หมอสันต์ตัวปลอมออกอาละวาดมากอีกแล้ว มากจนดูยูทุปไม่สนุก

ผมเพิ่งกลับจากไปเที่ยวมานานหนึ่งเดือน สนุกมาก พอกลับถึงบ้านยังไม่ทันหายเมาเครื่องบินเลย ก็มีแขกแวะมาเยี่ยมพร้อมกับคำร้องเรียนว่า 

     "..เบื่อหมอสันต์ตัวปลอมออกอาละวาดขายยาทางยูทุปอีกละ แหม..จะดูเขาอภิปรายเปิดโปงพวกสีเทากันมันๆก็มีหมอสันต์ตัวปล่อมโผล่แทรกขึ้นมาขายยาบ่อยมาก ช่วยทำอะไรสักอย่างสิ.."

    ผมตอบท่านผู้ป่วยเป็นโรคทนพิษหมอสันต์ตัวปลอมไม่ไหวว่า

    "..ให้ผมไปอภิปรายด่าพวกสีเทาแบบมันๆให้ฟังแทนผมพอทำได้นะ แต่จะให้กำจัดหมอสันต์ตัวปลอมเนี่ยผมทำไม่ได้หรอก แหะ..แหะ"

    อีกท่า่นหนึ่งเขียนมาบอกว่า    

    "..เห็นแต่หน้าหมอสันต์เวอร์ชั่น AI จนลืมไปแล้วว่าหมอสันต์ตัวจริงหน้าตาเป็นไง"

    หิ..หิ ปัญหานี้แก้ง่าย ผมลงรูปหมอสันต์ตัวจริงวัย 73 ปี ที่เพิ่งถ่ายสองสามวันมานี้ให้ดูเลย..ปิดเคสได้

    กล่าวโดยสรุป เรื่องหมอสันต์ตัวปลอมนี้ไม่มีใครช่วยใครได้ ผมทั้งแจังความตำรวจทั้งแบบนั่งในโรงพักและทั้งแบบทำงานกันในเน็ท แจ้งไปหมดแล้ว ร้องเรียนไปทั้งทางเฟซบุ้่คทั้งทางยูทุปก็ทำแล้ว ที่เหลือรบกวนแฟนๆหมอสันต์ช่วยตัวเองโดยใช้เกณฑ์วินิจฉัยเองง่ายๆว่า

    ถ้าโผล่หน้ามาขายอะไร ไม่ใช่หมอสันต์ทั้งสิ้น

    เพราะหมอสันต์ตัวจริงไม่ขายอะไรทั้งนั้น ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ยาก็ไม่ขาย วิตามินก็ไม่ขาย อาหารเสริมก็ไม่ขาย ในอนาคตหากจนแต้มขึ้นมาก็อาจมีรายการขายสมบัติเก่าเช่นบ้านและที่ดินกินกันบ้างก็อาจเป็นไปได้ แต่ก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ หิ หิ 

    ท่านจะต้องใช้เกณฑ์วินิจฉัยนี้เองให้เป็น อย่าไปหวังว่าหมอสันต์ปลอมจะหายไปในเร็ววัน เพราะในบรรดาหมอปลอมดังๆที่ออกอาละวาดรุ่นเดียวกันหลายคน ของคนอื่นเขาเลิกรากันไปหมดแล้วเหลือแต่หมอสันต์ปลอมที่ยังปลอมกันอยู่ไม่เลิก เพราะตราบใดที่ใช้หมอสันต์หลอกขายของแล้วยังมีผู้หลงเชื่อขายดิบขายดี กิจการหมอสันต์ปลอมก็จะมีแต่งอกงามขยายตัวขึ้น ไม่มีเสียหรอกที่มันจะหมดไปเอง  

    จบเรื่องหมอสันต์ปลอมนะ ไหนก็เปิดมาทักทายกันแล้วจะไม่คุยอะไรที่มีสาระเลยก็จะเสียเวลาท่านผู้อ่านเกินไป จึงขอตอบคำถามที่เพิ่งถามมาสดๆสองสามคำถามเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว

    คำถามที่ 1. 

    ไปตรวจสุขภาพหมอบอกว่าเป็นโรคไตเรื้อรังด้วยเพราะค่าไตไต้แค่ 47 แต่ไปหาหมออีกโรคหนึ่งบอกว่าผลค่าไตที่ตรวจมามันยังไม่แน่นอน ต้องไปตรวจยืนยันอีกอย่างหนึ่งเรียกว่าตรวจซีสอะไรสักอย่าง อยากถามหมอสันต์ว่าการตรวจแบบนั้นมันคืออะไร จำเป็นไหม เชื่อได้จริงหรือเปล่า 

    ตอบครับ

    โห..ถามว่าตรวจซีสอะไรสักอย่างนั้นคืออะไร หมอที่ไหนจะตอบให้คุณได้เนี่ย แต่หมอสันต์จะตอบให้ด้วยวิธีเดาคำถามเอา คือผมเดาว่าการตรวจที่คุณถามถึงนั้นคือการตรวจเลือดหา Cystatin C ซึ่งเป็นโมเลกุลโปรตีนของเสียที่ผลิตออกมาจากเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายทำนองเดียวกับ Creatinine (Cr) จากเซลล์กล้ามเนื้อที่ใช้คำนวณค่าไต (GFR) ทั้งสองตัวนี้จึงใช้ประเมินการทำงานของไตได้เหมือนกัน แต่ว่าตัว Cystatin C นี้แม่นกว่า Cr โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนผอมแห้งกล้ามเนื้อน้อยผิดปกติหรือนักกล้ามที่กล้ามเนื้อมากผิดปกติซึ่งค่า Cr จะเชื่อุถือไม่ค่อยได้

    ถามว่าตรวจ GFR ได้ 47 หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคไตเรื้อรังระยะ 3 ต้องไปตรวจยืนยันด้วย Cystatin C ไหม ตอบว่าไม่ต้องหรอกครับ เสีนเงินเสียเวลาเปล่าๆ การพยายามตรวจยืนยันอะไรก็ตามเพื่อรักษาโรคประสาทให้ตัวเองนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ ให้ใช้ข้อมูลที่มีมุ่งหน้าปรับวิถีชีวิตตัวเองดีกว่า ดังนั้นให้คุณวินิจฉัยตัวเองทันทีว่าเป็นโรคไตเรื้อรังระยะ 3 แล้วแน่นอน แล้วให้หันมาตั้งหน้าตั้งตาทำนุบำรุงไตของตัวเองด้วยการ 

(1) เปลี่ยนอาหารมากินอาหารแบบกินพืชเป็นหลัก (ลดหรือเลิกเนื้อสัตว์) กินแต่อาหารธรรมชาติ ลดอาหารบรรจุเสร็จที่ใส่สารบ้าๆบอๆเพียบเสีย แล้วการทำงานของไตจะค่อยๆดีขึ้นเอง

(2) หลีกเลี่ยงการฉีดสารทึบรังสีเพื่อตรวจต่างๆทางการแพทย์ 

(3) หลีกเลี่ยงยาทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาที่มีพิษต่อไตตรงๆเช่นยาแก้ปวดข้อ (NSAID) ยาลดการหลังกรด (Omeprazole) ยาปฏิชีวนะบางชนิด 

(4) อย่ากินสมุนไพรที่ไม่รู้กำพืดทุกชนิด วิตามินทั้งหลายหากจะกินก็กินเฉพาะในขนาดแนะนำ (RDA) เท่านั้น อย่าไปกินในขนาดสูงแบบบ้าเลือดเช่นสิบหรือร้อยเท่าของขนาดแนะนำ ยิ่งหากไม่กินวิตามินเปะปะเยอะแยะได้ก็ยิ่งดี

 (5) ดูแลร่างกายไม่ให้ขาดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างออกกำลังกายและระหว่างเดินทางไกล

    คำถามที่ 2. 

    เป็นทางเดินปัสสาวะอักเสบกินยารักษาจนหายแล้วแต่หมอบอกว่าเม็ดเลือดขาวยังไม่หมดยังหยุดไม่ได้ต้องตรวจรักษาเพิ่มเติม แล้วก็ตรวจเพิ่มอีก (MTB DNA complex) เสียเงินหกพันกว่าบาท ดิฉันส่งผลตรวจมาด้วย หมออ่านผลแล้วไม่พูดอะไร ได้แต่บอกว่าเม็ดเลือดขาวไม่หมดก็ไม่ได้หมายความว่ามีการติดเชื้อเสมอไป จะหยุดรักษาก็ได้ ดิฉันอยากถามหมอสันต์ว่าผลตรวจนี้มันคืออะไร เขาตรวจทำไม แล้วหยุดยารักษาได้จริงไหม

    ตอบครับ 

    ผลตรวจทึ่ส่งมานี้มีสามเรื่อง คือ 

    (1) ผลตรวจนับเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ ซึ่งมีผลสองครั้ง ครั้งแรก (มิย) ได้ 100/hp แปลว่า?นับเม็ดเลือดขาวได้ 100 ตัวต่อหนึ่งหน้าจอกล้องส่องจุลทรรศน์ แปลผลได้ว่าติดเชื้อรุนแรง ครั้งที่สอง (ตค) ได้ 1/hp แปลว่าปกติแล้ว การติดเชื้อหมดแล้ว (ค่าปกติของเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะคือไม่เกิน 1-3/hp)

    (2) ผลตรวจเพาะเชื้อแบคทีเรียในปัสสาวะ ซึ่งมีครั้งเดียว (ตค.) ได้ผลลบ แปลว่าเมื่อเดือนตค.ไม่พบเชื้อในปัสสาวะ แปลว่ายืนยันได้เลยว่าการติดเชื้อหมดแล้วจริงๆ หยุดการรักษาได้เลย

    (3) ผลตรวจ MTB DNA complex ในปัสสาวะ อันนี้เป็นการตรวจหาเบาะแสของการติดเชื้อวัณโรค ผมก็เพิ่งรู้จากคุณนี่แหละว่าในเมืองไทยมีการนำการตรวจชนิดนี้เข้ามาใช้แล้ว ชื่อของมันส่วน MTB ย่อมาจาก Mycobacterium tuberculosis แปลว่าเชื้อกลุ่มวัณโรค ส่วน DNA ย่อมาจาก deoxyribonucleic acid ซึ่งก็คือยีนหรือรหัสพันธุกรรมนั่นแหละ ส่วนคำว่า complex ก็แปลว่ากลุ่มเศษชิ้นยีนของเชื้อวัณโรค นี่มันเป็นการตรวจแบบใหม่ที่ดีมากในการวินืจฉัยวัณโรคของทางเดินปัสสาวะ ผลตรวจของคุณได้ผลลบก็ดีแล้ว แปลว่าไม่เป็นวัณโรค แต่ทำไมเขาให้คุณตรวจชนิดนี้ด้วยนั้น ผมไม่ทราบเหตุผลของหมอเขาดอก คุณต้องไปถามเอาเอง 

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทะเลาะกันเรื่องฝุ่น PM 2.5 บ้าจี้ เพ้อเจ้อ หรือว่าไม่รับผิดชอบ

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

เจ็ดใครหนอ

แจ้งข่าวด่วน หมอสันต์ตัวปลอมกำลังระบาดหนัก

เสพย์ติดหนังโป๊และการช่วยตัวเอง (masturbation)

สอนวิธีอ่านผล CBC (การตรวจนับเม็ดเลือด)

หมอสันต์สวัสดีปีใหม่ 2568 / 2025

เลิกเสียทีได้ไหม ชีวิตที่ต้องมีอะไรมาจ่อคิวต่อรอให้ทำอยู่ตลอดเวลา

ไปเที่ยวเมืองจีนขึ้นที่สูงแล้วกลับมาป่วยยาว (โรค HAPE)