อยากมีลูกเป็นของตัวเอง

1. อยากทราบว่า...คนที่มีรูปร่างผอม (อายุ 24 ปี, หนัก 42 kg , สูง167 cm (น้ำหนักไม่ได้มาตรฐานเลยค่ะ)  สามารถป่วยเป็นโรค PCOS ที่ทำให้มีลูกยากได้หรือไม่คะ???  เพราะส่วนตัวแล้วมีอาการประจำเดือนมาไม่ค่อยปกติ , บางเดือนมามากผิดปกติ (เกิน 7 วัน) และบางเดือนมีประจำเดือน 2 ครั้ง (ประจำเดือนหมด 5 วัน แล้วเป็นอีกกะปริดกะปรอยค่ะ)  ///  มีขนแขน+ขายาว, มีขนขึ้นที่ใบหน้า , กลิ่นตัวแรง (ทั้งๆที่ก็พยายามรักษาความสะอาดตลอดทั้งวัน) เหมือนว่ามีฮอร์โมนเพศชายสูง (เกี่ยวกันหรือไม่คะ?)

 2. หนูเป็นมนุษย์ประเภทที่ว่า...กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน + ทานอาหารจุกจิก + หิวบ่อย + เหงื่อออกที่มือตลอด (ทั้งๆที่เปิดแอร์ทั้งวัน) + เหนื่อยง่าย  อาการที่กล่าวมานี้  เข้าขั้นโรค thyroid หรือเปล่าคะ?

ช่วยพิจารณาอาการของหนูด้วยนะคะ  หากทราบวิธีแก้ไขอาการต่างๆ  ก็ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

ที่สำคัญคือ...กลัวว่าในอนาคตจะมีลูกยาก  หนูอยากมีลูกเป็นของตัวเองน่ะค่ะ 

ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

ด้วยความเคารพอย่างสูง

…………………………………………………..

ตอบครับ

     1.. ถามว่าผอมแล้วเป็นโรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบได้ไหม ตอบว่ามันก็ไม่มีกฎหมายห้ามไว้นะครับ แปลว่า..หิ หิ.. เป็นได้  

     คือโรค PCOS นี้ย่อมาจาก polycystic ovary syndrome ซึ่งบางทีก็เรียก POCD คือเปลี่ยนคำสุดท้ายเป็น disease ถ้าจะเอาแบบคลาสสิกเลยจะมีองค์ประกอบสามอย่าง คือ ประจำเดือนขาด เสียงแหบ และมีถุงน้ำที่รังไข่จำนวนมากเกิน 12 ใบ พอเฉาะเอาถุงน้ำที่รังไข่ออกทิ้งไป ก็พบว่าคนไข้กลับมามีประจำเดือนเป็นปกติและท้องได้ วงการแพทย์จึงตั้งสมมุติฐานว่าโรคนี้เกิดจากรังไข่เสียดุลการสร้างและเผาผลาญฮอร์โมนเพศชาย  (แอนโดรเจน) ไปเป็นฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจน) โดยเชื่อว่าเป็นเพราะต่อมใต้สมองส่วนหน้าผลิตฮอร์โมนก่อการตกไข่ (LH) มากเกินไปจนไปกระตุ้นให้รังไข่ผลิตแอนโดรเจนมากขึ้น แต่ไม่ได้เพิ่มฮอร์โมนกระตุ้นโพรงไข่ (FSH) เพื่อเปลี่ยนแอนโดรเจนเป็นเอสโตรเจนให้ทันกัน ผลก็คือมีฮอร์โมนเพศชายในตัวสูงทั้งๆที่ตัวเองเป็นผู้หญิงแท้ๆ นี่เป็นการคาดเดาของวงการแพทย์เฉยๆนะ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ อย่างไรก็ตาม อาการและสิ่งตรวจพบของโรคนี้ไม่เกี่ยวกับการเป็นคนอ้วนผอมสูงต่ำดำขาวใดๆทั้งสิ้น

2.. คุณบอกว่า “หนูอยากมีลูกเป็นของตัวเองน่ะค่ะ” หมายความว่ามันมีวิธีมีลูกแบบที่เป็นของคนอื่นด้วยเหรอครับ แหะ..แหะ แซวเล่น ว่าแต่ว่าที่เงื้อง่าราคาแพงเนี่ย ถามจริงเหอะ แล้วแฟนละ  หมายถึงผู้ชายคนที่จะมาเป็น ผ. สระอัว หนะ มีรึยัง เพราะคนรุ่นใหม่ใจร้อนมักมองข้ามช็อต แฟนยังหาไม่ได้เลยวางแผนจะมีลูกซะแล้ว ถ้ายังไม่มีแฟนผมจะบอกว่ามันไม่ง่าย มันยังอีกตั้งหลายด่านนะ เอาเป็นว่าใน ขั้นตอนที่หนึ่ง นี้คุณมีประจำเดือนก็หมายความว่ามีลูกได้ ไม่ต้องวอรี่ 

    ขั้นตอนที่สอง คือหาแฟน ต้องฝ่าด่านแย่งชิงกับกิ๊ก ที่ถูกกิ๊กตัดหน้าเคลมว่าตั้งท้องก่อนจนต้องเดือดร้อนเขียนจดหมายมาหาผมก็หลายราย (แต่ผมไม่ได้หยิบมาตอบ) สมมุติว่าได้แฟนมาอย่างเด็ดขาดแล้ว 

     ขั้นตอนที่สาม คือก่อนแต่งงานต้องพาแฟนไปตรวจว่ายีนของทั้งสองฝ่ายสมพงศ์กันหรือไม่ เพราะโรคบางโรคเช่นธาลัสซีเมีย หากต่างฝ่ายต่างมียีนแฝงก็แสดงว่าไม่สมพงศ์กัน ไม่ควรแต่งงานกัน มิฉะนั้นจะได้ลูกออกมาเป็นปลาเค็ม กลายเป็นเวรเป็นกรรมกันต่อไปอีกหนึ่งชาติ  ถ้าผลเลือดไม่สมพงศ์ควรเลิกกันแล้วไปหาเอาใหม่ดีกว่า ซึ่งก็แน่นอนว่ามันก็ไม่ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆเหมือนหาซื้อน้องหมาแถวจตุรจักร สมมุติว่าหาได้ซะด้วย ก็มาถึง

     ขั้นตอนที่สี่ คือการเตรียมสร้างรัง หมายถึงทำงาน หาเงิน เตรียมซื้อบ้านที่จะตั้งครอบครัวเลี้ยงลูก โธ่ แม้แต่นกมันยังต้องทำขั้นตอนนี้เลย คุณเป็นคนแท้ๆจะข้ามขั้นตอนนี้ไปได้อย่างไร อย่าบอกนะว่าทุกวันนี้ยังสิงพ่อแม่อยู่ไม่ทำงานทำการ ถ้ายังไม่ทำงานทำการก็อย่ามาริอ่านมี ผ. มีลูกเป็นอันขาด เพราะว่ามันข้ามขั้นจะไปไม่รอด คนไม่ทำงานเขายังไม่นับว่าเป็นคน คุณต้องทำงานเลี้ยงตัวเองให้ได้ก่อน ไม่งั้นคุณจะจบลงด้วยการออกไข่แล้วเอาไปให้ยายของเด็กเลี้ยง สงสารคุณยายบ้าง ท่านเลี้ยงลูกมาจนโตนึกว่าลูกจะพ้นอกกลับมาเลี้ยงดูท่าน แต่ที่ไหนได้ลูกดั๊นออกไข่มาทิ้งไว้ให้เป็นภาระซะอีก เวรกรรม เอ ผมพูดถึงไหนละ.. อ้อ แล้วก็มาถึง

     ขั้นตอนที่ห้า คือการทำลูก คือเรื่องการมีลูกนี้สัจจะธรรมมันมีอยู่ว่า

คนที่อยากจะมี กลับไม่มี

คนที่ไม่อยากมี กลับมี

เนี่ย ชีวิต มันเป็นซะอย่างงี้แหละโยม คุณเป็นพวกแรก จึงมีโอกาสสูงที่จะไม่มี ก็ต้องไป

ขั้นตอนที่หก คือไปหาหมอประสูติ ผมหมายถึงสูติแพทย์ ให้เขาช่วยทำลูกให้ สมัยนี้เขาเรียกเสียเพราะว่าไปเข้า Fertility Clinic  แปลว่า “คลินิกลูกดก” แต่โอกาสได้ลูกสำหรับคนมาเข้าคลินิกลูกดกนี้คือประมาณ 25-40% เท่านั้นเอง  ซึ่งคุณจะได้ลูกหรือไม่ได้ลูกก็แล้วแต่ดวง ถึงตอนที่หกนี้หมอเขาจะตรวจอย่างละเอียด แล้วค่อยเอาผลการตรวจมาดูกันว่าคุณเป็น PCOS หรือเปล่า ตอนนี้อย่าเพิ่งไปร่ำเลย มันยังอีกไกล

     3. ถามว่ามีขนแขน+ขายาว, มีขนขึ้นที่ใบหน้า , กลิ่นตัวแรง เป็นเพราะมีฮอร์โมนเพศชายสูงใช่ไหม ตอบว่าไม่ทราบครับ รู้แต่ว่าเกี่ยวกับดุลฮอร์โมนในร่างกาย แต่บอกไม่ได้ว่าตัวไหนสูงตัวไหนต่ำ เพราะดุลของฮอร์โมนในร่างกายผู้หญิงเป็นเรื่องซับซ้อนที่วงการแพทย์เองก็ยังไม่เข้าใจมันดีนัก ยิ่งความสัมพันธ์ระหว่างอาการบางอย่างเช่นกลิ่นขี้เต่า กับฮอร์โมนแต่ละตัว วงการแพทย์ยิ่งไม่รู้ใหญ่เลย ข้อมูลที่วงการแพทย์รู้ก็คือว่าฮอร์โมน ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนเพศหญิง ( estrogen) หรือฮอร์โมนเพศชาย (testosterone) มันก็ล้วนมีรากมาจากสารต้นน้ำตัวเดียวกันชื่อ pregnenolone คือถ้าวงจรประจำเดือนอยู่ในระยะก่อนการตกไข่ (follicular phase) สารตัวนี้ก็จะถูกเปลี่ยนไปเป็นสารกลางน้ำชื่อ androsteredione ซึ่งสารกลางน้ำตัวนี้อาจจะถูกเปลี่ยนต่อไปเป็นฮอร์โมนหญิง (estrogen) หรือฮอร์โมนชาย (androgen หรือ testosterone) ก็ได้ พอมาถึงระยะหลังการตกไข่ (luteal phase) สารต้นน้ำ pregnenolone จะถูกเปลี่ยนไปเป็นฮอร์โมน progesterone ซึ่งเป็นฮอร์โมนของผู้หญิงเหมือนกันแต่ออกแนวแบบชายๆ คือมีฤทธิ์ต้านกับ estrogen จากนั้นเจ้าตัว progesterone นี้ก็ถูกเปลี่ยนต่อไปเป็นสารกลางน้ำคือ androsteredione เช่นกัน  ที่น่าเป็นงงกว่านั้นคือฮอร์โมนเพศชายหรือ testosterone ซึ่งสร้างขึ้นมาจากสารกลางน้ำจนเสร็จเรียบร้อยดิบดีแล้ว อยู่ดีๆร่างกายอาจจับแปลงร่างไปเป็นฮอร์โมนเพศหญิงหรือ estrogen เสียก็ได้ เออ.. มันมั่วดีแมะ มันขึ้นอยู่กับกลไกการทำงานที่ซับซ้อนของต่อมใต้สมอง ต่อมหมวกไต และรังไข่ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าพวกท่านทั้งสามต่อมจะเอากันอย่างไร ดังนั้น จึงมีคนไข้ผู้ชายบางคนหมอให้กินฮอร์โมนเพศชายตั้งใจจะให้กล้ามใหญ่เป็นแมน  อ้าว กินไปกินมาไหงกลายเป็นคนหน่อมแน้มนมโตแบบผู้หญิงซะนี่ แบบนี้ก็มีมาแล้ว

   

     4. ถามว่ากินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน + ทานอาหารจุกจิก + หิวบ่อย + เหงื่อออกที่มือตลอด + เหนื่อยง่าย  เป็นโรคไฮเปอร์ไทรอยด์หรือเปล่า ตอบว่าฟังอาการก็คล้ายๆจะเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ แต่จะรู้ว่าเป็นหรือไม่ก็ต้องไปเจาะเลือดดูระดับฮอร์โมนไทรอยด์ (FT4) และฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH) ดูก่อนเท่านั้น ถ้าเจาะแล้วพบว่าฮอร์โมนไทรอยด์ (FT4) สูง โดยฮอร์โมนกระตุ้นต่อม (TSH) ต่ำ จึงจะยืนยันได้ว่าเป็นโรคไฮเปอร์ไทรอยด์จริงครับ

     5. คุณหนัก 42 กก. สูง 167 ซม. เท่ากับมีดัชนีมวลกายเพียง 15.05 ซึ่งต่ำผิดปกติมาก (ปกติ 18.5 - 25) ถือว่าเป็นโรคอย่างหนึ่งทีเดียว ซึ่งยังจะมีอีกหลายโรคตามมารวมทั้งโรคกระดูกพรุนกระดูกหัก ดังนั้น ผมแนะนำให้คุณไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล โดยให้เจาะจงไปตรวจที่คลินิกโภชนาการ (Nutritional Clinic) หรือคลินิกต่อมไร้ท่อ (Endocrinology Clinic) ทั้งสองคลินิกนี้ใช้หมอที่อบรมมาทางเดียวกันดูแล ปัญหาของคุณเป็นปัญหาที่ซับซ้อนเกินกว่าจะวินิจฉัยและแนะนำกันทางอินเตอร์เน็ท ในระหว่างนี้ให้คุณปรับโภชนาการให้มีสัดส่วนของโปรตีนให้มากพอ ผมเคยเขียนสอนเรื่องโภชนาการสำหรับคนผอมไปหลายครั้งแล้ว คุณหาอ่านรายละเอียดเอาได้ในบล็อกนี้ อ่านเรื่องนี้ก็ได้ http://visitdrsant.blogspot.com/2012/01/blog-post_23.html

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์