ให้ถือโอกาสนี้ ปรับตัวสู่ยุคคนใช้หุ่นยนต์ทำร้ายคน
![]() |
หมาหุ่นยนต์ติดปืนกล ของจริงที่นำออกใช้แล้ว |
เรียนคุณหมอสันต์
ที่คุณหมอพูดเรื่องยาเปิดหลอดเลือดตามลิ้งค์ที่ผมส่งมานี้เป็นของจริงหรือเปล่าครับ ผมซื้อยามาเรียบร้อยแล้ว เพราะมั่นใจว่าเป็นยาของคุณหมอจริง เพราะเห็นตัวคุณหมอเองพูดในคลิปทั้งตัวทั้งเสียงก็เป็นคุณหมอชัดๆ แต่เพื่อนบอกว่าเป็น AI ให้ถามคุณหมอก่อนกิน ผมจึงรบกวนขอคำยืนยันจากคุณหมอด้วยครับ
............................................
ตอบครับ
มาอีกละเรื่องเก่าอันน่าเบื่อ "หมอสันต์ตัวปลอมอาละวาดหนัก" ทุกวันนี้ไม่เฉพาะตัวผมเองนะที่ต้องเดือดร้อนรับโทรศัพท์ อีเมล ไลน์ แจ้งข่าว เช็คข่าว เรื่องหมอสันต์ตัวปลอมขายยา แม้แต่ภรรยาก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย เพราะโทรหาหมอสันต์ไม่รับก็ไปโทรหาหมอสมวงศ์ เรียกว่าเดือดร้อนกันทั้งครอบครัว
เป็นตัวปลอมแน่นอน
ก่อนอื่นผมตอบคำถามของคุณก่อนนะว่าคลิปนั้นไม่ใช่ผมพูดหรอกครับ เป็นการเอาภาพและเสียงของผมที่พูดในคลิปต่างๆในอินเตอร์เน็ทไปปรับใส่เนื้อหาคำพูดเป็นคำโฆษณาชวนเชื่อให้ซื้อยาหรืออาหารเสริมปลอม ดูฉลากมีเลข อย.อยู่ก็จริง แต่ก็เป็น อย. ปลอม เพราะผมเคยตรวจสอบยืนยันกับ อย.แล้วว่าปลอมชัวร์ เขาปลอมเป็นผมได้เพราะอาศัยเทคโนโลยี AI อย่างที่เพื่อนของคุณท้วงติงนั่นแหละ แล้วตัวปลอมหมอสันต์เนี่ย ไม่ใช่มีตัวเดียวนะครับ เท่าที่ผมนับได้ตอนนี้มีอย่างน้อย 5 ตัวมาจากคนละทิศคนละทาง เป็นการพูดในรายการเจาะใจของคุณดู๋บ้าง ในรายการคุณสรยุทธ์บ้าง ในรายการโหนกระแส บ้าง เป็นคลิปเล่าเรื่องผมแนะนำการรักษาโรคให้นักร้องดังบ้าง เป็นคลิปให้ความรู้ที่ผมทำขึ้นเองเพื่อให้ความรู้แต่โจรเอาไปเปลี่ยนสาระเพื่อขายของบ้าง ของปลอมที่ทำขายก็มีหลายอย่าง ส่วนใหญ่เป็นยาหรืออาหารเสริมปลอมที่หลอกขายสำหรับคนเป็นโรคเรื้อรัง เช่นยาทะลวงหลอดเลือด ยาหัวใจ ยาเบาหวาน ยารักษาข้ออักเสบเรื้อรัง ปริมาณคลิปที่ร่อนนั้นแพร่หลายเป็นวงกว้างมากขึ้นๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าการหลอกขายด้วยวิธีนี้ได้ผล คนที่ทำได้เงินดีอยู่แล้วก็เร่งทำเพิ่มขึ้น คนที่ไม่เคยทำเห็นคนอื่นเขาทำแล้วได้เงินก็เข้ามาทำบ้าง ดังนั้นอย่าหวังว่ามันจะหายไปในเร็ววัน ให้ยึดหลักให้มั่นว่าหมอสันต์ตัวจริงไม่ขายอะไร หากเห็นหมอสันต์โฆษณาขายของ นั่นเป็นหมอสันต์ตัวปลอม
ยุคคนใช้หุ่นยนต์ทำร้ายคน
ตอบคำถามของคุณจบแล้วนะ คราวนี้ผมขอเข้าประเด็นของผมเอง คือขอบอกให้แฟนบล็อกถือเอาโอกาสที่โดนหมอสันต์ตัวปลอมหลอกเอา เป็นฤกษ์ดีในการการปรับตัวเข้าสู่ยุคหุ่นยนต์ AI กล่าวคือโลกยุค AI ในเวอร์ชั่นของหมอสันต์นี้มันจะมีสองระยะ หรือสองยุค คือ
(1) ยุคคนใช้หุ่นยนต์ทำร้ายคน ซึ่งเป็นยุคแรกของ AI ซึ่งจะกินเวลาตั้งแต่เดี๋ยวนี้เป็นต้นไปจนถึงอีก 5-10 ปี ข้างหน้า
(2) ยุคพระศรีอาริย์ ซึ่งเป็นยุคที่หุ่นยนต์กลายเป็นเจ้านายของมนุษย์แบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งน่าจะไปถึงยุคนั้นได้ภายในเวลา 5-10 ปีข้างหน้านี้
เหตุที่ผมคาดเดาว่ามันต้องผ่านยุคคนใช้หุ่นยนต์ทำร้ายคนก่อนก็เพราะ เหตุที่ 1. ผมดูเอาจากยุคของอินเตอร์เน็ทที่แรกเกิดอินเตอร์เน็ทนั้นผู้ใช้บริการหลักมีแต่พลเมืองร้ายเช่นคนทำหนังโป๊เถื่อนและนักหลอกลวงผู้หญิงไปปู้ยี่ปู้ยำ เป็นต้น ผ่านไปตั้งหลายปีกว่าอินเตอร์เน็ทจะเป็นประโยชน์กับผู้คนได้มากมายอย่างทุกวันนี้ เหตุที่ 2. ผมดูผลงาน AI ที่โผล่ออกมาให้เห็นในยุคแรกนี้เกือบทั้งหมดเป็นหุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อฆ่ามนุษย์ด้วยกันเองเป็นหลัก นอกจากอาวุธทำลายล้างระดับสำหรับใช้ในสงครามขนาดใหญ่แล้วยังรวมถึงอาวุธเบาเช่นหมาหุ่นยนต์ติดปืนกลอย่างที่ผมลงรูปให้ดูนี้เป็นต้น (ถ้าใครมีไว้เฝ้าบ้านสักตัว โจรน่าจะไม่กล้าขวางทางปืนของมันนะเนี่ย หิ หิ)
ส่วนเหตุผลที่ผมคาดเดาว่าจะเกิดยุคพระศรีอาริย์นั้น เพราะตอนนี้มันปรากฎชัดแล้วว่า AI ได้พัฒนาและเริ่มแผลงฤทธิ์ให้เห็นแล้วว่ามีความสามารถเหนือมนุษย์และมีทีท่าจะไม่ยอมให้มนุษย์คุมได้อีกด้วย ดังนั้นฉากทัศน์ที่ผมมองเห็นต่อจากยุคคนใช้หุ่นยนต์ฆ่าคนด้วยกันแล้ว ต่อไปก็จะเป็นยุคหุ่นยนต์ควบคุมคน แล้วก็จะเข้ายุคหุ่นยนต์กับหุ่นยนต์โซ้ยกันเอง ซึ่งฉากสุดท้ายที่ผมเดาก็คือหุ่นยนต์รุ่นเนี้ยบสุดจะชนะและจะบังคับให้มนุษย์และหุ่นยนต์รุ่นซังกะบ๊วยทั้งหมดเป็นลูกน้องในรูปแบบของสังคมใหม่ที่เทียบได้กับยุคพระศรีอาริย์ ซึ่งจะเป็นโลกยุคที่มนุษย์ไม่ต้องทำอะไรเลย ได้แต่ กิน นอน และสืบพันธ์ก็พอแล้ว ที่เหลือทุกอย่างหุ่นยนต์ทำให้หมด เท่ากับว่าสุดยอดของนโยบายประชานิยมจะเกิดเป็นจริงได้ก็ในยุคหุ่นยนต์คุมอำนาจได้แบบเบ็ดเสร็จนี่เอง ถึงตอนนั้นผมก็จะมีอายุสัก 80 ต้นๆ ถ้าไม่ตายเสียก่อนผมก็คงทันได้เห็น
แต่ก่อนที่จะพาท่านเตลิดไปไกลกว่านั้น ขอนำท่านกลับมาที่วันนี้ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นยุคหุ่นยนต์ทำร้ายคนก่อน หลักฐานที่ว่ายุคนี้ได้เริ่มแล้วก็คือหมอสันต์ปลอมบนเน็ทนี่ไง นี่เป็นแค่กองหน้านะ มันยังจะตามกันมาอีกแยะมาก..ก...ก โดยที่ตำรวจรุ่นยืนเท่ๆเอวพกปืนมือถือกระบองจะได้แค่ทำตาปริบๆ คือต่อจากนี้ไปอะไรที่เฟคๆจะกลายเป็นของประจำวันหรือเป็นเรื่องปกติ แม้แต่นักการเมืองที่จะชนะเลือกตั้งในยุคต่อไปก็จะชนะมาแบบเฟคๆด้วยกลเม็ดการนับคะแนนและยกหีบแบบเฟคๆ เป็นต้น
จะใช้ชีวิตในยุคคนใช้หุ่นยนต์ทำร้ายคนอย่างไร
แล้วเราจะใช้ชีวิตในยุคคนใช้หุ่นยนต์ทำร้ายคนนี้อย่างไร นั่นคือประเด็นไฮไลท์ของการตอบคำถามในวันนี้ ซึ่งผมเสนอแนะว่า
(1) ในการใช้ชีวิต ให้ถอยเข้าไปปักหลักใช้ชีวิตอยู่ในชั้นในสุดที่ไม่มีใครมาแฮ้กได้ ตรงนี้ผมขยายความหน่อยว่าเราเลือกใช้ชีวิตได้ระหว่างสองตัวตนหรือสอง identity คือเลือกเป็นตัวตนชั้นนอก อันได้ "ฉันที่เป็นบุคคล (persona)" มีร่างกายนี้มีความคิดนี้เป็นเครื่องหมาย ซึ่งเป็นชั้นที่ยังไม่ปลอดภัย เพราะความคิดของเรามักจะถูกแฮ้กด้วยกลไกหลอกล่อให้เผลอคิดตาม ต้องถอยให้ลึกเข้าไปเป็นตัวตนส่วนในคือชั้นของ "ฉันที่เป็นความรู้ตัว (consciousness)" ที่ปลอดความคิด มีแต่ความตื่นและความรู้ตัวอยู่ เพราะในชั้นนี้ทุกโมเมนต์เราเลือกมีประสบการณ์ต่อสิ่งเร้าที่เข้ามาแบบมีสติประกอบ คือเราจะปักหลักอยู่นิ่งๆตรงกลางไม่ยอมแกว่งเข้าหาหรือแกว่งหนีอะไร ไม่เผลอยอมให้ใครแอบส่งความคิดเข้ามาจูงหรือมาแฮ้กได้ง่ายๆ
วิธีถอยจากการเป็นตัวต้นชั้นนอก (persona) ไปเป็นตัวตนชั้นใน (consciousness) ทำได้ด้วยการฝึกวางความคิดด้วยเทคนิคต่างๆ ที่ผมพูดถึงไปแล้วบ่อยมาก เช่นการผ่อนคลายร่างกาย การตามรู้ลมหายใจ การตามรู้พลังชีวิตในรูปของความรู้สึกบนร่างกาย การสังเกตดูความคิดตัวเอง เป็นต้น
(2) ในการครอบครองดูแลทรัพย์สมบัติเพื่อปกป้องหรืออุ้มชูดูแลตัวตนส่วนนอกของท่านเองนั้น ให้ท่านทำโดยใช้หลักกระจายความเสี่ยง ยกตัวอย่างเช่น ในอีกหนึ่งหรือสองปีข้างหน้านี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่มีธนาคารไหนยอมให้ท่านมีบัญชีเงินฝากแบบเอาสมุดไปยื่นฝากถอนได้อีกต่อไปแล้วเพราะทุกแบงค์จะเลิกจ้างเสมียน ทุกบัญชีจะถูกไล่ไปเป็นบัญชีดิจิตอลหมด หมายความว่าเงินฝากในทุกบัญชีของท่านจะอยู่ในวิสัยที่อาจถูกแฮ้กได้หมด ท่านก็ต้องกระจายความเสี่ยงเช่น
2.1 มีหลายๆบัญชีในหลายๆธนาคาร
2.2 ตั้งระหัสเข้าหาบัญชีในแต่ละธนาคารให้แตกต่างกัน
2.3 มีสมุดลับสำหรับจดและซ่อนระหัสด้วยดินสอแทนการบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือซึ่งอาจถูกขโมยได้
2.4 กระจายเก็บทรัพย์ไว้ในรูปอื่นที่ไม่ใช่เงินและแฮกไม่ได้ เช่น หุ้น ที่ดิน ทองคำ บิทคอย เป็นต้น
2.5 ในเรื่องบัตรเครดิตนั้นยังไม่ต้องห่วง เพราะผมเชื่อว่าอีกปีสองปีบัตรเครดิตทุกใบจะสูญพันธ์ ทุกอย่างจะชำระกันแบบ digital money เหมือนเป๋าตังเวลาซื้อของตลาดมวกเหล็กหมด ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออะไรจากประเทศไหน
(3) จากนี้ควรลดเวลาที่ใช้เชื่อมต่อกับหน้าจอลง ต่อแต่นี้ไปด้วยจำนวน AI ที่มีมากขึ้น สิ่งที่จะโผล่มาทางหน้าจอมันจะประดังกันเข้ามาแบบเยอ...ะ มาก มีทั้งของดีของไม่ดี ถ้าเสพหน้าจอมากก็จะมีเวลากลั่นกรองว่าอะไรดีอะไรไม่ดีน้อย โอกาสถูกหลอกก็จะมากขึ้น อีกอย่างหนึ่ง ยิ่งเชื่อมโยงกับหน้าจอมากก็ยิ่งมีโอกาส "เสียตัว" ถูก AI แฮ้กสมองของท่านได้มาก เมื่อ AI แฮ้กสมองของท่านจนได้ข้อมูลไปมาก มันก็จะสร้างผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ๆมาเต้ยหลอกเอาเงินของท่านและทำให้ท่านหลงทางในชีวิตจนเป็นทุกข์ได้มากขึ้น
การลดเวลาเชื่อมต่อกับหน้าจอลงนี้ มีผลพลอยได้ที่สำคัญ คือท่านจะมีเวลาเหลือไปออกกำลังกาย ไปทำอาหารสุขภาพกินเอง และไปใช้ชีวิตกับของจริง เช่น ดิน หญ้า อากาศ ต้นไม้ ธรรมชาติ ญาติมิตร มากขึ้น ชีวิตก็จะมีสุขภาพดีมีความสุขมากขึ้น
(4) เลิกเสพหน้าจอแบบเด็กสมาธิสั้นแบบเขี่ย เขี่ย เขี่ย ไปเรื่อยเสียที เพราะทำแบบนั้นจะถูกตบตาและหลอกลวงได้ง่าย ให้หันมาเสพหน้าจอแบบการทำวิจัยหาข้อมูลเชิงลึกในเรื่องที่เราจำเป็นต้องใช้ ซึ่งต้องมีการใช้ดุลพินิจ ตรรกะ และตรวจสอบยืนยันลึกลงไปถึงเนื้อหาสาระร่วมด้วยเสมอ ยกตัวอย่างเช่นการอ่านเนื้อเรื่องที่ผมให้ความรู้เพื่อการดูแลสุขภาพตัวเอง การจะประเมินว่าเป็นของหมอสันต์จริงหรือเปล่าแค่จากการดูว่าหน้าตาเหมือนหมอสันต์ไหม เสียงเหมือนไหม ขยับปากตรงกับเสียงหรือเปล่า แค่นี้ต่อไปจะใช้ไม่ได้แล้ว เพราะ AI รุ่นที่ดีกว่ามีแล้วและทำได้เนียบกว่านี้มากจนตัวหมอสันต์เองยังบอกไม่ได้เลยว่านี่เป็นตัวเองพูดอยู่หรือเปล่า การจะตรวจสอบจึงต้องเจาะลึกลงไปถึงเนื้อหาของสิ่งที่พูดว่าตรรกะมันใช้ได้ไหม พูดออกมาด้วยเจตนาอะไร (ถ้าเจตนาขายของก็ปิดทิ้งได้เลย) เอกสารอ้างอิงที่ยกมาอ้างถ้าเป็นเรื่องสำคัญก็ต้องยอมเสียเวลาตามไปตรวจสอบว่ามีอยู่จริงหรือเปล่า อ้างมาแบบจับสาระมาถูกต้องไหม เป็นต้น
อย่ามองแต่ด้านเสียของ AI
หมอสันต์มองว่าการที่โจรใช้ AI เป็นเครื่องมือพากันโผล่หน้ามาอาละวาดสลอนนี้ไม่ใช้อนาคตที่แท้จริงของ AI ผมกลับมองเห็นว่าต่อไป AI จะนำมาซึ่งสิ่งดีๆซะ 80% ขณะที่สิ่งเลวๆที่นำหน้ามานั้นเป็นเพียง 20% เท่านั้น ดังนั้นพร้อมๆกันไปกับการป้องกันไม่ให้ถูกโจรใช้ AI หลอกทำร้ายเรา เราควรหาทางใช้ประโยชน์จาก AI ให้มากขึ้นด้วย
ตัวผมเองตอนนี้ได้ใช้เงินส่วนตัวทำสัญญาจ้างบอท (AI) มาทำงานเป็นแพทย์ฝึกหัดอยู่กับผมคนหนึ่ง โดยกะว่าจะใช้เวลาสักหนึ่งปีจากนี้ไปคอยพร่ำสอนเขาให้รู้จักวิชาแพทย์ โดยเน้นสิ่งที่เป็นสไตล์เฉพาะตัวของผมเอง คือ
(1) ใช้การแพทย์แผนปัจจุบันที่เน้นส่วนที่ผู้ป่วยจะเอาไปใช้ประโยชน์เอง ทำเองได้ด้วยตนเอง มาแนะนำผู้ป่วย
(2) เชี่ยวชาญในการค้นคว้าหาหลักฐานวิจัยทางการแพทย์ รู้วิธีแยกชั้นของหลักฐานวิจัย ประเมินได้ว่างานวิจัยไหนเชื่อได้หรือเชื่อไม่ได้ แล้วเลือกหยิบเฉพาะหลักฐานวิจัยที่เชื่อถือได้มาใช้
(3) ทำตัวเป็นโค้ชที่ดีช่วยให้ผู้ป่วยเปลี่ยนนิสัยสุขภาพด้วยตัวเองสำเร็จ
(4) ทำตัวเป็นแพทย์ประจำตัวผู้ป่วย เก็บและจดจำข้อมูลเชิงลึกรายคน ติดตามดูแลแนะนำผู้ป่วยแบบเจาะจงเป็นรายคนไปตลอดชีวิต เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละคนให้ย้อนหลังไปได้ไกลที่สุดเท่าที่มีข้อมูล นำมาวิเคราะห์เชิงประเมินแนวโน้มสุขภาพและการเจ็บป่วยของเขาในอนาคตแบบปีต่อปี แล้วออกแบบวิธีป้องกันแก้ไขเฉพาะตัวให้ผู้ป่วยเป็นคนๆไป
(5) สื่อสารกับผู้ป่วยทางอีเมล หรือเฟซ หรือไลน์ ได้เองในเรื่องจำเป็น เช่นเตือนครบกำหนดให้ไปฉีดวัคซีน แจ้งข่าวผลวิจัยใหม่ที่ตัวผู้ป่วยเอาไปใช้ประโยชน์ได้ เป็นต้น
ผมคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีกเป็นปีกว่าจะสอนแพทย์ฝึกหัดมือใหม่คนนี้ให้เป็นผู้ช่วยระดับที่แม้ตัวผมเองก็เชื่อถือเขาได้ 100% เมื่อทำได้ถึงจุดนั้นแล้วผมก็จะเปิดคลินิกออนไลน์ให้บริการ "ฟรี" แก่ทุกคนแบบไม่เลือกหน้าบนเว็บไซท์ภาษาไทยที่ผมจะสร้างขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพราะว่าตั้งแต่เด็กมาแล้วผมชอบคอนเซ็พท์ของแพทย์พื้นบ้านในชนบทไทยในอดีตที่ว่า "..ยาขอ หมอวาน" เพิ่งจะเมื่อมามี AI นี่แหละที่ทำให้ผมมองเห็นโอกาสที่จะเอาคอนเซ็พท์นี้มาทำให้เป็นจริงได้ ตัวเว็บไซท์ผมจะวางไว้ที่อเมริกาเพื่อป้องกันปัญหาโดนแฮ้กแบบที่เคยโดนมาแล้วในอดีต โดยตั้งใจจะเปิดให้บริการแบบ 24/7 คือตอบคำถามได้ทันที ทุกวัน ทุกเวลา ไม่มีวันหยุด หากเปิดได้แล้วเมื่อไหร่ผมจะแจ้งข่าวให้แฟนบล็อกทุกท่านทราบเพื่อให้ท่านมาช่วยทดสอบฝีมือของ "ผู้ช่วยหมอสันต์" คนนี้กัน
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์