ผลตรวจภายในเป็น HSIL

เรียน อาจาร์หมอ

ได้ไปตรวจมะเร็งปากมดลูก ผลออกมาคือ Low grade squamous intraepithelial lesion (LSIL) encompassing HPV change and atypical squamous cells cannot exclude HSIL (ASC-H) อยากทราบว่าอาการรุนแรงเพียงใดคะ และถือว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ หมอนัดไปจี้เย็นค่ะ ควรทำหรือไม่เพียงใดคะ
รบกวนคุณหมอช่วยตอบให้ด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ / aree
........................

ตอบครับ

คำที่แพทย์ใช้อ่านผลการตรวจเซลจากการตรวจภายในจากปกติไปจนเป็นเซลมะเร็งปากมดลูก เรียกว่าระบบเบเทสด้า (Bethesda System) โดยมองหาความผิดปกติของเซลแล้วแบ่งชั้นตามความรุนแรง คือ
1. ปกติ
2. มีจุดผิดปกติที่อาจเป็นมะเร็งหรือ Squamous intraepithelial lesion เรียกย่อว่า SIL ซึ่งยังแบ่งออกเป็นสามเกรด สุดแล้วแต่ว่าจะมีความแก่กล้าของการกลายเป็นมะเร็ง (Cervical Intraepithelium Neopasia หรือ CIN) มากหรือน้อย คือ
2.1 พวกเกรดต่ำ คือมีเยื่อบุผิดปกติแบบไม่เจาะจง หรือ Atypical squamous cells of undetermined significance นิยมเรียกย่อว่า ASC–US พวกนี้ถือว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งต่ำ บางทีจึงเรียกว่า Low-SIL หรือ LSIL ถ้ามองในแง่ระดับของการกลายเป็นมะเร็งก็ถือว่าะเป็นระดับ CIN1 ความผิดปกติระดับนี้มักเกิดจากการติดเชื้อเอ็ชพีวี และมักหายไปได้เอง
2.2 พวกเกรดสูงหรือ High-SIL หรือ HSIL คือเซลมีการกลายไปในเชิงเป็นมะเร็งมากขึ้้น (CIN2 หรือ CIN3) ถ้ากลายมากหรือ CIN3 ก็คือเป็นมะเร็งในที่ตั้ง (Carcinoma In Situ หรือ CIS) นั่นเอง ถ้าเจอระดับเกรดสูงนี้หมอต้องลงมือรักษา อย่างน้อยก็ด้วยการส่องกล้องเข้าไปตัดตัวอย่างชิ้นเนื้อออกมาตรวจ
2.3 พวกแบ่งเกรดไม่ได้ หรือ Atypical squamous cells, cannot exclude HSIL เรียกย่อว่า ASC–H หมายความว่าหมอไม่แน่ใจ จะเกรดต่ำก็ไม่ใช่ จะสูงก็ไม่เชิง บางทีก็พบเป็นเซลต่อมที่ดูผิดปกติไป เรียกว่า Atypical glandular cells เรียกย่อว่า AGC พวกนี้ก็มีความหมายเหมือนกัน คือจะเกรดสูงก็ไม่สูง จะต่ำก็ไม่ต่ำ ถ้าอยู่กลุ่มนี้ หมอจะยังไม่รีบร้อนรักษา แต่จะดูเชิงด้วยการตรวจคัดกรองถี่กว่าปกติไปก่อน

กรณีของคุณนี้พยาธิแพทย์อ่านกั๊กมาว่าเป็นได้ทั้ง LSIL และ HSIL สูติแพทย์ที่รักษาก็จำเป็นต้องถือว่าเป็น HSIL ซึ่งเป็นหลักปลอดภัยไว้ก่อน การเป็น HSIL หมายความว่าเซลผิดปกติถึงระดับที่อาจเป็นระยะเริ่มต้นของมะเร็ง (precancerous) การรักษามาตรฐานคือส่องกล้องเข้าไปดู (colposcopy) มองหากลุ่มเซลผิดปกติเหล่านี้ แล้วก็ทำลายเสีย จะด้วยวิธีเอาความเย็นเข้าไปจี้ (cryotherapy) หรือเอาห่วงลวดไฟฟ้าจี้ตัดออกมาเป็นแว่น (loop electrosurgical excision procedure – LEEP) ก็ถือเป็นวิธีมาตรฐานทั้งสองอย่าง มาถึงตอนนี้แล้วไม่มีคำถามแล้วว่าจะทำดีไหม เหลือแต่ว่าจะทำวิธีไหนดี คำตอบก็คือวิธีไหนก็ได้ การที่หมอสูติเขาเสนอทำ cryo แสดงว่าเขาไม่คิดว่ามันจะเป็นอะไรมากมายเพราะคำอ่านมันกั๊กๆพิกล แต่ถ้าหากเขาส่องเข้าไปดูแล้วบริเวณผิดปกติกว้างและลึกกว่าที่คาดหมาย เขาอาจเปลี่ยนไปทำ LEEP ก็ได้ ซึ่งเป็นวิธีที่เลือดตกยางออกมากกว่า แต่ก็มีข้อดีทีได้ชิ้นเนื้อออกมาตรวจทำให้มั่นใจได้ 100% ว่ายังไม่ได้เป็นมะเร็ง ดังนั้นต้องทำใจเผื่อไว้เลยว่าตั้งใจจะทำแค่ cryo แต่อาจจบลงด้วยการทำ LEEP ก็ได้

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

.........................................................
บรรณานุกรม
1. Solomon D, Davey D, Kurman R, Moriarty A, O'Connor D, Prey M, et al. The 2001 Bethesda System: terminology for reporting results of cervical cytology. JAMA. 2002;287:2114–9.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี