บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2019

อากาศกลางฟองสบู่นี้แหละคือชีวิตตัวจริง

รูปภาพ
อาจารย์คะ ขอบพระคุณทุกอย่างที่อาจารย์สอนใน SR เมื่อกลับจากแค้มป์แล้วหนูก็ไม่ได้ขี้เกียจ ได้นำทุกอย่างที่อาจารย์สอนมาปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง relaxation โดยเช็คด้วยการยิ้มตลอดวัน กับ body scan ทุกที่ทุกเวลาทุกโอกาส ทั้งสองเทคนิคนี้เวอร์คมากค่ะ แต่ก็ยังมีคำถาม แม้อาจารย์จะย้ำว่าความสงสัยเป็นตัวเลวที่สุด อย่าเป็นคนขี้สงสัย แต่มันก็อดไม่ได้ คิดอยู่หลายวันก็ปิดเคสไม่ลง จึงต้องยอมให้อาจารย์ดุฝืนเขียนมา 1. อาจารย์บอกว่าความรู้ตัวไม่ได้เป็นของเรา และไม่ได้เป็นของใคร อันนี้ไม่เข้าใจเลยจริงๆ เรารู้ตัวของเรา แล้วความรู้ตัวของเราจะไปเป็นของคนอื่นได้อย่างไร 2. อาจารย์บอกว่าเมื่อร่างกายตาย ความคิดก็ตายไปด้วย แต่ความรู้ตัวไม่ตาย มันคงอยู่เป็นนิร้นดร์ อันนี้ยิ่งไม่เข้าใจ เพราะทุกอย่างเกิดดับเกิดดับ เมื่อร่างกายตายแล้ว ความรู้ตัวจะอยู่โดยไม่ดับได้อย่างไร ................................................ ตอบครับ      จดหมายฉบับนี้ถ้าเป็นของท่านผู้อ่านทั่วไปเขียนมาก็คงทิ้งตะกร้าไปแล้วเพราะเนื้อหาถามถึงสิ่งที่ภาษาอธิบายไม่ได้แต่จะบังคับให้อธิบายด้วยภาษา ถึงตอบไปก็จะกลายเป็นอ่านแล้วไม่เข้าใจไม่รู้เ

ลูกอายุ 2 ขวบ จะให้ลูกเรียนอาชีพอะไรดี

รูปภาพ
คุณหมอสันต์คะ หนูอายุ 24 ปี มีลูกชายอายุ 2 ขวบ หนูรักลูกมากแต่ก็รู้สึกผิดที่ทำให้เขาเกิดมา รู้สึกว่าโลกในวันข้างหน้าเขาจะอยู่ยาก หนูไม่รู้จะปูทางชีวิตให้เขาอย่างไร ให้เขามีอาชีพอะไรดี สูตรปกติที่ให้ลูกติวเข้มเข้าโรงเรียนดีสอบเข้าคณะดีจะได้ทำงานดีๆในยุคของเขาคงใช้ไม่ได้แล้วใช่ไหมค่ะ คุณหมอสันต์มองว่าลูกของหนูเขาจะอยู่ในโลกแบบไหน หนูต้องช่วยลูกเขาเตรียมตัวอย่างไร หนูศรัทธาคุณหมอมากค่ะ ......................................................      1. ถามว่าสูตรปกติที่ให้ลูกติวเข้มเข้าโรงเรียนดีๆสอบเข้าคณะดีๆจะได้ทำงานดีๆตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้วใช่ไหมค่ะ ตอบว่ามันใช้ไม่ได้มาตั้งนานแล้วครับ แต่เนื่องจากคนเป็นพ่อแม่ (รวมทั้งหมอสันต์ตอนมีลูกเล็กด้วย) ต่างก็ใช้ชีวิตไปตามสัญชาติญาณของฝูง (herd instinct) เหมือนฝูงวัวที่วิ่งกรูตามกันไป ตัวหน้าวิ่งไปไหนตัวหลังๆก็วิ่งตามๆกันไป จะวิ่งไปไหนกันก็ยังไม่รู้เลย        ที่ว่าใช้ไม่ได้แล้วก็เพราะผมเดาเอาว่าในยุคสมัยลูกของคุณการได้เข้าโรงเรียนดีๆ สอบเข้าคณะดีๆ ไม่มีความหมายอะไร อย่าว่าแต่ทหารตำรวจคนงานโรงงานเลย แม้อาชีพที่คนนิยมอย่างหมอ วิศวกร สถาปนิก ผู้พิ

เล่าเรื่องผลวิจัยสถานะการขาดวิตามินบี.12 ในคนไทย

เกริ่น      บทความนี้ไม่ใช่การตีพิมพ์ผลวิจัยอย่างเป็นทางการนะครับ เพราะผลวิจัยอย่างเป็นทางการกำลังอยู่ในระหว่างรอตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ชื่อ Bangkok Medical Journal บทความนี้เป็นเพียงการแถลงข่าวเกี่ยวกับงานวิจัยเท่านั้น คือในปีที่ผ่านมาผมกับเพื่อนๆได้ทำงานวิจัยชิ้นหนึ่งเพื่อตอบคำถามว่าคนไทยทั่วไปกับคนไทยที่กินอาหารมังสวิรัติเข้มงวดมีสภาวะขาดวิตามินบี.12 ต่างกันหรือไม่ เนื่องจากมาตรฐานการประเมินภาวะขาดวิตามินบี.12 ในปัจจุบันไม่ได้อาศัยการวัดระดับวิตามินบี.12 โดยตรงเพราะได้ค่าผลลบปลอมมาก จึงไปวัดสารอีกตัวหนึ่งชื่อโฮโมซีสเตอีนซึ่งจะคั่งในร่างกายเมื่อร่างกายขาดวิตามินบี.12 แทน วิธีนี้มีความไวมากกว่า งานวิจัยนี้จึงมีชื่อว่า “ ระดับโฮโมซีสเตอีนในคนไทยที่กินอาหารมังสวิรัติเข้มงวดและที่กินอาหารปกติ ” มีชื่อภาษาอังกฤษว่า The study of homocysteine level in vegan and non-vegan Thais. ซึ่งสำเร็จขึ้นมาได้ด้วยการสปอนเซอร์ทางการเงินจำนวน 150,000 บาท โดย  มูลนิธิ ดร.ชวินท์ ธัมมนันท์กุล ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนไม่แสวงกำไรที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆกับผลวิจัย การวิจัยนี้สำเร็จลงได้เพราะความร่วมมือจากสามฝ่

เล่าเรื่องคนเดนมาร์คสองคนที่เคยมามวกเหล็ก

รูปภาพ
     สองวันก่อนผมไปเดินเล่นริมคลองมวกเหล็ก แม้ทุกวันนี้ธรรมชาติก็ยังดีอยู่มาก เดินเลาะคลองไปมีน้ำตกธรรมชาติที่ไม่มีใครตั้งชื่อให้เป็นระยะๆ น้ำในธารเย็นเจี๊ยบ ครั้งก่อนโน้นผมมาเดินที่นี่ประหลาดใจมากที่ได้พบกิ้งก่ายักษ์แบบอีกัวน่าตัวหนึ่งว่ายน้ำแล้วขึ้นมาชูคอแดงแจ๋ที่บนก้อนหิน ชาวบ้านบอกว่ามันเป็นสัตว์ธรรมชาติของคลองที่นี่ ครั้งนี้พอเดินมาถึงริมคลองส่วนที่ถูกไถเปิดโล่งไว้ ในอารมณ์ที่สงบเย็นปลอดความคิด ผมมองย้อนขึ้นฝั่งไปทางถนนเล็กๆโน้น อากาศหนาว หมอกลงจัด ผมเกิดอาการตาฝาดเห็นอาคารบ้านสองชั้นขนาดใหญ่สีเหลืองส้มของผงแร่ออร์ค (ochre) ที่สร้างแบบใช้ท่อนไม้ซุงเสาสี่เหลี่ยมมาทำโครงฝาบ้าน (half timber house) บ้านแบบนี้สร้างกันในยุโรปเหนือ สีออร์คเหลืองแบบนี้นิยมทากันที่เดนมาร์ค ผมมองด้วยความตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่พอเผลอกระพริบตาอาคารนั้นก็หายไป ช่างเป็นภาพจินตนาการที่สวยงาม การเห็นบ้านหลังนี้โผล่ขึ้นมาในม่านหมอกที่มวกเหล็กทำให้ผมคิดถึงคนเดนมาร์คที่เคยมาที่นี่ มวกเหล็กเป็นป่าดงดิบมาก่อน แล้วมาเป็นเมืองเล็กๆที่มีคนผ่านมาแล้วก็ผ่านไปไม่มาก คนเดนมาร์คที่เคยผ่านมาแล้วผ่านไปที่ผมสนใจจะพูดถึงวันนี้มีอย

Solitude Colony Garden ลองชีวิตแบบนี้ดูบ้างไหม

รูปภาพ
     เมื่อหลายเดือนก่อนมีแฟนบล็อกนี้ท่านหนึ่งเป็นคนไทยที่ไปอยู่กินที่โคเปนเฮเกนได้เขียนมาเล่าและส่งรูปถ่ายมาให้ดูว่าวันหนึ่งเขาได้ไปเยี่ยมเพื่อนซึ่งทำสวนหมู่ (colony garden) เขาบอกว่าบรรยากาศดีมาก ทำให้คิดถึงเมืองไทย และคิดถึงหมอสันต์ซึ่งเป็นคนชอบเกษตร จึงส่งรูปมาให้ดู ผมดูรูปแล้วก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าบรรยากาศน่ารัก ป้ายฝีมือหมอสมวงศ์ ผมสะกดคำให้ผิด หิ..หิ      ก่อนหน้านี้นานมาแล้วมีเพื่อนฝรั่งซึ่งเป็นชาวสตอกโฮมเล่าให้ผมฟังว่าเทศบาลเมืองใหญ่มักจัดที่นอกเมืองให้ประชาชนที่ชอบทำสวนเช่าคนละหนึ่งกระแบะ บ้านละประมาณ 100 ตารางเมตร พอว่างงานก็ขับรถออกจากเมืองไปทำสวนหนึ่งกระแบะนี้ปลูกผักปลูกดอกไม้ตามใจชอบ เทศบาลมีที่จอดรถให้แยกต่างหากจากสวน บ้างตั้งเต้นท์นอน บ้างสร้างเคบินเล็กๆในสวนที่ตนเช่า เป็นการช่วยให้ชาวเมืองซึ่งอยู่ในป่าคอนกรีตได้มีโอกาสใช้เวลาว่างผลิตอาหารสดๆของตนเองและได้ออกกำลังกาย ซึ่งเป็นวิธีพักผ่อนที่ก่อผลดีต่อสุขภาพในราคาไม่แพง บางคนที่ซำเหมาหน่อยก็ปลูกกระต๊อบใช้ชีวิตอยู่ในสวนกระจุกนี้แบบถาวรโดยไม่ไปอยู่อาศัยที่อื่นเลย แต่ละสวนมีชาวเมืองต่อคิวรอเข้าเช่ายาวเหยียดเพราะผู้คนชื

เมลาโทนินรักษาโรคนอนไม่หลับได้จริงไหม

เรียนคุณหมอสันต์ ดิฉันอายุ 70 ปี มีปัญหานอนไม่หลับ ตีสามก็ยังตื่น เพื่อนเขาบอกว่าอ้าวตื่นตีสามก็ดีแล้วนี่ก็ลุกขึ้นมาเลยสิ ดิฉันบอกว่าไม่ใช่ ตั้งแต่เข้านอนถึงตีสามยังไม่ได้หลับเลย เพื่อนบอกให้ไปซื้อยาเมลาโทนินที่ร้าน... กินแล้วก็ไม่เห็นความแตกต่างจากเดิมแต่อย่างใด อยากถามคุณหมอว่ายาเมลาโทนินทำให้นอนหลับจริงไหม กินทุกวันจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ และควรจะกินไหม ถ้ากินควรกินขนาดเท่าไหร มันเป็นยาอันตรายไหม ถ้าเป็นยาอันตรายทำไมขายกันเกลื่อน ...................................................................... ตอบครับ      1. ถามว่าเมลาโทนินช่วยให้นอนหลับได้จริงไหม ตอบว่างานวิจัยแบบยำรวมข้อมูลจากงานวิจัยย่อยๆที่เป็นการเปรียบเทียบยาจริงกับยาหลอกเท่านั้นและมีผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับเข้าร่วมวิจัยรวม 1653 คน พบว่าหากนับเวลาที่ได้หลับรวมพบว่าเมลาโทนินทำให้เวลาหลับรวมยาวขึ้นมากกว่าคนกินยาหลอก 8.25 นาทีต่อคืน จากเวลาหลับรวมประมาณแปดชั่วโมงนะ แปดชั่วโมงมี 480 นาทีนะ ก็หมายความว่าเมลาโทนินเพิ่มการนอนหลับได้ราว 1.71%  แล้วคุณว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์กว่าๆนี่มันมากหรือน้อยละครับ นั่นแหละคือคำตอบข้อนี้    

ที่รักษาความดันเลือดสูงได้ดีที่สุด..คือที่บ้าน

คุณพ่ออายุ 72 ปี เพิ่งออกจากรพ. ไปผ่าตัดเปลี่ยนข้อตะโพก เนื่องจากหน้ามืดล้มลงแล้วข้อตะโพกหัก หมอที่เปลี่ยนข้อตะโพกบอกว่าให้ปรึกษากับหมอหัวใจอยู่ (คนละรพ.) ว่ายาลดความดันที่ได้อาจมากเกินไป แต่เมื่อไปคุยกับหมอหัวใจ หมอหัวใจยืนยันเสียงแข็งกร้าวแบบมีอารมณ์นิดๆว่าท่านไม่ได้ให้ยามากเกินไป และชี้ให้ดูผลการวัดความดันเลือดของคุณพ่อซึ่งวัดได้ 156/100 แต่ว่าคุณพ่อวัดที่บ้านจะได้อย่างมากแค่ประมาณ 110/90 แต่ว่ามันขึ้นๆลงๆนะคะ คำถามค่ะ คุณพ่อหกล้มตะโพกหักเพราะยาลดความดันมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าใช่ จะต้องทำอย่างไรต่อไปคะ ในเมื่อหมอไม่ยอมลดยาให้ วงการแพทย์ไม่มีวิธีรักษาความดันเลือดสูงที่ดีกว่าปัจจุบันนี้หรือคะ ขอบพระคุณคุณหมอสันต์ค่ะ .................................................... ตอบครับ      อื้อฮือ..ดุจัง มีลูกขอสักคนนะ หิ หิ พูดเล่น มาตอบคำถามของคุณดีกว่า      1. ถามว่ากินยาความดันเลือดสูงแล้วหน้ามืดหกล้มเป็นเพราะยาหรือไม่ ตอบว่ามีคนเดียวที่จะตอบคำถามนี้ได้คือ...พระพรหม อุ๊บ ขอโทษ พูดเล่นอีกละ หลักวิชาแพทย์มีอยู่ว่าหากให้ยาผู้ป่วยอยู่ แล้วผู้ป่วยมีอาการซึ่งอยู่ในรายการภาวะแทรกซ้อนของ

เจ็บหน้าอกแบบคุณนี้แหละ เป็นโรคหัวใจขาดเลือดแน่นอน

คุณหมอครับ ผมอายุ 30 ปี น้ำหนัก 74 กก. สูง 170 กก. มีอาการแน่นหน้าอก ตรงกลางหน้าอกพอดี  เหมือนมีใครเอาอะไรมารัด เป็นอยู่พักเดียวแล้วก็หายไป เวลาผมทำอะไรมากๆเช่น ขึ้นบันไดสองชั้นก็จะเป็น พอพักสักครู่ก็หาย ไปหมอที่คลินิก หมอบอกว่าอายุแค่นี้ ไม่เป็นโรคหัวใจหรอก ไปหาหมอที่รพ. หมอตรวจคลื่นหัวใจ เจาะเลือด นอนรพ.หนึ่งคืน  แล้วบอกว่าผมไม่ได้เป็นโรคหัวใจ ให้กลับบ้านได้ ขอให้คุณหมอช่วยอธิบายให้ผมสบายใจ หน่อยว่าอย่างนี้ไม่ใช่โรคหัวใจใช่ไหม และเจ็บหน้าออกอย่างไรจึงจะเป็นโรคหัวใจครับ ............................................................ ตอบครับ เจ็บหน้าอกแบบคุณนี้แหละ เป็นโรคหัวใจขาดเลือดแน่นอน สมัยนี้อายุไม่ใช่ประเด็น คือการเจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือดที่ทางหมอเรียกว่า angina นี้มีสองแบบคือแบบไม่ด่วนกับแบบด่วน  การเจ็บแบบไม่ด่วน (stable angina) มีลักษณะสามอย่างคือ  1. เจ็บตื้อๆหรือแน่นๆกลางหน้าอกหรือลิ้นปี่ อาจมีร้าวไปที่คอหรือแขนหรือไม่มีก็ได้  2. เจ็บเวลาออกแรงหรือโมโห ยิ่งออกแรงหรือโมโหมากยิ่งเจ็บ  3. ดีขึ้นถ้าลดการออกแรงลงหรือพัก  ซึ่งของคุณตรงสะ

นิทานสำหรับคนกลัวตายกลัวการเวียนว่ายตายเกิด

 เรียนคุณหมอสันต์ หนูมีเรื่องคาใจอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งไม่ได้คำตอบแก่ตัวเองสักที ทั้งอ่านทั้งฟังแยะมากแต่ก็สรุปไม่ได้ นั่นคือเรื่องการเตรียมตัวไว้สำหรับชาติหน้าของตัวเราเอง เราควรเตรียมตัวไหมคะ ถ้าเราปฏิเสธชาติหน้าก็คือเรามีมิจฉาทิฏฐิ ถ้ายังงั้นเราควรจะเตรียมตัวสำหรับชาติหน้าอย่างไร หนูอยากจะบรรลุนิพพานไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว หนูอยากจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด .............................................................. ตอบครับ      อย่าไปหลงอยู่ในกับดักคำถามเรื่องชาติหน้าเลย คุณจะไม่ได้ไปไหนดอกถ้าคุณติดอยู่ในกับดักของความคิดหรือคอนเซ็พท์เดิมๆซ้ำๆซากๆอยู่อย่างนี้ คุณต้องออกมาจากสิ่งเดิมๆที่คุณเคยคิด อย่าไปเสียเวลากับเรื่องไร้สาระเลย เรื่องอนาคต ชาติหน้าชาติไหน ความกลัวตาย มันเป็นแค่ความคิด แม้กระทั่งความเป็นเจ้าของที่คุณใช้คำว่า "ชาติหน้าของตัวเราเอง" คำว่าของตัวเราเอง นั่นเป็นคอนเซ็พท์เรื่องสิทธิความเป็นเจ้าของ ใครเป็นเจ้าของอะไร ใครมีสิทธิเหนืออะไร มันเป็นคอนเซ็พท์นะ ถึงจะมีการออกหลักฐานโฉนดที่ดิน สิทธิบัตร บัญชีธนาคารยืนยัน แต่มันก็เป็นเพียงคอนเซ็พท์ที่อาจจะเป็นที่ย

ทั้งตีเทนนิส กอล์ฟ จักรยาน ว่ายน้ำ แต่ผลสวนหัวใจออกมาตกกะใจ

ได้email address​ ของอจ.มาจากคุณโอ๋​ให้เรียนปรึกษาเกร่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจ.. Profile: เพศชาย/65ปี/สูง​179/74.5kg มีภาวะน้ำตาลA1C 6.7,FBT 142mg/dcl กว่า​ 1.5ปี​/ cholestrol​ ไปในทางสูง​ไม่มีอาการเจ็บหน้าอกหรือ​sinage เกี่ยวกับเรื่องหัใจอย่างไรเนื่องจากdaily excercise​ทุกวัน.. Tennis​ เข้า​ 2​ ชม.golf​ 2ชม.. ออกรอบอาทิตย์ละ2ครั้ง.. ขี่จักรยาน/ว่ายน้ำ/ไม่ดื่มหรือสูปบุหรี่ ไปทำ​med.check up​ ทุกปี​ และปีนี้ขอหมอทำexcercise​ stress​ ผ่านสบายหากมีค่าST ยก.. หมอขอREPEAT TEST​วิ่ง​30​mint​ แล้วทำheart.echo วิ่งผ่านสบายไม่เหนื่อยหาก​ST ยังยกอยู่ แพทย์แนะนำ​ catalization​ ผลออกมาตกกะใจ(ดูรูปคับ) แพทย์​แนะนำCABG เนื่องจากเป็นmultiple  blockages...และถือเป็น High​ risk​ situation​ คำถาม:ผมกลัวผ่าตัดมากเนื่องจากเกรงติดเชื้อ/ชีวิตหลังผ่าตัดอาจแย่ลงจากผลไตวาย/ไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนปกติ ทราบจากหลายท่านว่าอจ.มีวิธีบำบัดธรรมชาติจากการคุมอาหารและอื่นประกอบ ผมควรจะแก้ไขปัญหา​ส่วนนี้อย่างไรคับ รบกวนอจ.ด้วยคับ ............................................. ตอบครับ      ผมดูผลการตรวจสวนหัวใจ

ความคิดนี้มันเคลื่อนไหวไปอย่างไร ทำไมคนจึงมาจมปลักอยู่ตรงนี้

คุณหมอคะ          หนูกำลังจมอยู่ในความเสียใจและรู้สึกผิด ใครๆก็บอกว่าปล่อยวางความคิดนั้นไปซะ let it go แต่หนูปล่อยวางไม่ได้ หนูต้องทำอย่างไรจึงจะปล่อยวางได้ ............................................. ตอบครับ      โอเค. คุณลืมคำพูดที่คนอื่นบอกให้คุณปล่อยวางซะนะ ฟังผมพูดใหม่ ผมบอกคุณว่า      "ให้ปล่อยความคิดที่มันอยากอยู่กับคุณให้มันอยู่กับคุณ Let it stay"      คุณไม่ใช่คนเดียวที่หยุดความคิดไม่ได้ จริงๆแล้วไม่มีใครหยุดความคิดได้หรอก ในเมื่อผู้จะหยุดความคิดก็คืออีกความคิดหนึ่ง แล้วความคิดมันจะไปหยุดความคิดได้อย่างไร มันมีแต่จะต่อยอดกันขึ้นให้หนักหน่วงยิ่งขึ้นเท่านั้น สิ่งที่คุณทำได้และควรทำก็คือคุณแค่สังเกตความคิดแค่นั้น อย่าหนี แล้วคุณก็จะเห็นว่าความคิดนั้นไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกผิดหรือความกลัวหรือความโกรธก็ตาม เมื่อถูกสังเกตมันจะฝ่อหายไปเอง โดยเราไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย เหมือนการสังเกตเป็นการส่องไฟฉายเข้าใส่สัตว์ซึ่งกลัวแสงสว่างพอดี กับปัญหาชีวิตทุกปัญหาคุณก็ใช้วิธีเดียวกัน คือให้สังเกต เมื่อคุณมีความรู้สึกผิด ให้คุณอยู่กับมัน ให้คุณเป็นมัน ให้คุณรู้จักมันแบบถึงกึ๋