น้ำมันมะพร้าวกับโรคอัลไซเมอร์
คุณหมอสันต์ที่เคารพ
ดิฉันดูแลคุณแม่อายุ 87 ปีซึ่งเป็นอัลไซเมอร์อยู่ ได้ใช้ประโยชน์จากบทความของอาจารย์หลายบทมาก พอดีมีคนส่งวิดิโอนี้มาให้
http://www.cbn.com/tv/1472017228001 เป็น ของ CBN TV ถ้าคุณหมอไม่มีเวลาดูดิฉันของเล่าย่อๆว่า Dr. Mary Newport ซึ่งเป็นแพทย์ MD ได้ทำการรักษาสามีของตัวเองซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ระดับรุนแรงจนทำ clock test (วาดรูปนาฬิกา) ไม่ได้เลย เธอรักษาสามีด้วยวิธีให้กินน้ำมันมะพร้าวโดยวิธีใส่ป่นลงไปในอาหาร โดยเธอเล่าให้โทรทัศน์ฟังว่างานวิจัยของเธอพบว่าโรคอัลไซเมอร์มีกลไกคล้ายโรคเบาหวาน คืออินสุลินไปทำให้เซลสมองไม่สามารถรับกลูโค้สไปใช้งานได้ คล้ายๆกับในโรคเบาหวานที่อินสุลินไปทำให้เซลกล้ามเนื้อไม่สามารถรับกลูโค้สไปใช้งานได้ และเธอได้แก้ปัญหานี้โดยใช้คีโตนเป็นแหล่งพลังงานให้สมองแทน โดยที่คีโตนนี้ได้มาจากการที่ตับเปลี่ยนไขมันชนิด medium chain triglyceride ไปเป็นคีโตน เธอจึงรักษาสามีของเธอด้วยการผสมน้ำมันมะพร้าวลงในอาหาร และในเวลาเพียง 2 สัปดาห์เมื่อให้ทดสอบด้วยการวาดรูปนาฬิกาอีกครั้งสามีของเธอก็วาดได้ หลังจากนั้นสามีของเธอก็มีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่ไม่รู้อะไรอยู่ที่ไหนก็ไปหยิบของเองได้ จากเดิมที่นิ่งไม่พูดไม่จาก็เริ่มพูดและเมคโจ๊กได้ เธอจึงเขียนหนังสือชื่อAlzeimer’s disease, what if there is cure? แล้วก็ได้รับจดหมายขอบคุณจากผู้อ่านที่เป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์จำนวนมาก เรื่องมีประมาณนี้ค่ะ
รบกวนคุณหมอช่วยแนะนำดิฉันด้วยนะคะว่าเนื้อหาในวิดิโอนี้เชื่อถือได้หรือไม่ หากดิฉันใส่น้ำมันมะพร้าวปนในอาหารให้คุณแม่ทานบ้างจะมีผลเสียอะไรไหม เพราะสำหรับดิฉันแล้ว อะไรก็ได้ที่ไม่เป็นอันตรายกับท่านดิฉันพร้อมที่จะลองค่ะ
ตอบครับ
.......................................................................
พูดถึงโรคอัลไซเมอร์ ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเคยเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังครั้งหนึ่งนานมาแล้วว่าเพื่อนผมที่เป็นหมอแก่ในอเมริกาได้ทำนายว่าในอนาคตเมื่อคนเราอายุยืนไปยิ่งกว่านี้ โรคเรื้อรังที่มนุษย์เอาชนะไม่ได้จะเหลืออยู่สามกลุ่มโรคเท่านั้น คือ (1) โรคมะเร็ง (2)โรคอัลไซเมอร์ (3)โรคซึมเศร้าและโรคจิตสองขั้ว ส่วนโรคหัวใจและหลอดเลือดซึ่งเป็นแชมป์อัตราตายปัจจุบันนี้จะกลายเป็นโรคจิ๊บๆไปแล้วเพราะผู้คนสมัยนั้นจะรู้จักดูแลอาหารการกินและการออกกำลังกายดีขึ้น พูดง่ายๆว่าโรคหัวใจกำลังไป แต่ว่าโรคอัลไซเมอร์กำลังจะมา ดังนั้นท่านผู้อ่านที่ยังไม่มีภาระต้องดูแลพ่อแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์ก็อย่าเพิ่งเบื่อเมื่อผมตอบจดหมายโรคอัลไซเมอร์บ่อยนะครับ เพราะว่าต่อไปตัวเราทุกคนเนี่ยแหละ ที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์เสียเอง ดังนั้นรู้จักโรคนี้ไว้ให้ดีย่อมไม่เสียหลาย
ได้พูดถึงโรคอัลไซเมอร์อีกครั้ง ทำให้ผมนึกถึงโจ๊กฝรั่งเรื่องคุณย่าพาคุณปู่ไปหาหมอ เรื่องมีอยู่ว่าคุณย่ามาร์ธาพาคุณปู่จอร์จไปหาหมอ เพราะเห็นแกหลงลืมจัด ขณะที่หมอหมอซักประวัติ ปู่จอร์จก็พร่ำแต่บอกหมอว่า
“ผมสบายดีหมอ พระเจ้าดูแลผมเป็นอย่างดี หมอไม่ต้องห่วง” หมอจึงถามว่า
“อ้อ เหรอ ไหนบอกผมซิ พระเจ้าดูแลคุณยังไงบ้าง” ปู่จอร์จตอบว่า
“เวลาผมไปห้องน้ำพอเปิดประตู้ห้องน้ำปุ๊บ พระเจ้าเปิดไฟให้ปั๊บ เวลาผมฉี่เสร็จ พระเจ้าก็ปิดไฟให้”
หมอเข้าใจว่าคุณย่าเป็นคนปิดเปิดไฟให้ จึงไปเรียกคุณย่ามาร่วมวงคุยด้วยเพื่อสอนให้คุณปู่รับรู้ความเป็นจริง เมื่อคุณย่าเข้ามานั่งแล้วหมอก็เปรยให้คุณย่าฟังว่า
“ปู่จอร์จบอกว่าพระเจ้าช่วยเปิดปิดไฟให้เขาทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ”
ได้ยินแค่นั้นแหละ คุณย่าก็ตวาดคุณปู่เสียงเขียวว่า
“บ้าเอ๊ย..จอร์จ ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้ว ว่าอย่าฉี่ใส่ตู้เย็น”
ฮะ ฮะ ฮ่า ตะแล้น ตะแล้น ตะแล้น
กลับมาตอบคำถามของคุณดีกว่า
1. ถามว่าเรื่องที่เล่าในวิดิโอนั้นจริงไหม ตอบว่าเรื่องที่หมอผู้หญิงที่ชื่อแมรี่ นิวพอร์ต (ซึ่งเธอเป็นหมอรักษาเด็ก) เอาน้ำมันมะพร้าวให้สามีกินเพื่อรักษาโรคขี้ลืมนั้น คงจะเป็นเรื่องจริง ซึ่งเป็นอุทานหรณ์ให้คนทั่วไปทราบว่าหมอเด็กชอบจับสามีขี้ลืมกรอกน้ำมันมะพร้าว โชคดีที่ผมเองไม่เคยโดนเมียกรอกน้ำมันมะพร้าว เพราะผมก็มีเมียเป็นหมอเด็กเหมือนกัน และตัวผมก็เป็นโรคขี้ลืม ชนิดที่ว่าเคยลืมเมียทิ้งไว้ที่ศูนย์การค้ามาแล้ว
2. ถามว่าที่หมอแมรี่ นิวพอร์ต บอกว่าน้ำมันมะพร้าวรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายได้นั้นมีหลักฐานวิทยาศาสตร์รองรับไหม ตอบว่า NO ไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์ใดๆรองรับครับ แต่อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผมทราบ ตอนนี้สถาบันสุขภาพแห่งชาติอเมริกัน (NIH) ได้ให้เงินสนับสนุนการวิจัยเรื่องนี้ ซึ่งตั้งทำวิจัยกันอยู่ที่ฟลอริด้า โดยการเอาคนเป็นโรคอัลไซเมอร์มาจับฉลากกินน้ำมันมะพร้าวของจริงกับกันน้ำมันมะพร้าาวปลอมแล้ววัดความจำแข่งกัน ขณะนี้งานวิจัยนี้กำลังอยู่ในระหว่างรับสมัครคนเป็นโรคอัลไซเมอร์เข้าร่วม ยังไม่มีผลวิจัยออกมา รออีกไม่กี่ปีก็น่าจะทราบผลครับ
ณ ขณะนี้ วงการแพทย์ยังไม่มีอะไรมารักษาโรคอัลไซเมอร์ได้ ยารักษาโรคอัลไซเมอร์สองตัวที่ใช้กันอยู่ ก็สอบตกไปเรียบร้อยแล้ว คืองานวิจัยล่าสุดสรุปผลได้แล้วว่ามันไม่ได้ผล
3. ถามว่าที่หมอแมรี่ นิวพอร์ดบอกว่ากลไกการเป็นโรคอัลไซเมอร์เหมือนกับกลไกของโรคเบาหวานตรงที่อินสุลินทำให้เซลสมองรับกลูโค้สไปใช้ไม่ได้ จึงต้องแก้ด้วยการหาทางส่งคีโตนเข้าไปใช้แทน เป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์ไหม ตอบว่าข้อที่ว่าเซลสมองสามารถใช้คีโตนเป็นแหล่งพลังงานแทนกลูโค้สได้นั้นเป็นความจรืงที่เป็นหลักวิชาแพทย์ปกติ ส่วนข้อที่ว่าคนเป็นอัลไซเมอร์เพราะอินสุลินทำให้เซลสมองใช้กลูโคสไม่ได้นั้นยังไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์รองรับ และไม่ใช่หลักวิชาแพทย์ครับ เป็นการที่หมอแมรี่ นิวพอร์ต นั่งเทียนยกเมฆหรือเดาเอาว่ามันคงจะมีกลไกอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม การนั่งเทียนยกเมฆเอานี้ไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายนะครับ ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่าเป็นการตั้งสมมุติฐาน มันเป็นขั้นตอนแรกที่จะนำไปสู่การวิจัยเพื่อพิสูจน์ แต่ว่า ณ ขณะนี้ยังไม่มีการพิสูจน์
4. ถามว่าหากคุณจะทดลองจับคุณแม่ทานน้ำมันมะพร้าวบ้าง จะมีอะไรเสียหายไหม ถ้าตอบกันตามหลักฐานวิทยาศาสตร์ก็ต้องตอบว่าไม่ทราบจริงๆครับ เพราะหลักฐานวิทยาศาสตร์เกี่ยวก้บน้ำมันมะพร้าวว่ามันดีชั่วอย่างไรนี้วงการแพทย์ไม่มีเลย เพราะคนสร้างหลักฐานไว้ให้วงการแพทย์คือฝรั่ง เมื่อฝรั่งไม่กินน้ำมันมะพร้าว จึงมีงานวิจัยไว้น้อยมาก น้อยจนตอบคำถามนี้ไมได้ ความเชื่อที่ว่าน้ำมันมะพร้าวเป็นไขมันอื่มตัวอาจจะเพิ่มอุบัติการของโรคหัวใจหลอดเลือดเหมือนไขมันอิ่มตัวชนิดอื่นเช่นน้ำมันหมูน้ำมันวัวนั้น เป็นเพียงความเชื่อที่อาจจะไม่จริง เพราะโครงสร้างทางเคมีน้ำมันมะพร้าวไม่ได้เหมือนกับน้ำมันหมูน้ำมันวัวเสียทีเดียว กล่าวคือมันมีสายโซ่ของโมเลกุลขนาดกลาง ไม่ได้ยาวอย่างของน้ำมันหมูน้ำมันวัว
แต่ถ้าจะถามความเห็นส่วนตัวของผม ผมก็ตอบว่า โถ..ท่านอายุ 87 ปีแล้ว ยังจะมีอะไรเหลือให้เสียหายอีกละครับ คุณอยากลองอะไรก็ลองไปเถอะ ขออย่างเดียว หากคุณแม่ของคุณทานน้ำม้นมะพร้าวแล้วเกิดท่านโป๊ะเชะจำอะไรได้ขึ้นมาจริงๆ คุณอย่าบอกเมียผมก็แล้วกัน เพราะว่าผมกลัวเธอของขึ้นจับผมกรอกน้ำมันมะพร้าวบ้าง อย่าลืมนะว่าเธอก็เป็นหมอเด็ก ฺฮิ..ฮิ
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
ดิฉันดูแลคุณแม่อายุ 87 ปีซึ่งเป็นอัลไซเมอร์อยู่ ได้ใช้ประโยชน์จากบทความของอาจารย์หลายบทมาก พอดีมีคนส่งวิดิโอนี้มาให้
http://www.cbn.com/tv/1472017228001 เป็น ของ CBN TV ถ้าคุณหมอไม่มีเวลาดูดิฉันของเล่าย่อๆว่า Dr. Mary Newport ซึ่งเป็นแพทย์ MD ได้ทำการรักษาสามีของตัวเองซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ระดับรุนแรงจนทำ clock test (วาดรูปนาฬิกา) ไม่ได้เลย เธอรักษาสามีด้วยวิธีให้กินน้ำมันมะพร้าวโดยวิธีใส่ป่นลงไปในอาหาร โดยเธอเล่าให้โทรทัศน์ฟังว่างานวิจัยของเธอพบว่าโรคอัลไซเมอร์มีกลไกคล้ายโรคเบาหวาน คืออินสุลินไปทำให้เซลสมองไม่สามารถรับกลูโค้สไปใช้งานได้ คล้ายๆกับในโรคเบาหวานที่อินสุลินไปทำให้เซลกล้ามเนื้อไม่สามารถรับกลูโค้สไปใช้งานได้ และเธอได้แก้ปัญหานี้โดยใช้คีโตนเป็นแหล่งพลังงานให้สมองแทน โดยที่คีโตนนี้ได้มาจากการที่ตับเปลี่ยนไขมันชนิด medium chain triglyceride ไปเป็นคีโตน เธอจึงรักษาสามีของเธอด้วยการผสมน้ำมันมะพร้าวลงในอาหาร และในเวลาเพียง 2 สัปดาห์เมื่อให้ทดสอบด้วยการวาดรูปนาฬิกาอีกครั้งสามีของเธอก็วาดได้ หลังจากนั้นสามีของเธอก็มีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่ไม่รู้อะไรอยู่ที่ไหนก็ไปหยิบของเองได้ จากเดิมที่นิ่งไม่พูดไม่จาก็เริ่มพูดและเมคโจ๊กได้ เธอจึงเขียนหนังสือชื่อAlzeimer’s disease, what if there is cure? แล้วก็ได้รับจดหมายขอบคุณจากผู้อ่านที่เป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์จำนวนมาก เรื่องมีประมาณนี้ค่ะ
รบกวนคุณหมอช่วยแนะนำดิฉันด้วยนะคะว่าเนื้อหาในวิดิโอนี้เชื่อถือได้หรือไม่ หากดิฉันใส่น้ำมันมะพร้าวปนในอาหารให้คุณแม่ทานบ้างจะมีผลเสียอะไรไหม เพราะสำหรับดิฉันแล้ว อะไรก็ได้ที่ไม่เป็นอันตรายกับท่านดิฉันพร้อมที่จะลองค่ะ
ตอบครับ
.......................................................................
พูดถึงโรคอัลไซเมอร์ ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเคยเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังครั้งหนึ่งนานมาแล้วว่าเพื่อนผมที่เป็นหมอแก่ในอเมริกาได้ทำนายว่าในอนาคตเมื่อคนเราอายุยืนไปยิ่งกว่านี้ โรคเรื้อรังที่มนุษย์เอาชนะไม่ได้จะเหลืออยู่สามกลุ่มโรคเท่านั้น คือ (1) โรคมะเร็ง (2)โรคอัลไซเมอร์ (3)โรคซึมเศร้าและโรคจิตสองขั้ว ส่วนโรคหัวใจและหลอดเลือดซึ่งเป็นแชมป์อัตราตายปัจจุบันนี้จะกลายเป็นโรคจิ๊บๆไปแล้วเพราะผู้คนสมัยนั้นจะรู้จักดูแลอาหารการกินและการออกกำลังกายดีขึ้น พูดง่ายๆว่าโรคหัวใจกำลังไป แต่ว่าโรคอัลไซเมอร์กำลังจะมา ดังนั้นท่านผู้อ่านที่ยังไม่มีภาระต้องดูแลพ่อแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์ก็อย่าเพิ่งเบื่อเมื่อผมตอบจดหมายโรคอัลไซเมอร์บ่อยนะครับ เพราะว่าต่อไปตัวเราทุกคนเนี่ยแหละ ที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์เสียเอง ดังนั้นรู้จักโรคนี้ไว้ให้ดีย่อมไม่เสียหลาย
ได้พูดถึงโรคอัลไซเมอร์อีกครั้ง ทำให้ผมนึกถึงโจ๊กฝรั่งเรื่องคุณย่าพาคุณปู่ไปหาหมอ เรื่องมีอยู่ว่าคุณย่ามาร์ธาพาคุณปู่จอร์จไปหาหมอ เพราะเห็นแกหลงลืมจัด ขณะที่หมอหมอซักประวัติ ปู่จอร์จก็พร่ำแต่บอกหมอว่า
“ผมสบายดีหมอ พระเจ้าดูแลผมเป็นอย่างดี หมอไม่ต้องห่วง” หมอจึงถามว่า
“อ้อ เหรอ ไหนบอกผมซิ พระเจ้าดูแลคุณยังไงบ้าง” ปู่จอร์จตอบว่า
“เวลาผมไปห้องน้ำพอเปิดประตู้ห้องน้ำปุ๊บ พระเจ้าเปิดไฟให้ปั๊บ เวลาผมฉี่เสร็จ พระเจ้าก็ปิดไฟให้”
หมอเข้าใจว่าคุณย่าเป็นคนปิดเปิดไฟให้ จึงไปเรียกคุณย่ามาร่วมวงคุยด้วยเพื่อสอนให้คุณปู่รับรู้ความเป็นจริง เมื่อคุณย่าเข้ามานั่งแล้วหมอก็เปรยให้คุณย่าฟังว่า
“ปู่จอร์จบอกว่าพระเจ้าช่วยเปิดปิดไฟให้เขาทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ”
ได้ยินแค่นั้นแหละ คุณย่าก็ตวาดคุณปู่เสียงเขียวว่า
“บ้าเอ๊ย..จอร์จ ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้ว ว่าอย่าฉี่ใส่ตู้เย็น”
ฮะ ฮะ ฮ่า ตะแล้น ตะแล้น ตะแล้น
กลับมาตอบคำถามของคุณดีกว่า
1. ถามว่าเรื่องที่เล่าในวิดิโอนั้นจริงไหม ตอบว่าเรื่องที่หมอผู้หญิงที่ชื่อแมรี่ นิวพอร์ต (ซึ่งเธอเป็นหมอรักษาเด็ก) เอาน้ำมันมะพร้าวให้สามีกินเพื่อรักษาโรคขี้ลืมนั้น คงจะเป็นเรื่องจริง ซึ่งเป็นอุทานหรณ์ให้คนทั่วไปทราบว่าหมอเด็กชอบจับสามีขี้ลืมกรอกน้ำมันมะพร้าว โชคดีที่ผมเองไม่เคยโดนเมียกรอกน้ำมันมะพร้าว เพราะผมก็มีเมียเป็นหมอเด็กเหมือนกัน และตัวผมก็เป็นโรคขี้ลืม ชนิดที่ว่าเคยลืมเมียทิ้งไว้ที่ศูนย์การค้ามาแล้ว
2. ถามว่าที่หมอแมรี่ นิวพอร์ต บอกว่าน้ำมันมะพร้าวรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายได้นั้นมีหลักฐานวิทยาศาสตร์รองรับไหม ตอบว่า NO ไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์ใดๆรองรับครับ แต่อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผมทราบ ตอนนี้สถาบันสุขภาพแห่งชาติอเมริกัน (NIH) ได้ให้เงินสนับสนุนการวิจัยเรื่องนี้ ซึ่งตั้งทำวิจัยกันอยู่ที่ฟลอริด้า โดยการเอาคนเป็นโรคอัลไซเมอร์มาจับฉลากกินน้ำมันมะพร้าวของจริงกับกันน้ำมันมะพร้าาวปลอมแล้ววัดความจำแข่งกัน ขณะนี้งานวิจัยนี้กำลังอยู่ในระหว่างรับสมัครคนเป็นโรคอัลไซเมอร์เข้าร่วม ยังไม่มีผลวิจัยออกมา รออีกไม่กี่ปีก็น่าจะทราบผลครับ
ณ ขณะนี้ วงการแพทย์ยังไม่มีอะไรมารักษาโรคอัลไซเมอร์ได้ ยารักษาโรคอัลไซเมอร์สองตัวที่ใช้กันอยู่ ก็สอบตกไปเรียบร้อยแล้ว คืองานวิจัยล่าสุดสรุปผลได้แล้วว่ามันไม่ได้ผล
3. ถามว่าที่หมอแมรี่ นิวพอร์ดบอกว่ากลไกการเป็นโรคอัลไซเมอร์เหมือนกับกลไกของโรคเบาหวานตรงที่อินสุลินทำให้เซลสมองรับกลูโค้สไปใช้ไม่ได้ จึงต้องแก้ด้วยการหาทางส่งคีโตนเข้าไปใช้แทน เป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์ไหม ตอบว่าข้อที่ว่าเซลสมองสามารถใช้คีโตนเป็นแหล่งพลังงานแทนกลูโค้สได้นั้นเป็นความจรืงที่เป็นหลักวิชาแพทย์ปกติ ส่วนข้อที่ว่าคนเป็นอัลไซเมอร์เพราะอินสุลินทำให้เซลสมองใช้กลูโคสไม่ได้นั้นยังไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์รองรับ และไม่ใช่หลักวิชาแพทย์ครับ เป็นการที่หมอแมรี่ นิวพอร์ต นั่งเทียนยกเมฆหรือเดาเอาว่ามันคงจะมีกลไกอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม การนั่งเทียนยกเมฆเอานี้ไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายนะครับ ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่าเป็นการตั้งสมมุติฐาน มันเป็นขั้นตอนแรกที่จะนำไปสู่การวิจัยเพื่อพิสูจน์ แต่ว่า ณ ขณะนี้ยังไม่มีการพิสูจน์
4. ถามว่าหากคุณจะทดลองจับคุณแม่ทานน้ำมันมะพร้าวบ้าง จะมีอะไรเสียหายไหม ถ้าตอบกันตามหลักฐานวิทยาศาสตร์ก็ต้องตอบว่าไม่ทราบจริงๆครับ เพราะหลักฐานวิทยาศาสตร์เกี่ยวก้บน้ำมันมะพร้าวว่ามันดีชั่วอย่างไรนี้วงการแพทย์ไม่มีเลย เพราะคนสร้างหลักฐานไว้ให้วงการแพทย์คือฝรั่ง เมื่อฝรั่งไม่กินน้ำมันมะพร้าว จึงมีงานวิจัยไว้น้อยมาก น้อยจนตอบคำถามนี้ไมได้ ความเชื่อที่ว่าน้ำมันมะพร้าวเป็นไขมันอื่มตัวอาจจะเพิ่มอุบัติการของโรคหัวใจหลอดเลือดเหมือนไขมันอิ่มตัวชนิดอื่นเช่นน้ำมันหมูน้ำมันวัวนั้น เป็นเพียงความเชื่อที่อาจจะไม่จริง เพราะโครงสร้างทางเคมีน้ำมันมะพร้าวไม่ได้เหมือนกับน้ำมันหมูน้ำมันวัวเสียทีเดียว กล่าวคือมันมีสายโซ่ของโมเลกุลขนาดกลาง ไม่ได้ยาวอย่างของน้ำมันหมูน้ำมันวัว
แต่ถ้าจะถามความเห็นส่วนตัวของผม ผมก็ตอบว่า โถ..ท่านอายุ 87 ปีแล้ว ยังจะมีอะไรเหลือให้เสียหายอีกละครับ คุณอยากลองอะไรก็ลองไปเถอะ ขออย่างเดียว หากคุณแม่ของคุณทานน้ำม้นมะพร้าวแล้วเกิดท่านโป๊ะเชะจำอะไรได้ขึ้นมาจริงๆ คุณอย่าบอกเมียผมก็แล้วกัน เพราะว่าผมกลัวเธอของขึ้นจับผมกรอกน้ำมันมะพร้าวบ้าง อย่าลืมนะว่าเธอก็เป็นหมอเด็ก ฺฮิ..ฮิ
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์