บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2022

คนบ้าโปรตีน

เรียนคุณหมอสันต์ ดิฉันหวังว่าอาการต่างๆจากอุบัติเหตุของคุณหมอคงจะฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมแล้วนะคะ วันนี้ดิฉันมีเรื่องรบกวนให้คุณหมอช่วยแนะนำผลการตรวจแลป 2 ตัวนี้หน่อยค่ะ (c reactive protein 0.4 mg/L, homocysteine 11.2 micromol/L ) แปลว่าดิฉันทานโปรตีนเยอะเกินไปและมีค่าการอักเสบในเส้นเลือดสูงใช่ไหมคะ ดิฉันควรลดการทานโปรตีนให้น้อยลงหรือเปล่า ทานโปรตีนเยอะเพราะกล้ามเนื้อเริ่มลดจากอายุที่เพิ่มขึ้นค่ะ ตอนนี้พยายามทานให้ได้โปรตีนวันละ 60 กรัม หรืออกไก่ 7-11 ประมาณ 3 ชิ้น ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ ……………………………………………………………………… ตอบครับ มาอีกละ คนบ้าโปรตีน แต่คุณถามมาผมก็จะตอบไป ผมตอบให้ทีละประเด็นนะ 1.. ถามว่า c – reactive protein สูงแสดงว่าการอักเสบในร่างกายมากขึ้นใช่ไหม ตอบว่าถ้ามันสูงก็ใช่ครับ แต่กรณีของคุณมันไม่ได้สูง เพราะค่าปกติถือกันที่ไม่เกิน 5 mg/L ของคุณไม่ได้เกิน 2.. ถามว่า homocysteine สูงแสดงว่าการอักเสบในร่างกายเ...

นพ.สันต์ให้สัมภาษณ์แมกกาซีน Elite

รูปภาพ
(บทแปล คำสัมภาษณ์นพ.สันต์ ซึ่งให้สัมภาษณ์แมกกาซีนภาษาอังกฤษ Elite โดย Mr.Jame R. Haft บก.เป็นผู้สัมภาษณ์) อาหารพืชเป็นหลักและการปรับวิธีใช้ชีวิตจะนำพาไปสู่การมีอายุยืน คุณหมอสันต์ ใจยอดศิลป์ เป็นแพทย์ผู้มีความรู้ความชำนาญในเรื่องการป้องกันและพลิกผันโรคเรื้อรังด้วยการใช้อาหารพืชเป็นหลักและการปรับเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิต เมื่อไม่นานมานี้อิลลีทได้มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับคุณหมอสันต์ เพื่อถกปรัชญา “สุขภาพดีด้วยตนเอง” ของคุณหมอ และคุยถึงการประชุมออนไลน์ “ Asian Plant-based Nutrition Health Care Conference” ซึ่งคุณหมอจะคนหนึ่งในจำนวนผู้บรรยายที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกหลายคน หลังจากได้นั่งใต้ต้นจามจุรีขนาดใหญ่ ละเลียดกับขนมจีนน้ำยามังสวิรัติคลุกถั่วงอกและสารพัดผักจนอิ่มกันแล้ว เราก็เริ่มคุยกันถึงว่าไปยังไงมายังไงคุณหมอจึงมาลงเอยที่ตรงนี้ได้ “ผมเกิดในครอบครัวชาวนาทางภาคเหนือและก็ตั้งใจจะสืบทอดอาชีพของบรรพบุรุษด้วยการไปเข้าเรียนวิทยาลัยเกษตรแม่โจ้ ที่เชียงใหม่ แต่ว่าเมื่อน้องสาวป่วยก็เกิดความรู้สึกอยากจะเป็นแพทย์ขึ้นมา จึงเข้าเรียนจนจบแพทย์ที่ ม. สงขลานครินทร์ หาดใหญ่ พร้อมกับความใฝ่ฝันที่จะไปเป็นหมอท...

หนูอ่านเมนูจบแล้ว ไม่ต้องทานก็ได้ ใช่ไหมค่ะ?

หนูศึกษาปฏิบัติธรรมมาพักหนึ่งแล้ว ก็หลายปีอยู่ ต่อมาได้ติดตามบล็อกของคุณหมอหนูมีความรู้สึกว่าลัดสั้นตรงดี จนหนูมีความเห็นว่าหยุดแค่ตรงนี้น่าจะพอแล้ว ไม่ต้องศึกษาเพิ่มเติมต่อไปอีกหรอก ไม่ทราบหนูคิดถูกหรือเปล่า ว่าแค่อ่านบล็อกของคุณหมอก็น่าจะได้ความรู้ธรรมมากและพอเพียงแล้ว เป็นความคิดที่คับแคบแบบกบในกะลาหรือเปล่าคะ ……………………………………………………………….. ตอบครับ 1.. ถามว่าศึกษาธรรมะมากแล้ว หยุดแค่หมอสันต์นี้ได้ไหม ก่อนจะตอบคำถามนี้ ผมอุปมาอุปไมยหน่อยนะ ปีใหม่นี้ผมเปิดร้านขายอาหารสามมื้อทุกวันในเวลเนสวีแคร์ที่มวกเหล็กเพื่อให้คนได้มาหัดรับประทานอาหารที่มีแต่พืชไม่มีเนื้อสัตว์ และเพื่อให้คนที่มาทานอาหารได้ความรู้เกี่ยวกับอาหารพืชอย่างลึกซึ้ง ผมจึงให้นักโภชนาการวางแผนจัดทำเมนูที่ให้รายละเอียดของพืชที่นำมาประกอบอาหารแต่ละเมนู คราวนี้สมมุติติ๊งต่างว่ามีลูกค้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน นั่งศึกษาเมนูอาหารทุกเมนูอย่างละเอียดอยู่ครึ่งค่อนวัน แล้วเงยหน้าถามว่า “หนูอ่า...

โอไมครอนเมืองไทย รวดเร็วแต่นุ่มนวล และอาจจบเร็วเกินความคาดหมาย

รูปภาพ
โอไมครอนขึ้นหัวหาดเมืองไทยตั้งแต่ 26 พย. 64 ค่อยสะสมกำลังจนเพิ่มจำนวนได้เท่าตัว (doubling time) ใน 4 วันตั้งแต่ 7 มค. 65 ซึ่งผมคาดหมายตามอัตราการเพิ่มในอังกฤษและอัฟริกาใต้ว่าเมื่อถึงวันนี้ (18 มค. 65) โอไมครอนจะเพิ่มได้วันละหนึ่งเท่าตัวจนเข้าแทนที่เดลต้าและระบาดไปทั่วประเทศได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น นั่นคือข้อสันนิษฐานหรือการเดา ส่วนข้อเท็จจริงละเป็นอย่างไร ณ วันนี้ในด้านอัตราการเข้าแทนที่เดลต้ารวดนั้นเร็วสมคาดจริง คือหลายวันก่อนหน้านี้ศูนย์แล็บที่จุฬาเปิดเผยว่าผลตรวจเชื้อเป็นโอไมครอนมากกว่า 90% แล้ว และเมื่อวานนี้ศูนย์จีโนมทางการแพทย์รามาธิบดีก็เปิดเผยว่าที่ตรวจได้ตอนนี้เป็น โอมิครอน 97.1% (69/71) เดลต้า 2.8% (2/71) ดังนั้นค่อนข้างแน่ว่าในกทม.โอไมครอนได้เข้าแทนที่เดลต้าเกือบหมดแล้ว ในต่างจังหวัดนั้นสถานะการณ์แตกต่างกันไปตามพื้นที่ เมื่อสองวันก่อนผมเจอหน้าผอ.ศูนย์แล็บที่มวกเหล็กท่านบอกว่าตอนนี้โอไมครอนเข้าแทนที่เดลต้าได้มากกว่า 50% แล้ว ทั้งๆที่โอไมครอนเพิ่งมาที่นี่ได้ประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้นเอง ดังนั้นภาพใหญ่คือโอไมครอนเข้าแทนที่เดลต้าได้เกือบหมดแล้วในกทม. ส่วนทั่วประเทศนั้นคงจ...

สิทธิพิเศษสำหรับแพทย์ นักวิชาชีพ และนักศึกษาด้านสุขภาพ

รูปภาพ
วันนี้งดตอบคำถามหนึ่งวันเพื่อแจ้งข่าวเรื่องการประชุม Asian Plant Based Nutrition Conference ซึ่งจะมีในวันที่ 22 มค. 65 (เก็บไว้ชมภายหลังแบบ on demand ได้หนึ่งปี) ว่าทาง Plantician Project USA ได้ตกลงตามคำขอของเวลเนสวีแคร์ที่จะให้สิทธิพิเศษแก่แพทย์ พยาบาล นักวิชาชีพด้านสุขภาพ และนักศึกษาทางด้านนี้ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมได้ฟรี โดยลงทะเบียนที่ www.asianpbnhc.com โดยแจ้งสาขาวิชาชีพของท่านและใช้โค้ด MEGAWECAREWWC100 (ระวัง! ต้องใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด) เมื่อใส่โค้ดแล้วให้ท่านกด apply แล้วระบบจะตอบรับท่านโดยยกเว้นค่าลงทะเบียนปกติ 95 USD ให้ทันที ในกรณีที่ท่านมีปัญหาลงทะเบียนไม่ได้ กรุณาติดต่อกับทีมงานของเวลเนสวีแคร์ให้ช่วยท่านลงทะเบียน โดยติดต่อทางไลน์ไอดี. @wellnesswecare ได้เลยครับ การประชุมนี้เป็นการรวมรวมผู้รู้ทางด้านอาหารพืชเพื่อป้องกันและรักษาโรคที่มีชื่อเสียงในระดับโลกมาร่วมบรรยายแบบครบครัน เช่นดีน ออร์นิช (ผู้วิจัยการใช้อาหารพืชรักษาหัวใจขาดเลือดและมะเร็งหลายชนิด) ดีนและอาเยชชา เซอร์ไซ สองสามีภรรยาผู้วิจัยการใช้อาหารพืชป้องกันและรักษาสมองเสื่อมที่มีชื่อเสียงระดับโลก คิม วิลเล...

คำถามเรื่อง Antibody Dependent Enhancement กรณีงานวิจัยโควิดสหรัฐฯ

เรียนคุณหมอครับ อ่านบทความ “หลักฐานวิทยาศาสตร์ชิ้นแรกเรื่องความรุนแรงของโอไมครอนในสหรัฐอเมริกา” ของคุณหมอแล้วก็ตามไปอ่านต้นฉบับจริงของงานวิจัย ผมมีข้อสงสัยอยู่เรื่องหนึ่งครับ คือในตาราง S8 ในช่วงท้ายตารางจะแสดงค่า Odds Ratio ของสถานะวัคซีนของคนไข้ ตามตารางจะเห็นว่าการรับวัคซีนที่มากขึ้น (จำนวนโดสสูง) กลับทำให้ป่วยเข้าโรงพยาบาลมากขึ้น ข้อมูลไปในทางเดียวกันไม่ว่าจะเป็น J&J หรือ mRNA นอกจากนั้น ผมยังลองรวมตัวเลขของคนไข้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มหรือมากกว่า ได้ตัวเลข 67.27% ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขของการรับวัคซีนของรัฐแคลิฟอร์เนียที่ 67.1% ก็เลยเกิดข้อสงสัยครับว่ากรณี Omicron การกลายพันธุ์ของ S Protein จะทำให้วัคซีนไม่ได้ผลอีกต่อไป ทั้งอาจจะทำให้เกิด Antibody Dependent Enhancement เกิดขึ้นหรือเปล่า (จาก Odds Ratio จำนวนโดสมากขึ้น ติดมากขึ้น) จากการที่มี Non-neutralizing antibody เพิ่มมากขึ้นจากการหนีภูมิของ Omicron ผมไม่ใช่ Anti-vaxer และไม่ได้อยู่ในวงการแพทย์ครับ จึงอยากทรา...

หลักฐานวิทยาศาสตร์ชิ้นแรกเรื่องความรุนแรงของโอไมครอนในสหรัฐอเมริกา

ความกลัวโอไมครอนทั่วโลกส่วนหนึ่งเกิดจากการที่มีการแพร่ข่าวเรื่องความรุนแรงของโรคนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาในประเด็นต่างๆเช่น การที่ยอดผู้ป่วยถูกแอดมิทไว้รักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น การตายเพิ่มขึ้น เด็กป่วยมากกว่าผู้ใหญ่และตายมากกว่าผู้ใหญ่ เป็นต้น ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่ข่าว ไม่ใช่หลักฐานวิทยาศาสตร์ แต่ตอนนี้หลักฐานวิทยาศาสตร์ของจริงออกมาแล้ว เป็นงานวิจัยที่แคลิฟอร์เนียซึ่งสปอนเซอร์โดยศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ (CDC) มีศูนย์ประสานงานการวิจัยอยู่ที่ยูซี.เบอร์คเลย์ ซึ่งผมขอสรุปผลให้ฟังดังนี้ งานวิจัยนี้ทำกับผู้ป่วยติดเชื้อ โอไมครอน ที่ยืนยืนการตรวจด้วยเทคนิค SGTF (S gene target failure) ทำเฉพาะกับผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลจำนวนรวม 52,297 คน พบผลดังนี้ ผู้ป่วยทั้งหมด รวม 52,297 คน หากนับเฉพาะคนที่ติดตามได้อย่างน้อย 5.5 วัน รวมทั้งหมด 288,534 คนวัน พบว่า ผู้ป่วยถูกรับไว้ในโรงพยาบาล 88 คน (0.48%) ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 0 คน (0%) ท้ายที่สุดแล้วมีตาย 1 คน (0.09%) โดยที่การติดเชื้อและระดับความรุนแรงมีการกระจายตัวเท่าๆกันทุกกลุ่มอายุ ไม่เป็นความจริงที่ว่าเด็กป่วยมากกว่าและจะตายมากกว่า ขณะเดียวกันงานวิจัยนี้ยั...

จะพูดอะไรกันก็พูดเสียตอนนี้ ก่อนที่โอไมครอนเขาจะมา

รูปภาพ
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ มนุษย์ก็อดไม่ได้ที่จะสร้างกฎสูตรทางคณิตศาสตร์ขึ้นมาอธิบายและคาดการณ์ ในเรื่องการระบาดของโรคก็เช่นกัน มีสูตรทางคณิตศาสตร์แยะมากที่พยายามจะคาดการณ์พฤติการณ์ของโรค ซึ่งเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของวิชาระบาดวิทยาก็ว่าได้ สูตรยอดนิยมสูตรหนึ่งก็คือการคำนวณระยะเพิ่มจำนวนแบบทบเลข (doubling time) ว่านานเท่าใดโรคจึงจะระบาดไปถึงระยะเพิ่มจำนวนแบบคูณเลข (exponential increasing) ซึ่งเป็นจุดปะทุที่โรคจะเพิ่มอย่างรวดเร็วไปสู่จุดสูงสุด (peak) ของโรค แล้วก็จะเริ่มถดถอยลงไปสู่ความสงบ ทั้งหมดนี้จะช่วยเดาภาพรวมของโรคได้ ยกตัวอย่างเช่นการระบาดของเชื้อโอไมครอนในอังกฤษในภาพข้างบน (ทุกสีรวมกัน) เมื่อเชื้อเริ่มก่อตัวเป็นเนื้อเป็นหนังในวันที่ 3 ธค. มันใช้เวลา 4 วันในการสะสมจำนวนเพิ่มได้เท่าตัว (doubling time = 4 วัน) หลังจากนั้น doubling time ก็ลดเหลือ 3 วัน (ช่วง 7-10 ธค.) แล้วก็ลดเหลือวันครึ่ง แล้วก็ลดเหลือวันเดียวในวันที่ 15 ธค. ซึ่งจากจุดที่ doubling time สั้นกว่าหนึ่งวันนี้จะเป็นการเพิ่มแบบทวีคูณ (exponential) เพิ่มอีกวันละกี่เท่าหรือจะต้องคูณด้วยตัวเลขวันละเท่าใดก็ยังไม่รู...

"โอไมครอน" จะไล่ "เดลต้า" เอง โดยเราไม่ต้องเต้นแร้งเต้นกาอะไรมาก

รูปภาพ
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณหมอ   ขอบพระคุณข้อมูลของคุณหมอค่ะ แถวบ้านหนูน้อง Omicron มา พี่ Delta ก็ยังอยู่ ไม่เครียดๆ เชื่อคุณหมอค่ะ กินพืช ออกกำลังกาย ตากแดด ค่ะ …………………………………………………………………….. ตอบครับ จดหมายแบบของคุณนี้มีเข้ามาแยะมาก บ้างก็เป็นของแพทย์ที่กังวลว่าบทความของผมคนอ่านแยะๆแล้วจะ “การ์ดตก” แล้วทำให้เดลต้ากระฉูดขึ้นมาอีก บ้างก็กังวลว่าในท้องที่ของเธอ (แพทย์) ซึ่งมีเดลต้าเด่นเป็นสง่าเป็นเจ้าประจำอยู่ถ้าโอไมครอนมาอีกแล้วเธอจะทำอย่างไร ไม่ต้องอื่นไกล ดูที่มวกเหล็กนี่ก็ได้ เดิมเคสโควิด-19ค่อยๆแห้งไปจนงานวิจัยฟ้าทะลายโจรที่ผมช่วยทีมงานทำอยู่ถึงขั้นเกิดอาการขาดคนไข้มาทำวิจัยเลยทีเดียว แต่อยู่ๆเจ้าเดลต้าก็กลับโผล่พรวดขึ้นมาอีกทำให้งานวิจัยเดินหน้าไปได้อีก ในบางชุมชนเช่นอย่างเช่นที่คุณเล่าถึงบ้านของคุณเองซึ่งผมไม่รู้ว่าอยู่จังหวัดไหน มันมาคู่กันเลย แล้วจะไม่แย่หรือเพราะโอไมครอนเบาก็จริง แต่เดลต้านั้นชัดเจนอยู่แล้วว่ารุนแรงและ...

ข่าวดีปีใหม่ 2022 ทางด้านวิทยาศาสตร์

วันนี้วันขึ้นปีใหม่ 2022 ผมถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่กับแฟนบล็อกหมอสันต์ทุกท่าน และขออโหสิ โดยเฉพาะสำหรับจดหมายที่ค้างในเก๊ะอยู่เกือบสองร้อยฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำถามที่ผมเคยตอบแล้ว แต่ก็มีบ้างที่เป็นคำถามใหม่ที่ผมตั้งใจจะตอบ แต่..เป็นลืม หรือทำหายไปคลิกไปคลิกมาแล้วหาไม่เจอ ทั้งหมดนี้ไหนๆก็ปีใหม่แล้ว ขอถือโอกาสโละไปพร้อมกับปีเก่าเสียเลย ง่ายดี หิ หิ ถือโอกาสตอนปีใหม่ที่คนใจบุญเขาไม่เอาเรื่องเอาราวกัน มาพูดถึงอนาคตในปีใหม่กันดีกว่า เรื่องเศรษฐกิจนั้นผมไม่เกี่ยว ถือว่าตัวใครตัวมัน ผมจะขอพูดถึงแต่เรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องโควิด-19 ซึ่งได้ลากยาวเข้าสู่ปีที่ 4 ในปีนี้ แต่ว่าเป็นปีที่เริ่มต้นด้วยข่าวดี ข่าวดีที่ 1. ก็คือมหาวิทยาล้ยเคปทาวน์ที่อัฟริกาใต้ ได้เปิดเผยงานวิจัยรอตีพิมพ์ใหม่ที่สำคัญมากฉบับหนึ่งออกมา ว่าได้ทำวิจัยในคนอัฟริกาใต้ที่ป่วยเป็นโรคโควิดโอไมครอนสามกลุ่ม คือ (1) กลุ่มที่ได้วัคซีนจอห์นสัน (2) กลุ่มที่ได้วัคซีนไฟเซอร์ (3) กลุ่มที่ไม่ได้วัคซีนมาก่อน พบว่าแม้ว่าทุกกลุ่มจะสร้างภูมิคุ้มกันชนิดจับทำลายตัวเชื้อโรคโดยตรง (neutralizing antibody) ได้น้อยกว่าที่ควร (ซึ่งเรารู้จากง...