GHBY-29 ต้องการพูดกับคน..กด 5 หิ หิ
ทุกวันนี้คนที่โทรศัพท์เข้ามาถามเรื่องนั่นเรื่องนี่ที่เวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์หรือโทรมาหาหมอสมวงศ์มักจะบ่นว่าโทรแล้วไม่มีคนรับบ้าง ไม่มีใครรู้เรื่องบ้าง ผมก็เลยบอกน้องที่เข้ามาทำงานอยู่ด้วยว่าให้ไปหาทางแก้ปัญหา พวกเขาก็สรุปมาว่าต้องให้โทรเข้ามาหาเบอร์ซึ่งต้องกดเลขต่อไปยังเป้าหมายที่จะไป ผมฟังแล้วก็ไม่เอาด้วยอยู่นานหลายเดือน เพราะผมเป็นคนในวัยที่หน่ายมากเวลาโทรศัพท์ไปไหนโดยเฉพาะบริษัทใหญ่ๆที่ชอบมีขั้นตอนมากมายแบบว่า ต้องการทำอย่างนั้น กด 1 ต้องการทำอย่างนี้ กด 2 กดไปเบอร์นั้นที กดไปเบอร์โน้นที กดไปกดมา ในที่สุดก็..อ๊อด..ด...ด ซึ่งคงแปลว่าลุงแพ้เกมส์คนแก่แล้ว กรุณากลับไปตั้งต้นที่สนามหลวงใหม่
แต่ว่ามาถึงวันนี้เหตุการณ์มันบังคับให้ผมต้องทำอย่างนั้นกับคนอื่นแล้ว แม้ว่ามันจะขัดกับบุคลิกของหมอสันต์ก็ตาม ผมเองให้นึกสงสารผู้สูงวัยที่อยากจะมาทำธุรกรรมกับเวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์ ต่อไปคงจะเจอแบบว่า
"..สวัสดีคะ..ขอต้อนรับสู่เวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์
ต้องการสอบถามเรื่องทั่วไป กด 1
ต้องการจองแค้มป์สุขภาพ กด 2
ต้องการซื้อขนมปัง กด 3
ต้องการจองบริการคลินิกเมก้าเวดะ กด 4
ต้องการพูดกับคน..เอ๊ย ไม่ใช่ ต้องการพูดกับผู้จัดการ กด 5 ..หิ หิ "
ทำไงได้ละครับ โลกนี้มันเป็นอย่างนี้ไปซะแล้วตาแก่อย่างเราจะไปขวางโลกได้อย่างไร ยังมีอีกเรื่องหนึ่งนะ คือการซื้อขายอะไรผ่านเว็บไซท์ ผมเองก็หน่ายอีกเหมือนกันที่ทำตามที่บอกไปทีละขั้นๆ ขอเบอร์หรือหมายเลขลับอะไรบนบัตรเครดิตผมก็ไม่เคยหวง ให้หมด เพราะผมถือเสียว่าเงินผมไม่ได้มีมาก ถูกเชิดยกแบ้งค์ไปผมก็ไม่เสียหายเป็นเงินสักเท่าไหร่หรอก แต่ทำไปจนจบกระบวนการแล้วก็ยังซื้อของไม่ได้เนี่ยสิมันน่าเจ็บใจ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เว็บไซท์หนึ่งเขามีช่องให้เขียนอีเมลหาเขาด้วยถ้ามีปัญหา ผมก็เขียนไปด่าเลยว่า
"ผมต้องการสื่อสารกับคน"
ปรากฎว่าแป๊บเดียวก็มีอีเมลตอบกลับมาอย่างสุภาพ
"Thank you for contacting us. This is an automatic reply..."
เป็นอีเมลจากหุ่นยนต์ เวร! คำเดียวเลยจริงๆ
แต่ว่าตอนนี้ผมก็จะต้องทำแบบนี้กับคนอื่นเสียแล้ว คือผมจำเป็นต้องย้ายธุรกรรมการสมัครเข้าเรียนในแค้มป์สุขภาพต่างๆของเวลเนสวีแคร์ไปทำบนเว็บไซท์ เพราะผมกับหมอสมวงศ์ต่างก็แก่แล้ว จะมางกๆรับโทรศัพท์โต้ตอบทุกวันก็ไม่ไหว จึงให้เขาทำเว็บไซท์รับสมัครทางนั้น คลิกหารายละเอียดเอาเอง รูดบัตรเอาเอง หาเจอไม่เจอ รูดสำเร็จไม่สำเร็จ ก็ต้องลุ้นเอาละครับ
แค้มป์แรกที่จะเอาไปรับสมัครทางเว็บคือแค้มป์พลิกผันโรคด้วยตนเอง (GHBY29) ซึ่งจะมีในวันที่ 19 - 20 พค. 61 ผมทำใจไว้แล้วว่าการย้ายครั้งนี้จะทำให้ที่มีมอตโต้แบบเดียวกับหมอสันต์คือไม่ใช่คนไม่พูดด้วยคงจะทนไม่ไหวหายหน้าไปหลาย แต่เมื่อได้ตัดสินใจไปแล้วก็ต้องไป รอบปฐมฤกษ์ 19 พค. 61 นี้ ยังไงก็จะเปิดสอนให้ได้ ถึงมีคนเดียวก็ต้องเปิดสอน ภาษาแม่ค้าเรียกว่าประเดิม ไม่ประเดิม ก็ไม่เกิด ถูกแมะ ใครที่มีเวลาเข้าเรียนช่วงนี้ก็เชิญเลยนะครับ เพราะหลุดจากครั้งนี้ไปครั้งหน้าต้องโน่น GHBY33 วันที่ 28-29 กค. 61 โน่นเลย เพราะช่วงสามเดือนข้างหน้านี้มีแค้มป์ของบริษัทต่างๆค่อนข้างชุกจึงหาเวลาจัดแค้มป์คนทั่วไปยากหน่อย
และไหนก็พูดถึงแค้มป์ GHBY ซึ่งทำกันมานานหลายปีแล้ว ขอถือโอกาสนี้ปรับเนื้อหาสาระไปบ้างตามสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากแค้มป์เก่าๆ ดังนี้
ความเป็นมาของ GHBY
เมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนที่ตัวผมเองป่วย ผมหันมาดูแลตัวเองในเรื่องการกิน การออกกำลังกาย การดูแลจัดการความเครียด จนแก้ปัญหาให้ตัวเองได้ ผมได้ตัดสินใจเลิกอาชีพหมอผ่าตัดหัวใจเปลี่ยนมาทำอาชีพหมอส่งเสริมสุขภาพ สอนผู้ป่วยให้รู้วิธีดูแลสุขภาพของตัวเองได้ด้วยตัวเอง ทำสถานที่ เปิดแค้มป์สุขภาพสอนคนที่ยังไม่ป่วยให้ดูแลตัวเองเป็นว่าทำอย่างไรจึงจะไม่ป่วย ตั้งชื่อว่า GHBY (Good Health By Yourself) แปลว่า "คอร์สสุขภาพดีด้วยตัวเอง" ผมรู้ว่าคนส่วนหนึ่งยังขาดความรู้ในประเด็นสำคัญ ผมจึงจับประเด็นที่คนยังไม่รู้นั้นออกมาคลี่ให้เห็นโดยใช้หลักฐานวิทยาศาสตร์ประกอบ ผมรู้ว่าบางคนมีความรู้แล้วแต่ขาดทักษะ (skill) ทีี่จะลงมือปฏิบัิติ เช่นจะเปลี่ยนอาหารไปเป็นอาหารแบบกินพืชเป็นหลัก (PBWF) แต่ก็ทำไม่เป็น จะออกกำลังกายแบบฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่ก็ไม่รู้วิธี ผมจึงสอนทักษะด้วย ในแง่ของการจัดการความเครียด ผมก็จับเอาผลวิจัยว่าอะไรลดความเครียดได้เอามาฝึกมาสอนหมด ไม่ว่าจะเป็นโยคะ สมาธิ ไทชิ เป็นต้น ทั้งหมดนี้ผู้เข้าแค้มป์เก็ทดีมาก หลายคนนำไปใช้กับตัวเองได้ผลดีมาก แต่เมื่อพบกันนานหลายเดือนหรือหลายปีต่อมา หลายคนยังดูแลตัวเองดีอยู่ได้ แต่ผมพบว่าหลายคนมีอาการ "ถ่านหมด" หรือพลังมอด ความบันดาลใจหดหาย ต่อมาผมจึงได้ปรับปรุงหลักสูตรโดยเพิ่ิมเติมวิธีสร้างความบันดาลใจ (Motivation) เข้าไปด้วย แต่ก็ยังพบว่าแค่นั้นก็ยังไม่พอ เพราะความบันดาลใจมีสภาพเหมือนไฟไหม้ฟาง กระพือขึ้นแล้วก็มอดไป จำเป็นจะต้องมีระบบติดตามตัวชี้วัดที่ต่อเนื่อง อันจะเป็นการปูทางให้สมาชิกที่มาเข้าแค้มป์ต่อไปจะได้เข้าเป็นสมาชิกของคลินิกบริหารสุขภาพด้วยตนเอง (Self Management Clinic - SMC) ได้แบบอัตโนมัติเลยโดยไม่ต้องมาสอนอะไรกับอีก ในแค้มป์ใหม่ GHBY นี้หน้าตาหลักสูตรจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดังนี้
1. โภชนาการแบบพืชเป็นหลักและไขมันต่ำ
2. การออกกำลังกาย ทั้งแอโรบิก เล่นกล้าม และเสริมการทรงตัว
3. การจัดการความเครียดทั้งสมาธิ ไทชิ โยคะ
4. การใช้ดัชนีง่ายเจ็ดตัว (simple 7) ในการบริหารสุขภาพตนเอง
ดังนั้นหน้าตาของคอร์สใหม่จะเป็นดังนี้
................................................................
หลักสูตรคอร์สสุขภาพดีด้วยตัวเอง
Good Health By Yourself (GHBY) Camp Syllabus
Motto
“เรียน” สิ่งที่ยังไม่เคยรู้ (knowledge)
“ทำ” สิ่งที่ยังไม่เคยทำ (skill)
"ชอบ" สิ่งที่ไม่เคยชอบ (attitude)
คอนเซ็พท์ของแค้มป์ (Conceptual Design)
ให้คนกลุ่มเล็กๆประมาณไม่เกิน 24 คน ได้มาพักผ่อนปลายสัปดาห์ (2 วัน 1 คืน) ร่วมกับ นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ที่เวลเนสวีแคร์เซ็นตเตอร์ ที่มวกเหล็ก ซึ่งสงบเงียบและไม่มีบุคคลภายนอกมารบกวนยุ่งเกี่ยว แล้วเรียนรู้สาระสำคัญเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพตนเอง และฝึกทักษะต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ในการดูแลสุขภาพตนเองไปด้วยกัน รวมทั้งจับกันเป็นกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และช่วยเหลือกันและกันในอนาคต ในบรรยากาศการพูดคุยแบบกันและไม่เป็นทางการ
วัตถุประสงค์ (Objectives)
1. วัตถุประสงค์ด้านความรู้ (knowledge)
มุ่งให้ผู้เข้าคอร์สมีความรู้ในเรื่องต่อไปนี้
1.1 ภาพรวมงานวิจัยใหม่ล่าสุดเกี่ยวกับภาพรวมของการมีสุขภาพดี
1.2 ภาพรวมโภชนาการในแนวกินพืชในรูปแบบใกล้ธรรมชาติ (Whole food, plant based)
1.3 วิเคราะห์คำแนะนำโภชนาการของอนุกรรมการวิทยาศาสตร์ USDA 2015
1.4 วิเคราะห์คำแนะนำเรื่องอาหารที่ปรับแต่ง (processed food) และเนื้อแดง (red meat) ของ WHO 2015
1.5 วิธีอ่านและแปลความหมายฉลากอาหาร (1) ประเด็นหน่วยบริโภค (2) ประเด็นแคลอรี่ (3) ประเด็นไขมันทรานส์ (4) ประเด็นชนิดของไขมัน (5) วิธีวิเคราะห์ปริมาณเส้นใย
1.6 อาหารพืชที่มีคุณสมบัตดีต่อสุขภาพอย่างโดดเด่น
1.7 Sprout & microgreen เรียนรู้คุณค่าและวิธีทำต้นอ่อนเมล็ดงอกชนิดต่างๆ
1.8 งานวิจัยผลของการปรุงอาหารแบบต่างๆต่อการทำลายคุณค่าของอาหาร
1.9 การออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง (aerobic exercise) สามประเด็น (1) หนักพอควร คือหอบเหนื่อยร้องเพลงไม่ได้ (2) ต่อเนื่อง คือ 30 นาทีขึ้นไป (3) สม่ำเสมอ คือ สัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 5 วัน
1.10 การออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อ (strength training) สิบประเด็น (1) กลุ่มกล้ามเนื้อหลักสิบกลุ่ม (2) การฝึกทีละกลุ่มกล้ามเนื้อ (3) การยืดกล้ามเนื้อก่อน (4) การฝึกท่าร่าง (5) การทำซ้ำจนล้า (6) การทำเพิ่ม (overload) ทีละนิด (7) หลักการหายใจ (8) หลักเคลื่อนไหวช้า (9) หลักพิสัยการเคลื่อนไหว (10) หลักพักและฟื้น
1.11 การออกกำลังกายแบบเสริมการทรงตัว (balance exercise) รวมถึง 5 องค์ประกอบของการทรงตัว และ 7 ปัจจัยที่ทำให้ลื่นตกหกล้มง่าย
1.12 ความเครียด และกลไกการเกิด และผลต่อร่างกาย
1.13 การฝึกสติสมาธิ
1.14 โยคะ
1.15 ไทชิ
1.16 สุขศาสตร์ของการนอนหลับ (Sleep hygiene)
1.17 ปัจจัยเสี่ยงสุขภาพอย่างง่าย 7 ตัวของ AHA (1) น้ำหนัก (2) ความดัน (3) น้ำตาล (4) ไขมัน (5) อาหารพืช (6) การออกกำลังกาย (7) บุหรี่
1.18 การบริหารสุขภาพตนเองด้วยดัชนีง่ายๆ 7 ตัว
2 วัตถุประสงค์ด้านทักษะ
มุ่งให้ผู้เข้าแค้มป์ มีทักษะ สามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้ด้วยตนเองที่บ้านได้
2.1 เลือกอาหารแนว whole food, plant based มาเพื่อการบริโภคของตัวเองและครอบครัวได้
2.2 อ่านฉลากอาหาร แปลความหมาย และใช้ประโยชน์จากฉลากอาหารได้
2.3 ลงมือทำอาหารแนว whole food, plant based ได้ด้วยตนเอง
2.4 เลือกซื้อและ/หรือปลูกผักสวนครัว ผักพื้นบ้าน และเครื่องเทศที่ดีต่อสุขภาพได้ด้วยตนเอง
2.5 ออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง (aerobic exercise) ได้ด้วยตนเอง
2.6 ประเมินและติดตามดูสมรรถนะร่างกายตนเองด้วยวิธี one mile walk test ได้
2.7 ออกกำลังกายแบบฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (strength training) ได้ด้วยตนเอง ทั้งแบบมือเปล่า ใช้ดัมเบล ใช้สายยืด และใช้กระบอง
2.8 ออกกำลังกายแบบเสริมการทรงตัว (balance exercise) ได้ด้วยตนเอง
2.9 ฝึกสติสมาธิได้ด้วยตนเองและนำไปใช้ประโยชน์ได้
2.10 ปฏิบัติสุขศาสตร์ของการนอนหลับได้ด้วยตนเอง
2.11 ปฏิบัติโยคะอาสนะได้ด้วยตนเอง
2.12 ปฏิบัติไทชิ ได้ด้วยตนเอง
2.13 ใช้ปัจจัยเสี่ยงสุขภาพอย่างง่าย 7 ตัวของ AHA ติดตามดูแลสุขภาพของตนเองได้
2.14 กระตุ้นพลังในตัวเอง เพือการดูแลสุขภาพตัวเองอย่างต่อเนื่องได้
3 วัตถุประสงค์ด้านเจตคติ
มีเป้าหมายให้ผู้เข้าแค้มป์มีเจตคติที่
3.1 รักแนวทางดูตนเองแบบส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (health promotion attitude)
3.2 ชอบการใช้ชีวิตแบบกระตือรือล้นและเคลื่อนไหวมาก (active lifestyle attitude)
3.2 ชอบดูแลตัวเองและทำอะไรด้วยตนเอง (do it yourself attitude)
แผนกิจกรรม
สถานที่: เวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์ (Wellness We care Center) มวกเหล็ก-เขาใหญ่
วันแรก
8.30 -9.30 น. เดินทางถึงเวลเนสวีแคร์ (มวกเหล็ก-เขาใหญ่) เช็คอินที่บ้าน Grove House เข้าห้องพัก ทำกิจธุระส่วนตัว
9.30-10.00 ทำความรู้จักกัน Getting to know each other
10.00 -10.30 Briefing: Evidence based total lifestyle modification
หลักฐานวิทยาศาสตร์ที่สรุปได้ว่าการปรับวิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิง ทำให้อายุยืน
และชีวิตมีคุณภาพ
10.30-11.00 Briefing: USDA 2015 Advisory Committee's Guidelines for Nutrition
บรรยายคำแนะนำโภชนาการปัจจุบัน อะไรควรกิน อะไรไม่ควรกิน
11.00 – 12.00 Workshop : Food shopping
กิจกรรมจ่ายตลาด ฉลาดซื้อ
12.00 – 13.30 Workshop: Cook your own meal
ชั้นเรียนทำอาหารด้วยตนเองในแนวกินพืชเป็นหลักในแบบใกล้เคียงธรรมชาติ Whole food, plant-based แล้วรับประทานอาหารกลางวันที่ตัวเองทำ
13.30 – 14.30 Workshop: Yoga, muscle relaxation and muscle stretching
ฝึกปฏิบัติโยคะเพื่อผ่อนคลายและการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
14.30 – 15.30 Workshop: Muscle strength training
ฝึกปฏิบัติการออกกำลังกายแบบฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และการเสริมการทรงตัว
15.30 – 16.30 Balance exercise
16.30 – 16.45 Coffee break
พักดื่มกาแฟ
16.45-17.45 Workshop: Line dance
ฝึกปฏิบัติการออกกำลังกายแบบเสริมการทรงตัวด้วยวิธีไลน์ด้านซ์
17.45 – 18.15 Workshop: Herbs Spices and Sprout
ทัวร์สวนครัวผักพื้นบ้านและพืชเครื่องเทศ แล้วทำกิจกรรมปลูกผักและเพาะเมล็ดงอกเพื่อเป็นอาหาร
18.15 – 18.45 พักผ่อนตามอัธยาศัย อาบน้ำ
18.45 – 20.30 Dinner: อาหารเย็น
วันที่สอง
6.30 – 7.30 Workshop: One mile walk test
ฝึกประเมินสมรรถนะร่างกายตนเองด้วยวิธี One mile walk test
7.30 – 8.00 Workshop: Tai Chi
ฝึกปฏิบัติเคลื่อนไหวอย่างมีสติ ด้วยวิธี Tai Chi
08.00– 9.30 Breakfast
อาบน้ำ รับประทานอาหารเช้า
9.30 – 10.30 Motivation and Total lifestyle modification
การสร้างพลังเพื่อเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิง
10.45-11.00 Coffee break
พักรับประทานอาหารว่าง
11.00 – 12.00 Workshop: AHA's Seven simple health index
ภาคปฏิบัติการประเมินปัจจัยเสี่ยงสุขภาพส่วนบุคคล
12.00 - 13.00 พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00 - 14.00 Health Dashboard
เรียนรู้การใช้งานฐานข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลบนอินเตอร์เน็ท
14.00 - 16.00 Questions and Answers
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ตอบคำถามและให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพส่วนตัวเป็นรายคน รวมทั้งปรึกษาผลแล็บ เอกซเรย์และผลการตรวจพิเศษต่างๆ โดยผู้ร่วมแค้มป์ท่านอื่นสามารถนั่งฟังและร่วมแชร์ความรู้และประสบการณ์กันในห้องได้
16,00 ปิดแค้มป์
ค่าลงทะเบียน
ราคาปกติของคอร์ส GHBY คือท่านละ 9,000 บาท รวมอาหารทุกมื้อ ที่พัก อุปกรณ์การเรียน แต่ไม่รวมค่าเดินทางยังเวลเนสวีแคร์ (ผู้เรียนต้องเดินทางไปเอง)
วิธีลงทะเบียนเข้าเรียน
ลงทะเบียนผ่านเว็บไซท์ได้ที่
https://www.wellnesswecare.com/th/program/good-health-by-yourself-th/13 หรือลงทะเบียนบนเว็บและจ่ายเงินทางออนไลน์ โดยท่านสามารถลงทะเบียนได้โดยโทรศัพท์ติดต่อคุณเอ๋ย (เชิญขวัญ) ที่หมายเลข 0636394003 หรือไลน์ @wellnesswecare หรืออีเมล chernkwan@wellnesswecare.com
การเตรียมตัวไปเข้าคอร์ส
แนะนำให้เตรียมเครื่องแต่งกายที่ออกกำลังกายสะดวก ควรมีรองเท้าผ้าใบที่เดินบนพื้นหินขรุขระได้ และควรมีหมวกกันแดด และครีมกันแดด
การเดินทางไปเข้าคอร์ส
สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถตู้กทม.-มวกเหล็ก (ขึ้นที่ใต้ทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) หรือรถไฟ (ลงสถานีมวกเหล็ก) ในกรณีเดินทางด้วยรถตู้หรือรถไฟ ต้องหารถรับจ้างจากตลาดมวกเหล็กเข้ามาส่ง ค่ารถมอเตอร์ไซค์ส่งจากตลาดราว 100 บาท ที่เวลเนสวีแคร์ ซึ่งตั้งอยู่ในมวกเหล็กวาลเลย์ อยู่ห่างจากตลาดมวกเหล็กราว 4 กม. อาจให้รถตู้จากกทม.แวะเข้ามาส่งก็ได้โดยต้องเพิ่มเงินให้เ้ขาประมาณ 120 บาท ในกรณีที่จะให้เวลเนสวีแคร์ช่วยระสานงานหารถรับจ้างเหมาไปจากกทม. ต้องติดต่อล่วงหน้า ค่าจ้างแทกซี่ 1,500 บาทเฉพาะขาไปจากกทม.ขาเดียว หรือ 3,000 บาทสำหรับการไปส่งแล้วไปรับกลับกทม.
กรณีเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ให้ใช้ Google Map โดยพิมพ์คำว่า Wellness We Care
แต่ว่ามาถึงวันนี้เหตุการณ์มันบังคับให้ผมต้องทำอย่างนั้นกับคนอื่นแล้ว แม้ว่ามันจะขัดกับบุคลิกของหมอสันต์ก็ตาม ผมเองให้นึกสงสารผู้สูงวัยที่อยากจะมาทำธุรกรรมกับเวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์ ต่อไปคงจะเจอแบบว่า
"..สวัสดีคะ..ขอต้อนรับสู่เวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์
ต้องการสอบถามเรื่องทั่วไป กด 1
ต้องการจองแค้มป์สุขภาพ กด 2
ต้องการซื้อขนมปัง กด 3
ต้องการจองบริการคลินิกเมก้าเวดะ กด 4
ต้องการพูดกับคน..เอ๊ย ไม่ใช่ ต้องการพูดกับผู้จัดการ กด 5 ..หิ หิ "
ทำไงได้ละครับ โลกนี้มันเป็นอย่างนี้ไปซะแล้วตาแก่อย่างเราจะไปขวางโลกได้อย่างไร ยังมีอีกเรื่องหนึ่งนะ คือการซื้อขายอะไรผ่านเว็บไซท์ ผมเองก็หน่ายอีกเหมือนกันที่ทำตามที่บอกไปทีละขั้นๆ ขอเบอร์หรือหมายเลขลับอะไรบนบัตรเครดิตผมก็ไม่เคยหวง ให้หมด เพราะผมถือเสียว่าเงินผมไม่ได้มีมาก ถูกเชิดยกแบ้งค์ไปผมก็ไม่เสียหายเป็นเงินสักเท่าไหร่หรอก แต่ทำไปจนจบกระบวนการแล้วก็ยังซื้อของไม่ได้เนี่ยสิมันน่าเจ็บใจ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เว็บไซท์หนึ่งเขามีช่องให้เขียนอีเมลหาเขาด้วยถ้ามีปัญหา ผมก็เขียนไปด่าเลยว่า
"ผมต้องการสื่อสารกับคน"
ปรากฎว่าแป๊บเดียวก็มีอีเมลตอบกลับมาอย่างสุภาพ
"Thank you for contacting us. This is an automatic reply..."
เป็นอีเมลจากหุ่นยนต์ เวร! คำเดียวเลยจริงๆ
แต่ว่าตอนนี้ผมก็จะต้องทำแบบนี้กับคนอื่นเสียแล้ว คือผมจำเป็นต้องย้ายธุรกรรมการสมัครเข้าเรียนในแค้มป์สุขภาพต่างๆของเวลเนสวีแคร์ไปทำบนเว็บไซท์ เพราะผมกับหมอสมวงศ์ต่างก็แก่แล้ว จะมางกๆรับโทรศัพท์โต้ตอบทุกวันก็ไม่ไหว จึงให้เขาทำเว็บไซท์รับสมัครทางนั้น คลิกหารายละเอียดเอาเอง รูดบัตรเอาเอง หาเจอไม่เจอ รูดสำเร็จไม่สำเร็จ ก็ต้องลุ้นเอาละครับ
แค้มป์แรกที่จะเอาไปรับสมัครทางเว็บคือแค้มป์พลิกผันโรคด้วยตนเอง (GHBY29) ซึ่งจะมีในวันที่ 19 - 20 พค. 61 ผมทำใจไว้แล้วว่าการย้ายครั้งนี้จะทำให้ที่มีมอตโต้แบบเดียวกับหมอสันต์คือไม่ใช่คนไม่พูดด้วยคงจะทนไม่ไหวหายหน้าไปหลาย แต่เมื่อได้ตัดสินใจไปแล้วก็ต้องไป รอบปฐมฤกษ์ 19 พค. 61 นี้ ยังไงก็จะเปิดสอนให้ได้ ถึงมีคนเดียวก็ต้องเปิดสอน ภาษาแม่ค้าเรียกว่าประเดิม ไม่ประเดิม ก็ไม่เกิด ถูกแมะ ใครที่มีเวลาเข้าเรียนช่วงนี้ก็เชิญเลยนะครับ เพราะหลุดจากครั้งนี้ไปครั้งหน้าต้องโน่น GHBY33 วันที่ 28-29 กค. 61 โน่นเลย เพราะช่วงสามเดือนข้างหน้านี้มีแค้มป์ของบริษัทต่างๆค่อนข้างชุกจึงหาเวลาจัดแค้มป์คนทั่วไปยากหน่อย
และไหนก็พูดถึงแค้มป์ GHBY ซึ่งทำกันมานานหลายปีแล้ว ขอถือโอกาสนี้ปรับเนื้อหาสาระไปบ้างตามสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากแค้มป์เก่าๆ ดังนี้
ความเป็นมาของ GHBY
เมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนที่ตัวผมเองป่วย ผมหันมาดูแลตัวเองในเรื่องการกิน การออกกำลังกาย การดูแลจัดการความเครียด จนแก้ปัญหาให้ตัวเองได้ ผมได้ตัดสินใจเลิกอาชีพหมอผ่าตัดหัวใจเปลี่ยนมาทำอาชีพหมอส่งเสริมสุขภาพ สอนผู้ป่วยให้รู้วิธีดูแลสุขภาพของตัวเองได้ด้วยตัวเอง ทำสถานที่ เปิดแค้มป์สุขภาพสอนคนที่ยังไม่ป่วยให้ดูแลตัวเองเป็นว่าทำอย่างไรจึงจะไม่ป่วย ตั้งชื่อว่า GHBY (Good Health By Yourself) แปลว่า "คอร์สสุขภาพดีด้วยตัวเอง" ผมรู้ว่าคนส่วนหนึ่งยังขาดความรู้ในประเด็นสำคัญ ผมจึงจับประเด็นที่คนยังไม่รู้นั้นออกมาคลี่ให้เห็นโดยใช้หลักฐานวิทยาศาสตร์ประกอบ ผมรู้ว่าบางคนมีความรู้แล้วแต่ขาดทักษะ (skill) ทีี่จะลงมือปฏิบัิติ เช่นจะเปลี่ยนอาหารไปเป็นอาหารแบบกินพืชเป็นหลัก (PBWF) แต่ก็ทำไม่เป็น จะออกกำลังกายแบบฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่ก็ไม่รู้วิธี ผมจึงสอนทักษะด้วย ในแง่ของการจัดการความเครียด ผมก็จับเอาผลวิจัยว่าอะไรลดความเครียดได้เอามาฝึกมาสอนหมด ไม่ว่าจะเป็นโยคะ สมาธิ ไทชิ เป็นต้น ทั้งหมดนี้ผู้เข้าแค้มป์เก็ทดีมาก หลายคนนำไปใช้กับตัวเองได้ผลดีมาก แต่เมื่อพบกันนานหลายเดือนหรือหลายปีต่อมา หลายคนยังดูแลตัวเองดีอยู่ได้ แต่ผมพบว่าหลายคนมีอาการ "ถ่านหมด" หรือพลังมอด ความบันดาลใจหดหาย ต่อมาผมจึงได้ปรับปรุงหลักสูตรโดยเพิ่ิมเติมวิธีสร้างความบันดาลใจ (Motivation) เข้าไปด้วย แต่ก็ยังพบว่าแค่นั้นก็ยังไม่พอ เพราะความบันดาลใจมีสภาพเหมือนไฟไหม้ฟาง กระพือขึ้นแล้วก็มอดไป จำเป็นจะต้องมีระบบติดตามตัวชี้วัดที่ต่อเนื่อง อันจะเป็นการปูทางให้สมาชิกที่มาเข้าแค้มป์ต่อไปจะได้เข้าเป็นสมาชิกของคลินิกบริหารสุขภาพด้วยตนเอง (Self Management Clinic - SMC) ได้แบบอัตโนมัติเลยโดยไม่ต้องมาสอนอะไรกับอีก ในแค้มป์ใหม่ GHBY นี้หน้าตาหลักสูตรจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดังนี้
1. โภชนาการแบบพืชเป็นหลักและไขมันต่ำ
2. การออกกำลังกาย ทั้งแอโรบิก เล่นกล้าม และเสริมการทรงตัว
3. การจัดการความเครียดทั้งสมาธิ ไทชิ โยคะ
4. การใช้ดัชนีง่ายเจ็ดตัว (simple 7) ในการบริหารสุขภาพตนเอง
ดังนั้นหน้าตาของคอร์สใหม่จะเป็นดังนี้
................................................................
หลักสูตรคอร์สสุขภาพดีด้วยตัวเอง
Good Health By Yourself (GHBY) Camp Syllabus
Motto
“เรียน” สิ่งที่ยังไม่เคยรู้ (knowledge)
“ทำ” สิ่งที่ยังไม่เคยทำ (skill)
"ชอบ" สิ่งที่ไม่เคยชอบ (attitude)
คอนเซ็พท์ของแค้มป์ (Conceptual Design)
ให้คนกลุ่มเล็กๆประมาณไม่เกิน 24 คน ได้มาพักผ่อนปลายสัปดาห์ (2 วัน 1 คืน) ร่วมกับ นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ที่เวลเนสวีแคร์เซ็นตเตอร์ ที่มวกเหล็ก ซึ่งสงบเงียบและไม่มีบุคคลภายนอกมารบกวนยุ่งเกี่ยว แล้วเรียนรู้สาระสำคัญเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพตนเอง และฝึกทักษะต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ในการดูแลสุขภาพตนเองไปด้วยกัน รวมทั้งจับกันเป็นกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และช่วยเหลือกันและกันในอนาคต ในบรรยากาศการพูดคุยแบบกันและไม่เป็นทางการ
วัตถุประสงค์ (Objectives)
1. วัตถุประสงค์ด้านความรู้ (knowledge)
มุ่งให้ผู้เข้าคอร์สมีความรู้ในเรื่องต่อไปนี้
1.1 ภาพรวมงานวิจัยใหม่ล่าสุดเกี่ยวกับภาพรวมของการมีสุขภาพดี
1.2 ภาพรวมโภชนาการในแนวกินพืชในรูปแบบใกล้ธรรมชาติ (Whole food, plant based)
1.3 วิเคราะห์คำแนะนำโภชนาการของอนุกรรมการวิทยาศาสตร์ USDA 2015
1.4 วิเคราะห์คำแนะนำเรื่องอาหารที่ปรับแต่ง (processed food) และเนื้อแดง (red meat) ของ WHO 2015
1.5 วิธีอ่านและแปลความหมายฉลากอาหาร (1) ประเด็นหน่วยบริโภค (2) ประเด็นแคลอรี่ (3) ประเด็นไขมันทรานส์ (4) ประเด็นชนิดของไขมัน (5) วิธีวิเคราะห์ปริมาณเส้นใย
1.6 อาหารพืชที่มีคุณสมบัตดีต่อสุขภาพอย่างโดดเด่น
1.7 Sprout & microgreen เรียนรู้คุณค่าและวิธีทำต้นอ่อนเมล็ดงอกชนิดต่างๆ
1.8 งานวิจัยผลของการปรุงอาหารแบบต่างๆต่อการทำลายคุณค่าของอาหาร
1.9 การออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง (aerobic exercise) สามประเด็น (1) หนักพอควร คือหอบเหนื่อยร้องเพลงไม่ได้ (2) ต่อเนื่อง คือ 30 นาทีขึ้นไป (3) สม่ำเสมอ คือ สัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 5 วัน
1.10 การออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อ (strength training) สิบประเด็น (1) กลุ่มกล้ามเนื้อหลักสิบกลุ่ม (2) การฝึกทีละกลุ่มกล้ามเนื้อ (3) การยืดกล้ามเนื้อก่อน (4) การฝึกท่าร่าง (5) การทำซ้ำจนล้า (6) การทำเพิ่ม (overload) ทีละนิด (7) หลักการหายใจ (8) หลักเคลื่อนไหวช้า (9) หลักพิสัยการเคลื่อนไหว (10) หลักพักและฟื้น
1.11 การออกกำลังกายแบบเสริมการทรงตัว (balance exercise) รวมถึง 5 องค์ประกอบของการทรงตัว และ 7 ปัจจัยที่ทำให้ลื่นตกหกล้มง่าย
1.12 ความเครียด และกลไกการเกิด และผลต่อร่างกาย
1.13 การฝึกสติสมาธิ
1.14 โยคะ
1.15 ไทชิ
1.16 สุขศาสตร์ของการนอนหลับ (Sleep hygiene)
1.17 ปัจจัยเสี่ยงสุขภาพอย่างง่าย 7 ตัวของ AHA (1) น้ำหนัก (2) ความดัน (3) น้ำตาล (4) ไขมัน (5) อาหารพืช (6) การออกกำลังกาย (7) บุหรี่
1.18 การบริหารสุขภาพตนเองด้วยดัชนีง่ายๆ 7 ตัว
2 วัตถุประสงค์ด้านทักษะ
มุ่งให้ผู้เข้าแค้มป์ มีทักษะ สามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้ด้วยตนเองที่บ้านได้
2.1 เลือกอาหารแนว whole food, plant based มาเพื่อการบริโภคของตัวเองและครอบครัวได้
2.2 อ่านฉลากอาหาร แปลความหมาย และใช้ประโยชน์จากฉลากอาหารได้
2.3 ลงมือทำอาหารแนว whole food, plant based ได้ด้วยตนเอง
2.4 เลือกซื้อและ/หรือปลูกผักสวนครัว ผักพื้นบ้าน และเครื่องเทศที่ดีต่อสุขภาพได้ด้วยตนเอง
2.5 ออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง (aerobic exercise) ได้ด้วยตนเอง
2.6 ประเมินและติดตามดูสมรรถนะร่างกายตนเองด้วยวิธี one mile walk test ได้
2.7 ออกกำลังกายแบบฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (strength training) ได้ด้วยตนเอง ทั้งแบบมือเปล่า ใช้ดัมเบล ใช้สายยืด และใช้กระบอง
2.8 ออกกำลังกายแบบเสริมการทรงตัว (balance exercise) ได้ด้วยตนเอง
2.9 ฝึกสติสมาธิได้ด้วยตนเองและนำไปใช้ประโยชน์ได้
2.10 ปฏิบัติสุขศาสตร์ของการนอนหลับได้ด้วยตนเอง
2.11 ปฏิบัติโยคะอาสนะได้ด้วยตนเอง
2.12 ปฏิบัติไทชิ ได้ด้วยตนเอง
2.13 ใช้ปัจจัยเสี่ยงสุขภาพอย่างง่าย 7 ตัวของ AHA ติดตามดูแลสุขภาพของตนเองได้
2.14 กระตุ้นพลังในตัวเอง เพือการดูแลสุขภาพตัวเองอย่างต่อเนื่องได้
3 วัตถุประสงค์ด้านเจตคติ
มีเป้าหมายให้ผู้เข้าแค้มป์มีเจตคติที่
3.1 รักแนวทางดูตนเองแบบส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (health promotion attitude)
3.2 ชอบการใช้ชีวิตแบบกระตือรือล้นและเคลื่อนไหวมาก (active lifestyle attitude)
3.2 ชอบดูแลตัวเองและทำอะไรด้วยตนเอง (do it yourself attitude)
แผนกิจกรรม
สถานที่: เวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์ (Wellness We care Center) มวกเหล็ก-เขาใหญ่
วันแรก
8.30 -9.30 น. เดินทางถึงเวลเนสวีแคร์ (มวกเหล็ก-เขาใหญ่) เช็คอินที่บ้าน Grove House เข้าห้องพัก ทำกิจธุระส่วนตัว
9.30-10.00 ทำความรู้จักกัน Getting to know each other
10.00 -10.30 Briefing: Evidence based total lifestyle modification
หลักฐานวิทยาศาสตร์ที่สรุปได้ว่าการปรับวิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิง ทำให้อายุยืน
และชีวิตมีคุณภาพ
10.30-11.00 Briefing: USDA 2015 Advisory Committee's Guidelines for Nutrition
บรรยายคำแนะนำโภชนาการปัจจุบัน อะไรควรกิน อะไรไม่ควรกิน
11.00 – 12.00 Workshop : Food shopping
กิจกรรมจ่ายตลาด ฉลาดซื้อ
12.00 – 13.30 Workshop: Cook your own meal
ชั้นเรียนทำอาหารด้วยตนเองในแนวกินพืชเป็นหลักในแบบใกล้เคียงธรรมชาติ Whole food, plant-based แล้วรับประทานอาหารกลางวันที่ตัวเองทำ
13.30 – 14.30 Workshop: Yoga, muscle relaxation and muscle stretching
ฝึกปฏิบัติโยคะเพื่อผ่อนคลายและการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
14.30 – 15.30 Workshop: Muscle strength training
ฝึกปฏิบัติการออกกำลังกายแบบฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และการเสริมการทรงตัว
15.30 – 16.30 Balance exercise
16.30 – 16.45 Coffee break
พักดื่มกาแฟ
16.45-17.45 Workshop: Line dance
ฝึกปฏิบัติการออกกำลังกายแบบเสริมการทรงตัวด้วยวิธีไลน์ด้านซ์
17.45 – 18.15 Workshop: Herbs Spices and Sprout
ทัวร์สวนครัวผักพื้นบ้านและพืชเครื่องเทศ แล้วทำกิจกรรมปลูกผักและเพาะเมล็ดงอกเพื่อเป็นอาหาร
18.15 – 18.45 พักผ่อนตามอัธยาศัย อาบน้ำ
18.45 – 20.30 Dinner: อาหารเย็น
วันที่สอง
6.30 – 7.30 Workshop: One mile walk test
ฝึกประเมินสมรรถนะร่างกายตนเองด้วยวิธี One mile walk test
7.30 – 8.00 Workshop: Tai Chi
ฝึกปฏิบัติเคลื่อนไหวอย่างมีสติ ด้วยวิธี Tai Chi
08.00– 9.30 Breakfast
อาบน้ำ รับประทานอาหารเช้า
9.30 – 10.30 Motivation and Total lifestyle modification
การสร้างพลังเพื่อเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิง
10.45-11.00 Coffee break
พักรับประทานอาหารว่าง
11.00 – 12.00 Workshop: AHA's Seven simple health index
ภาคปฏิบัติการประเมินปัจจัยเสี่ยงสุขภาพส่วนบุคคล
12.00 - 13.00 พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00 - 14.00 Health Dashboard
เรียนรู้การใช้งานฐานข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลบนอินเตอร์เน็ท
14.00 - 16.00 Questions and Answers
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ตอบคำถามและให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพส่วนตัวเป็นรายคน รวมทั้งปรึกษาผลแล็บ เอกซเรย์และผลการตรวจพิเศษต่างๆ โดยผู้ร่วมแค้มป์ท่านอื่นสามารถนั่งฟังและร่วมแชร์ความรู้และประสบการณ์กันในห้องได้
16,00 ปิดแค้มป์
ค่าลงทะเบียน
ราคาปกติของคอร์ส GHBY คือท่านละ 9,000 บาท รวมอาหารทุกมื้อ ที่พัก อุปกรณ์การเรียน แต่ไม่รวมค่าเดินทางยังเวลเนสวีแคร์ (ผู้เรียนต้องเดินทางไปเอง)
วิธีลงทะเบียนเข้าเรียน
ลงทะเบียนผ่านเว็บไซท์ได้ที่
https://www.wellnesswecare.com/th/program/good-health-by-yourself-th/13 หรือลงทะเบียนบนเว็บและจ่ายเงินทางออนไลน์ โดยท่านสามารถลงทะเบียนได้โดยโทรศัพท์ติดต่อคุณเอ๋ย (เชิญขวัญ) ที่หมายเลข 0636394003 หรือไลน์ @wellnesswecare หรืออีเมล chernkwan@wellnesswecare.com
การเตรียมตัวไปเข้าคอร์ส
แนะนำให้เตรียมเครื่องแต่งกายที่ออกกำลังกายสะดวก ควรมีรองเท้าผ้าใบที่เดินบนพื้นหินขรุขระได้ และควรมีหมวกกันแดด และครีมกันแดด
การเดินทางไปเข้าคอร์ส
สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถตู้กทม.-มวกเหล็ก (ขึ้นที่ใต้ทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) หรือรถไฟ (ลงสถานีมวกเหล็ก) ในกรณีเดินทางด้วยรถตู้หรือรถไฟ ต้องหารถรับจ้างจากตลาดมวกเหล็กเข้ามาส่ง ค่ารถมอเตอร์ไซค์ส่งจากตลาดราว 100 บาท ที่เวลเนสวีแคร์ ซึ่งตั้งอยู่ในมวกเหล็กวาลเลย์ อยู่ห่างจากตลาดมวกเหล็กราว 4 กม. อาจให้รถตู้จากกทม.แวะเข้ามาส่งก็ได้โดยต้องเพิ่มเงินให้เ้ขาประมาณ 120 บาท ในกรณีที่จะให้เวลเนสวีแคร์ช่วยระสานงานหารถรับจ้างเหมาไปจากกทม. ต้องติดต่อล่วงหน้า ค่าจ้างแทกซี่ 1,500 บาทเฉพาะขาไปจากกทม.ขาเดียว หรือ 3,000 บาทสำหรับการไปส่งแล้วไปรับกลับกทม.
กรณีเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ให้ใช้ Google Map โดยพิมพ์คำว่า Wellness We Care
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์