มะเร็งปากมดลูก พยาธิกำเนิด สำคัญกว่าอาการ

สวัสดี หมอสันต์ทีเคารพน่ะค่ะ หนูอายุ15ปีค่ะ
       หนูกังวลว่าจะเป็นมะเร็งปากมดลูกรึเปล่า (หนูไม่เคยมีเพศสัมพันธ์น่ะค่ะ) แต่หนูได้อ่านอาการเริ่มต้นของมะเร็งปากมดลูกมาแล้วพบว่าหนูมีอาการตรงกันเลยค่ะ คือเลือดออกกระปิดปกระปอย และมีตกขาวไหลออกมาบ่อยค่ะมีกลิ่นเหม็นค่ะ หนูมีความรู้สึกทางเพศและสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองไม่เคยใช้อะไรเลย แต่ใช้อวัยวะเพศถูกับหมอนค่ะเลยกังวลว่าจะเป็นอะไรรึเปล่า เพราะเห็นบอกกันว่าเป็นการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้มีรอยถลอกของผิวหรือเยื่อบุ และเชื้อไวรัสจะเข้าไปที่ปากมดลูกหนูเลยกังวลมากๆเลยค่ะ

                                    ขอบคุณมากๆเลยนะค่ะ

.......................................................

ตอบครับ

     1.. แหม อ่านหนังสือมา แล้วเอาอาการในหนังสือมาเทียบเคียงกับตัวเอง ใช่แล้ว เราเป็นโรคนี้แน่ๆเลย อาการเหมือนกันเปี๊ยบ อาการแบบนี้ถือเป็นโรคๆหนึ่งเชียวนะ ในโรงเรียนแพทย์เรียกโรคนี้ว่า “กลุ่มอาการนักศึกษาแพทย์” หรือ Medical Student Syndrome อย่างหนูเนี่ย โตขึ้นขอให้เลือกเรียนแพทย์นะ ต้องได้เป็นแพทย์ที่เก่งอีกคนหนึ่งแน่ๆเลย

     2.. อาการไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับมะเร็งปากมดลูกเพราะสมัยนี้เป็นสมัยที่เราเล่นกับมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่มันยังไม่มีอาการ ดังนั้นสำหรับลูกผู้หญิงทุกท่าน เรื่องมะเร็งปากมดลูกนี้ อย่าไปเน้นอาการวิทยามาก แต่ขอให้เน้นพยาธิกำเนิดของโรค ว่ามะเร็งชนิดนี้สืบโคตรเหง้าศักราชไปแล้วล้วนมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสเอ็ชพีวี. (HPV) 100% แล้วที่น่ายินดีก็คือประมาณ 75% ของไวรัสสายพันธูนี้ เรามีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อได้ ดังนั้นลูกผู้หญิงทุกคนที่อายุ 9- 26 ปี ควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสเอ็ชพีวี.เสียนะ การค้นพบวัคซีนตัวนี้เป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติทีเดียว อย่าปล่อยให้สิ่งดีๆที่วงการแพทย์ค้นพบแล้ว ผ่านหน้าเราไปโดยเราไม่ได้ประโยชน์

     3. ในแง่ของอายุกับการเป็นมะเร็ง อุบัติการณ์ของมะเร็งปากมดลูกจะเริ่มเมื่ออายุสัก  21 ปีขึ้นไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมาตรฐานการตรวจคัดกรองปัจจุบันนี้จึงเริ่มที่อายุ  21 ปี โดยไม่สนใจว่าเคยมีเซ็กซ์มาก่อนหรือไม่ ความรู้สึกว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นโรคของคนอายุมากนั้นเป็นแค่ความรู้สึก ไม่ใช่ Fact ยกตัวอย่างเช่นคนไข้มะเร็งปากมดลูกที่อยู่ในมือผม 2 – 3 คนตอนนี้ ล้วนแต่มีอายุยี่สิบกว่าๆทั้งสิ้น ดังนั้นสำหรับลูกผู้หญิงอย่ารอให้อายุมากค่อยไปตรวจคัดกรอง อายุ 21 ปีให้เริ่มเลย ถ้าอายหมอก็เลือกหมอผู้หญิงก็ได้ ความจริงสมัยนี้ไม่เลือกก็มีโอกาสได้หมอผู้หญิงอยู่แล้วเพราะมนุษย์ผู้ชายกำลังจะสูญพันธ์จากอาชีพแพทย์ ผมไม่รู้ว่าทำไม ผมเข้าใจว่าคงมีจุดด้อยทางพันธุกรรมที่พ่วงกับยีนเพศชายไทยอะไรบางอย่างมาประดังโผล่เอาช่วงนี้ ทำให้เพศชายกลายเป็นเพศที่บ้อลัด เลี้ยงยาก โตช้า และไม่อึด อาชีพที่ต้องใช้ลูกอึดจึงถูกเพศหญิงแย่งไปทำหมด รุ่นน้องที่สอนอยู่โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งบอกผมว่าลูกศิษย์ของเขาเป็นหญิง 80% เป็นชายแท้ๆ 5% เออ แล้วที่เหลือมันเป็นอะไรละ ..ขอโทษครับ เผลอนอกเรื่องไร้สาระ กลับเข้าเรื่องดีกว่า ถ้าคุณผู้หญิงอายมากไม่อยากให้ใครมายุ่งมาตรวจพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง ไม่ว่าผู้ชายผู้หญิงหรือกึ่งชายกึ่งหญิงก็ไม่เอาทั้งนั้น ผมแนะนำให้ไปซื้อที่ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเองมาตรวจ สามารถทำได้ง่าย และผลที่ได้ก็เชื่อถือได้เทียบเท่ากับที่ไปให้หมอตรวจ แต่ว่าแพงหน่อยนะ คือถ้าเป็นรพ.เอกชนชุดหนึ่งก็ตกราว  3 พันบาท

     4. การมีความรู้สึกทางเพศเมื่ออายุ 15 ปี เป็นเรื่องปกติ เพราะพระเจ้าสร้่างเรามาอย่างนั้น เพียงแต่ว่าเราต้องไม่เผลอหมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกทางเพศมากเกินไป ต้องแบ่งเวลาไปให้เรื่องที่มีประโยชน์กับวัยเราให้มาก เช่นการออกกำลังกาย การเรียนทักษะพื้นฐานของชีวิต เช่น ภาษา ศิลปะ ดนตรี เพราะชีวิตนี้ยังมีอะไรรอเราอยู่ตั้งเยอะแยะ ถ้ามัวมาเจ่าอยู่กับเรื่องเพศตั้งแต่อายุ 15 ก็จะไปเข้าโหมดเด็กแก่แดด มี ผ. เร็ว มีลูกเร็ว ชีวิตหมักเม่า เป็นยายเพิ้งเร็วก่อนกำหนด หมดโอกาสที่จะได้สัมผัสรู้เห็นสิ่งสวยๆงามๆของชีวิต ซึ่งเราควรจะได้พบในช่วงที่เราเป็นสาวที่เต็มไปด้วยพลังสร้างสรรค์

     5.   การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง (masturbation) ไม่ว่าจะด้วยวิธีถูกับหมอนหรือวิธีอื่นใด ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด และผมแนะนำให้เด็กสาวทุกคนทำได้โดยไม่ต้องปรึกษาแพทย์ (พูดเล่น..เอ๊ย ไม่ใช่ พูดจริง) การถูไถถลอกปอกเปิกอาจเกิดขึ้นได้บ้างก็ช่างมัน ไม่เป็นไร เพราะเยื่อบุบริเวณอวัยวะเพศของเรามันหลุดลอกและเกิดใหม่ทุกวันอยู่แล้ว ประเด็นสำคัญคืออย่าเอาอะไรแหลมหรือมีคมใส่เข้าไป เพื่อนที่เป็นหมอที่เยอรมันเล่าให้ผมฟังว่าเด็กหญิงอายุเก้าขวบที่เยอรมันเอาดินสอแหลมๆใส่เข้าไป แล้วดินสอนั้นก็ไปลอยเท้งเต้งอยู่ในน้ำที่กระเพาะปัสสาวะอยู่ตั้งนานยังกะกระสวยลอยอยู่ในอวกาศ กว่าที่แพทย์จะวินิจฉัยได้ว่ามันคือดินสอก็ทำเอาเป็นงงอยู่นาน นอกจากของแหลมแล้ว ของอะไรที่มีขนาดสั้นหรือหลุดมือก็ไม่ควรใส่เข้าไป เพราะบางทีมันไปค้างอยู่ข้างในแล้วทำให้เกิดการอักเสบมีตกขาวได้

     6.. ที่หนูบอกว่ามีตกขาวและมีกลิ่นเหม็นนั้น ผมเดาเอาว่าน่าจะเป็นตกขาวที่เกิดขึ้นตามปกติแต่ว่าหนูยังไม่คุ้นกับกลิ่นของตัวเอง พูดถึงเรื่องกลิ่นของเด็กสาวนี้มีคุณแม่รายหนึ่งมารำพันให้ผมฟังว่าลูกสาวของเธออายุ 11 ขวบแค่นั้นแต่กลิ่นแรงมาก คือต้องเข้าใจว่าการปล่อยกลิ่นเพื่อเรียกความสนใจนี้มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์เราครับ การแก้ไขก็เอาแค่พอดี อย่าไปทำอะไรมากเกินไป แต่ว่าในกรณีของหนูผมว่าให้คุณแม่พาไปหาหมอผู้หญิงตรวจดูว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมอะไรค้างคาอยู่ข้างในก็จะดีนะครับ เพราะบางทีเราทำอะไรเพลินๆแล้วไม่รู้ตัวว่าชิ้นส่วนของเล่นบางอย่างกลับออกมาไม่ครบ ก็เป็นไปได้เหมือนกัน ถ้าหมอเขาตรวจแล้วไม่พบมีอะไรก็จบ สบายใจ

    นานๆจะมีโอกาสได้ตอบคนไข้รุ่นหลานเสียทีหนึ่ง เพราะบล็อกนี้เป็นของคนสูงอายุเพื่อคนสูงอายุ คนแก่จึงเป็นไพรออริตี้ เห็นจดหมายของคุณซึ่งอายุ 15 อันเป็นวัยใสซื่อและยังต้องการคนนำทางที่ดี ทำให้นึกถึงวันก่อนผมไปดูละครเรื่อง ผีแห่งโรงละคอน (Phantom of The Opera) มีเพลงหนึ่ง เพราะมาก นางเอกร้องว่า

“..All I want is freedom,
a world with no more night . . .
and you always beside me
to hold me and to hide me . . .

Say you'll share with me

one love, one lifetime . . .
say the word and I will follow you . . .
Love me

that's all I ask of you . . .”

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์