1 ปีแล้วปกติดีค่ะ ตอนนี้ก็มีออกกำลังกายด้วย อยากทราบว่า  1.สามารถทานอาหารที่ใช้น้ำมันพืชปรุงได้ไหมคะ เช่น ไข่เจียว หมูทอด  2. หรือว่ามีการจำกัดชนิดของน้ำมันพืชคะเช่น น้ำมันถั่วเหลืองได้ น้ำมันปาล์ม ไม่ได้  3. น้ำมันหมู น้ำมันปาล์ม น้ำมันพืช ถ้าให้ใช้ทำอาหาร คุณหมอจะแนะนำน้ำมันไหน หรือไม่แนะนำให้ใช้น้ำมันไหนเลยคะ  4.ห้ามทานน้ำมันพืชเลยจริงไหมคะ อันนี้ คือจุดพีคที่ทำให้ดิฉันมาถามคุณหมอค่ะ คือ คุณแม่บอกว่าคุณพ่อดิฉันเล่าว่าได้ฟังคลิปคุณหมอสันต์บอกว่า'ห้ามทานน้ำมันพืชเลย'(เพราะฉะนั้นที่บ้านจะทำแต่ต้มๆ นึ่งๆ หรือส้มตำในบางครั้ง)พอถามคุณพ่อ พ่อบอกว่าให้ไปฟังเอง แต่หนูหาคลิปไม่เจอค่ะ บวกกับร้อนใจอยากรู้จึงมาถามอาจารย์ทางอีเมลค่ะ ส่วนตัวหนูไม่เชื่อค่ะ เพราะเคยเรียนมาว่าคนเราถ้าไม่ใช้น้ำดีเลยจะมีปัญหา เลยมาสอบถามอาจารย์ หากมีเวลา ขอความกรุณาตอบด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ปล.เคยพิมพ์ถามเมื่อ 2 ปีก่อนค่ะ แต่ตอนนั้นพิมพ์อีเมลล์อาจารย์ผิดไปค่ะ .......................................

ก้าวเดินไปสู่การเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวเอง (The Best Version of Mine)

     (หมอสันต์พูดกับสมาชิกแค้มป์ลดน้ำหนักกลางสนามหน้าฮอล ก่อนเริ่มออกเดินทางไกลวันที่สอง)      เมื่อวานผมได้พูดถึงแนวทางการลดน้ำหนักของเวลเนสวีแคร์ว่าจะโฟกัสที่พฤติกรรมหลักสี่อย่างเท่าน้้น คือ      (1) เราจะเปลี่ยน Version ตัวเอง จากคนเดิม หรือ V. original แกล้งไปเลียนแบบตัวเราในเวอร์ชั่นที่ดีสุด เป็น The best version of mine หรือ V. Best เลียนแบบหมายถึงการแกล้งทำตัวให้เหมือนมากที่สุด เมื่อวานนี้ทุกคนได้ทำการบ้านวาดภาพตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดขึ้นมาแล้ว ถ้าวันนี้เขาหรือเธอจะมาเดินกันในวันนี้แทนเรา เขาหรือเธอจะคิดอะไร จะพูดอะไร จะเดินอย่างไร จะทำอะไรอย่างไร เราจะแกล้งทำตัวแบบนั้น ทำได้เหมือนไม่เหมือน ถาวรไม่ถาวร ไม่เป็นไร เพราะเราแค่แกล้งทำ ทำเล่นๆ แต่ทำซ้ำๆให้ถี่ๆ ทำถี่ทุกวินาทีได้ยิ่งดี     (2) เราจะกินอาหารพืชเป็นหลัก แบบไขมันต่ำและใกล้เคียงธรรมชาติ (plant-based, whole food, low fat) โดยกินให้อิ่ม     (3) เราจะหาเรื่องเดินทั้งวัน เดินให้เป็นวิถีชีวิต      (4)  สำหรับคนที่ทำได้ เราจะงดอาหารมื้อเย็น ถ้าทำไม่ได้ก็ให้กินอาหารแคลอรี่ต่ำเช่นผลไม้และสลัดเป็นหลักในมื้อเย็น

จุ่มสามล้างห้า อืม..ม ของเขาดี

ขอคำปรึกษาปัญหาครอบครัวครับ กระผมชื่อนาย ... อายุ 34 ปี ทำงานค้าขายทั่วไป  อยู่จังหวัด ... ผมพึ่งแต่งงานมาได้ไม่กี่เดือน ภรรยา อายุ 32 ปี ตอนนี้ทางเราต้องการหาจิตแพทย์ครับ เพราะภรรยาเค้ารู้สึกเครียด ไม่ชอบที่บ้าน เค้าอยากมีความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบให้คนที่บ้านถามนู่น นี้ นั้น เค้าจึงเครียด ไม่มีอารมณ์ทางเพศเลย ผมควรทำอย่างไรดีครับ ขอบพระคุณครับ ............................................................ ตอบครับ      ฟังดูแล้วเป็นประเด็นแม่ผัวลูกสะใภ้ หมอสันต์แนะนำว่าการแก้ปัญหาว่าควรทำตามลำดับดังนี้ คือ      (1) วางแผนกิจกรรมให้ภรรยาไม่ต้องได้พบหน้ากับเตี่ยแม่อากงอาม่าของคุณมากนักในแต่ละวัน เช่นทำทีเป็นงานยุ่งจนต้องกินข้าวคนละเวลา      (2) โยกย้ายห้องหับภายในให้แยกห้องนอนของคุณกับภรรยาออกมาเป็นสัดส่วนให้อยู่ห่างๆจากห้องของครอบครัวเดิมของคุณ หรือแม้กระทั่งไปปลูกกระต๊อบเล็กๆอยู่ท้ายสวนถ้าทำได้      (3) ย้ายบ้านออกไปอยู่ข้างนอก แล้วเข้ามาทำงานกงสีแบบเช้าไปเย็นกลับ      (4) คุณเป็นคนกลางพูดคุยกับทั้งสองฝ่าย ทีละฝ่ายนะ ว่าเอาเถอะไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราคงต้องยอมรับว่ารากเหง้าวัฒนธ

แผนชีวิตยามชรา..ถ้าระบบบัตรทองไม่ล่มไปเสียก่อน

เรียนปรึกษาคุณหมอเรื่องในอนาคตค่ะ ปัจจุบันดิฉันอายุ 46 ค่ะ ไม่ได้แต่งงาน เคยทำงานประจำค่ะ ตอนนี้ออกจากงานประจำมาแล้วค่ะ ขายกาแฟ รายได้ 7,000-10,000บาทต่อเดือน กำลังตัดสินใจวางแผนยามชราค่ะ และมีความเชื่อศรัทธาในตัวคุณหมอ เพื่อมีส่วนช่วยชี้แนะการวางแผนในอนาคต จึงใคร่เรียนถามขอคำชี้แนะ ดังนี้ค่ะ 1. ดิฉันเลือกไม่ถูกค่ะ ว่าจะต่อสิทธิ์ประกันสังคมมาตรา 39 ดี เพื่อเอาสิทธิ์รักษาพยาบาลต่อไป หรือ  ไปใช้สิทธิ์บัตรทอง แต่ได้เงินบำนาญจากประกันสังคมเดือนละ 3,000 บาทต่อเดือน ตอนอายุ 60 ปีถึงตาย 2. จริงๆดิฉันมีน้องชายแท้ๆ 1 คน น้องชายลูกอาที่เลี้ยงมาอีก 1 คน มีหลานสาวตัวน้อย 2 คนค่ะ...แต่..ใจของดิฉันรับรู้อะไรบางอย่าง ทำให้ทราบสัจธรรมของชีวิต ว่า ไม่ควรฝากผีฝากไข้กับใคร ไม่ควรทำตัวเป็นภาระใครยามชรา .. นี่คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่หวังพึ่งคำแนะนำจากคุณหมอค่ะ 3. ยามชราดิฉันควรไปอยู่บ้านพักคนชราไหมค่ะคุณหมอ จากนี้ไปดิฉันควรคิดและปฏิบัติตนอย่างไรดีค่ะ คาดหวังเพียงยามชราไม่ลำบาก และมีความสุขค่ะคุณหมอ .............................................................. ตอบครับ      1. ถามว่าแก่แล้วจะหยุดต

หมอสันต์พูดกับกลุ่มผู้เรียนชาวต่างชาติเรื่องการวางความคิด (in English)

    เช้าวันนี้ผมพูดให้กลุ่มคนต่างชาติเรื่องการจัดการความเครียดด้วยการวางความคิด พูดเป็นภาษาอังกฤษและบันทึกเทปไว้ เทปสมัยนี้ถ่ายออกมาเป็นไฟล์ตัวหนังสือได้เลย เนื้อหาง่าย น่าจะมีประโยชน์สำหรับบางท่าน จึงเอามาลงไว้ให้อ่าน ต้องขอโทษที่ผมไม่มีเวลาแปลเป็นภาษาไทย ท่านใช้กูเกิ้ลแปลเอาเองก็แล้วกันนะครับ ...........................................      We have one hour together this morning.      I will give you a briefing how we deal with stress here at Wellness We Care Center. My briefing will be a kind of.. I give you a tool, one tool at the time, then you test that tool here immediately. One tool after another. By the time I have given you all of tho tools, you will get the rough idea how to cope with stress.      Before testing the tool, let's talk a bit about life. In my view, life consists of roughly three components,          the body,      the thought, and      the awareness.      I use the word "thought" as a synonym with the word "mind"      Wha

การจะพบกับความมหัศจรรย์ของชีวิต คุณต้องไม่ปักใจเชื่ออะไรที่คุณไม่รู้

เรียน คุณหมอสันต์ ที่เคารพ          จากที่ได้ไปเข้าแคมป์ CR ... เมื่อเดือน ธ.ค. 62 แล้วแจ้งคุณหมอว่าถ้าผลการให้คีโมไม่ดีจะไม่รับคีโมต่อนะค่ะ (มะร็งเต้านมปี 2552 ลามไปกระดูกสันหลังปี 2559และลามไปตับปี 2561 ที่ตับเริ่มจาก 2 ซม. เป็น 10 ซม. และอีกหลายก้อนเล็กๆ รวม 10 ก้อน ให้คีโมแบบฉีด 2 คอร์ส และสุดท้ายแบบกิน เคฟไซทาบีน )  เมื่อวันที่ 24/1/63 ไปทำ CTช่องท้องบน  แล้วพบแพทย์  27/1/63 แต่รายงานยังไม่ออก หมอเปรียบเทียบภาพสแกนกับเมื่อเดือน  09/2562 ผลไม่ดีขึ้น ก้อนที่ตับน่าจะใหญ่ขึ้น และมีก้อนเล็กๆเพิ่มขึ้นอีกหลายก้อนค่ะ คุยกับหมอคร่าวๆ คุณหมอจะขอเปลี่ยนยา เป็นยาฉีดแทน (แต่ไม่บอกชื่อยา) เป็นยานอกบัญชีกลาง (ตอนนี้ใช้สิทธิประกันสังคมรักษา) ค่ายาเข็มละ สองหมื่นกว่า ฉีด 2 อาทิตละครั้ง รับยาได้อย่างมากไม่เกิน 6 เดือน แต่ไม่ได้เป็นการรักษานะคะ หวังผลแค่ยืดเวลาออกไปเท่านั้น หรือไม่ก็ให้ยาเดิม (เคฟไซทาบีน) อีก 2 รอบ แล้วรักษาตามอาการค่ะ คุณหมอที่ ... นัดอีกที่วันที่ 3 ก.พ. ค่ะ เพื่อดูรายงาน CT scan ให้ละเอียดก่อนจะสรุปว่าคนไข้จะรักษาอย่างไงต่อค่ะ จึงจะเรียนปรึกษาคุณหมอนะค่ะว่า ถ้าไม่รับคีโมแบบฉี

แค้มป์โยคะในระดับลึกซึ้งกับ Yogi Lalit Ji

     หลายปีมาแล้วผมเชิญครูทางจิตวิญญาณที่ปฏิบัติตนมาทางฮินดูมาสอนที่เวลเนสวีแคร์ในประเด็นการมุ่งสู่ความหลุดพ้น ผู้สอนเป็นคนไทยคนหนึ่งและคนออสเตรเลียอีกคนหนึ่ง ครั้งนั้นตัวผมเองได้ประสบการณ์ในฐานะผู้เข้าเรียนว่าแท้จริงแล้วโยคะ เป็นเส้นทางหลักที่ตรงมากทางหนึ่งในการบรรลุความหลุดพ้น ซึ่งต้องเป็นโยคะที่ลึกซึ้งไปกว่าโยคะที่สอนและฝึกกันอยู่ทั่วโลกที่เน้นท่าปฏิบัติ (อาสนะ) และมุ่งประโยชน์ทางด้านการมีสุขภาพดีเพียงอย่างเดียว ผมจึงได้ศึกษาและทดลองปฏิบัติโยคะตามคำสอนของปตัญชลีซึ่งเป็นปรมาจารย์ดั้งเดิมของโยคะตั้งแต่นั้น ต่อมาเมื่อ Dr.Prem Joshi จากอินเดียมาเป็นแพทย์อายุรเวดะ (Ayurveda) ประจำอยู่ที่เวลเนสวีแคร์ ตัวเขาเคยเป็นครูสอนโยคะอยู่ที่มาลดิฟมาก่อนด้วย ผมจึงได้บอกเขาให้ค้นหาในแวดวงโยคีของอินเดีย เพื่อหาโยคีมาสอนโยคะที่ลึกซึ้งกว่าโยคะทั่วไป ผมหมายถึงโยคะที่ครอบคลุมหลักการทั้งแปดขั้นตอนของปตัญชลี คือให้ครอบคลุมไปถึงการบรรลุอิสระภาพหรือความหลุดพ้นเลย พยายามหาอยู่นานก็ไม่ลงตัว เพราะการเลือกตัวโยคีผู้สอนต้องคำนึงถึงพื้นฐานของผู้เข้าเรียนซึ่งส่วนใหญ่ไม่คุ้นกับโยคะด้วย แต่ในที่สุดโดยการแนะนำของหลายฝ่า