นมผงเพิ่มความสูง
เรียน คุณหมอสันต์
จะรบกวนสอบถามคุณหมอเรื่อง นมผงเพิ่มความสูงค่ะ "Super Colostrum Milk Powder" Nature's Care ผลิตและนำเข้าจาก
ประเทศออสเตรเลีย ขายโดยตัวแทนใน web โฆษณาว่า
ทำให้สูงและลดอาการภูมิแพ้
ทนลูกสาวตี๊อไม่ไหว เพราะครูเป็นคนแนะนำ
(ครูก็ซื้อให้ลูกสาวตัวเองดื่ม) 1 กระป๋อง
450 g. ราคา 1,500.- บาท
ส่วนผสมระบุไว้ข้างกระป๋อง ดังนี้ : Colostrum
powder 20% IgG, Glucose, Full Cream Milk Powder, Calcium Phosphate, Whey
Portein Concentrate, Natural Vanilla Flavore. เด็กอายุมากกว่า
6 ขวบให้ดื่ม 2 - 3 ช้อน (ออนซ์)
ต่อวัน ชงน้ำอุ่น หรือนมสด ก็ได้ ลูกสาวดื่มแล้วชอบ ปัจจุบัน ลูกสาวอายุ 13 ขวบ มีประจำเดือนแล้วมาประมาณ 1
ปี ส่วนสูง 155.5 ซม. น้ำหนัก 45 กก. พ่อและแม่ สูง 173 / 158 ซม.
คำถาม :-
1. สามารถทำให้สูงกว่านมที่ดื่มทั่วไปหรือไม่
2. ควรซื้อให้ทานตลอดหรือไม่
3. จะรู้ได้อย่างไรว่า บริษัทที่ผลิตน่าเชื่อถือ เข้าใจว่าไม่ได้ผ่าน อย.
4. แนะนำเรื่อง ทำอย่างไรถึงจะสูงให้ด้วยค่ะ
1. สามารถทำให้สูงกว่านมที่ดื่มทั่วไปหรือไม่
2. ควรซื้อให้ทานตลอดหรือไม่
3. จะรู้ได้อย่างไรว่า บริษัทที่ผลิตน่าเชื่อถือ เข้าใจว่าไม่ได้ผ่าน อย.
4. แนะนำเรื่อง ทำอย่างไรถึงจะสูงให้ด้วยค่ะ
..................................................
ตอบครับ
ก่อนตอบ ผมขอ “ขี่ม้าเลียบค่าย”
ในเรื่องวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับการเพิ่มความสูงก่อนนะครับ
ประเด็นที่ 1 สรีรวิทยาของการเพิ่มความสูง
เรื่องเริ่มที่ต่อมใต้สมองส่วนหน้าปล่อยฮอร์โมนชื่อฮอร์โมนการเติบโตหรือโกรท
ฮอร์โมน (human growth hormone - HGH)
ออกมาในกระแสเลือด ตัว HGH นี้จะกระตุ้นให้ตับผลิตฮอร์โมนอีกตัวหนึ่งชื่อฮอร์โมนกระตุ้นการเติบโตที่คล้ายอินสุลิน
(Insulin like growth factor-1 หรือ IGF-1) ทั้ง HGH และ IGF-1 นี้เป็นสองฮอร์โมนคู่หูที่มีผลต่อทั้งกล้ามเนื้อและกระดูกให้เกิดการเจริญเติบโต
ช่วงเด็กและวัยรุ่นจะออกมามากเป็นพิเศษ หลังจากนั้นก็ยังออกมาอยู่แต่ไม่มากเท่า
ช่วงนอนหลับก็จะออกมามากกว่าช่วงตื่น
แต่กลไกการทำงานระดับละเอียดลึกซึ้งของฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้น่าเสียดายที่มันยังเป็นความลับที่มนุษย์เรายังไม่ทราบเลย
เราทราบเพียงแต่ว่ามันทำงานเสริมกัน และถ้ามีพอดี
มันจะทำให้ร่างกายสูงขึ้นๆเรื่อยๆ เพราะมันไปทำให้แผ่นกระดูกอ่อน (epiphyseal
plate) ที่ปลายกระดูกแขนขาแบ่งตัวขยายจำนวนกระดูกอ่อนออกไปเรื่อยๆๆๆ
แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำให้กระดูกแข็งแทรกไล่ตามเนื้อกระดูกอ่อน (ossification)
การเพิ่มความสูงจะเกิดขึ้นเรื่อยไปถ้ากระดูกแข็งยังไล่ตามกระดูกอ่อนไม่ทัน
แต่ถ้ามีฮอร์โมนมากเกิน กระดูกแข็งก็จะโตแซงกระดูกอ่อน นั่นหมายถึงการปิดตัวของแผ่นกระดูกอ่อน
ความสูงก็จะหยุดปึ๊ดตั้งแต่บัดนั้น เหตุการณ์นี้จะเกิดเมื่ออายุประมาณ 15 – 17 ปี
มีบวกลบบ้างในบางราย มีเหมือนกันแต่น้อยรายมาก ที่แผ่นกระดูกจะปิดช้า
แบบว่ามาปิดเอาตอนอายุ 25 ปีก็มี เมื่อใดที่แผ่นกระดูกอ่อนปิด หนังเรื่องการเพิ่มความสูงก็จบลง
หลังจากนั้นต่อให้เอาช้างมายืดก็ไม่อาจเพิ่มความสูงได้อีก
ประเด็นที่ 2. นมน้ำเหลืองของวัวกับการเพิ่มความสูง ไฮไลท์ในนมเพิ่มความสูงที่คุณซื้อมาคือส่วนที่เป็นนมน้ำเหลืองของวัว (bovine
colostrum) สารตัวนี้มาเกี่ยวกับเรื่องการเพิ่มความสูงตรงที่นมน้ำเหลืองของวัวมีส่วนของ
IGF-1 อยู่ด้วย (ความจริงนมธรรมดาก็มี IGF-1 แต่มีน้อยกว่านมน้ำเหลือง) จึงมีคนคิดว่า ได้การละ
เอานมน้ำเหลืองวัวมาให้คนกินดีกว่า คงจะเพิ่มความสูงได้แน่
แต่ว่าความรู้เรื่องนี้ยังจำกัดจำเขี่ยอยู่นะ
สิ่งที่วงการวิทยาศาสตร์ทราบแน่ชัดแล้ว มีสามประเด็น คือ
1. งานวิจัยทำที่อิหร่านพบว่า
colostrums
ของวัวขนาด 40 มก.ต่อวันช่วยการเติบโตในรูปของการเพิ่มนน.เด็กอายุ 1
– 10 ปี ที่เลี้ยงไม่โตโดยไม่มีโรคใดเป็นสาเหตุ (non organic failure to
thrive) ได้ดีกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่ได้กินนมน้ำเหลือง
2. งานวิจัยที่เดลาแวร์
สหรัฐ เปรียบเทียบผู้ใหญ่ที่ออกกำลังกาย ระหว่างกลุ่มที่กินนมน้ำเหลือง 20
กรัมต่อวันกับกลุ่มที่กินเวย์โปรตีนขนาดเท่ากันนาน 8
สปด.พบว่ากลุ่มที่กินนมน้ำเหลืองมีการขยายตัวของมวลกระดูกมากกว่า
ขณะที่กลุ่มกินเวย์มีน้ำหนักตัวโดยรวมเพิ่มมากกว่า แต่มีการขยายตัวของมวลกระดูกน้อยกว่ากลุ่มกินนมน้ำเหลือง
3. งานวิจัยที่ฟินแลนด์พบว่าเมื่อเปรียบเทียบคนสองกลุ่มที่กินกับไม่กินนมน้ำเหลืองวัว
พบว่ากลุ่มที่กินนมน้ำเหลืองวัววันละ 125 ซีซี.
มีระดับสารกระตุ้นการเติบโตที่มีลักษณะคล้ายอินสุลิน (IGF-I) ในเลือด สูงกว่าคนที่ไม่ได้กิน
แต่สิ่งที่วงการวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบ
มีสองประเด็นสำคัญ คือ
1. ยังไม่มีหลักฐานใดๆพิสูจน์ว่าการกินนมน้ำเหลืองของวัวจะเพิ่มความสูงได้ดีกว่าการไม่กิน
2. ยังไม่ทราบว่าถ้ากินนมน้ำเหลืองของวัวมากๆ
จะมีผลต่อความสูงในเชิงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆตามขนาดที่กิน หรือจะมีผลปิดแผ่นกระดูกปึ๊ดแล้วกลายเป็นคนเตี้ยตลอดกาลไปก่อนวัยอันควร
เพราะเราทราบจากการฉีด HGH ว่าถ้าฉีดมากเกินไปจะทำให้แผ่นปลายกระดูกปิดก่อนวัยอันควรเนื่องจากกระบวนการสร้างกระดูกแข็ง (ossification)
แซงหน้าการสร้างกระดูกอ่อนทำให้เด็กยุติความสูงก่อนวัยอันควร
นี่เป็นเหตุผลหลักที่หมอต่อมไร้ท่อบางคนเข็ดขยาดจนต้องอยู่ห่างๆ HGH เพราะหากฉีดไปแล้วทำลูกเขาเตี้ยกว่าที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติก็จะเปลืองตัวเปล่าๆ
ความรู้ที่วงการแพทย์รู้เรื่องการเพิ่มความสูงก็มีอยู่แค่เนี้ยะแหละค่า...
ท่านสารวัตร
เอาละ คราวนี้มาตอบคำถามของคุณดีกว่า
1.. ถามว่านมวิเศษจากออสเตรเลียสามารถเร่งความสูงดีกว่านมที่ดื่มทั่วไปหรือไม่
ตอบว่า... ไม่ทราบครับ
2.. ถามว่าควรซื้อให้ลูกทานตลอดหรือไม่
ตอบว่าต้องถามสามีคุณสิครับ เพราะเขาเป็นคนหาตังค์นี่
ถ้าถามว่าแล้วถ้าเป็นตัวหมอสันต์ละ
ถ้าลูกรบจะเอา หมอจะซื้อให้แมะ ตอบว่า แหะ..แหะ ถ้าเป็นลูกผมรบเอาหรือครับ
อย่าว่าแต่จะรบซื้ออาหารโปรตีนกินเลย ถ้าเขาเกิดรบอยากจะซื้อขี้หมาผมก็ยังต้องซื้อให้เลย (ขอโทษอีกครั้ง หิ หิ เผลอไร้สาระ)
3.. ถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่า บริษัทที่ผลิตน่าเชื่อถือถ้าเขาไม่ได้ผ่าน
อย. ตอบว่าถ้าคุณอยากรู้จริงๆก็ไปแจ้งความให้อย.จับเขาสิครับ
พอโดนจับเขาก็จะพยายามหาหลักฐานมาแสดงความน่าเชื่อถือในสินค้าของเขาให้อย.เห็นว่าเขาไม่ได้หลอกชาวบ้านเพื่อให้โทษหนักเป็นเบา เราในฐานะชาวบ้านก็จะได้รู้ความจริงกันแน่นอนตอนนั้น
4. ขอให้หมอสันต์แนะนำเรื่องทำอย่างไรถึงจะสูง
ตอบว่า เท่าที่ข้อมูลปัจจุบันมี สิ่งที่พึงทำคือ
4.1
ปัจจัยโภชนาการเป็นปัจจัยสำคัญรองลงมาจากปัจจัยพันธุกรรม
จึงควรดูแลให้ลูกได้รับอาหารโปรตีน (เนื้อ นม ไข่ ถั่ว)
ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการสร้างเนื้อหนังมังสาให้เพียงพอ และได้รับวิตามินและเกลือแร่ (ผักผลไม้) ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการช่วยการทำงานของฮอร์โมนให้เพียงพอ
4.2 งานวิจัยเชิงระบาดวิทยาสรุปไปทางเดียวกันว่าเด็กที่การได้ออกกำลังกายกระโดดโลดเต้นทุกวันจะเติบโตสูงใหญ่ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
4.3 เนื่องจาก HGH ออกมาในกระแสเลือดคราวละมากๆตอนนอนหลับ
จึงควรปล่อยให้เด็กหลับเสียให้หายอยาก
วัยนี้ซึ่งแผ่นปลายกระดูกยังไม่ปิดอย่าเพิ่งไปอบรมเรื่องความขยันหมั่นเพียรหรือยุให้อดตาหลับขับตานอนมากนัก
เขาอยากหลับ ให้เขาหลับ หลับจนสอบตกก็ไม่เป็นไร
ชั้นเรียนนั้นไล่กวดกันเมื่อไรก็ได้ แต่ความสูงเมื่อแผ่นปลายกระดูกปิดไปแล้ว
ไล่กวดกันอีกไม่ได้
4.4 ถ้าคุณซีเรียส ให้คุณพาเขาไปหาหมอโรคต่อมไร้ท่อเด็ก (pediatric
endocrinologist) เสียแต่เดี๋ยวนี้ เพราะตอนนี้เขามีประจำเดือนแล้ว
แสดงว่าระดับของเอสโตรเจนสูงแล้ว การที่เอสโตรเจนสูงจะเป็นตัวเร่งให้แผ่นปลายกระดูกปิดเร็วขึ้น
จึงเป็นเวลาที่ต้องรีบไปหาหมอ เพื่อขอความเห็นคุณหมอว่าจะมีลูกเล่นอะไรที่จะช่วยเขาได้ไหม
ในรูปของการรักษาด้วยฮอร์โมน ซึ่งก็มีสองประเด็นคือการฉีด HGH และการให้ยาต้านเอสโตรเจนเพื่อชะลอการปิดของแผ่นปลายกระดูก
ทั้งสองประเด็นนี้ไม่ใช่ว่าหมอเขาจะยอมทำให้ง่ายๆนะ เขาต้องดูเหนือดูใต้ก่อนจึงจะทำให้
แล้วแต่ละหมอก็เชื่อไม่เหมือนกัน อย่างที่ผมบอกแล้วนั่นแหละ
มนุษย์เรายังมีความรู้เรื่องฮอร์โมนพวกนี้น้อยมาก นี่ยังไม่นับว่าหมอพันธุ์นี้ไม่ใช่จะหากันง่ายๆ
หลายๆโรงพยาบาลต้องอาศัยหมอคนเดียวกันวิ่งรอกโรงนี้ที โรงนั้นที แต่ถ้าคุณซีเรียส
ก็น่าจะลองดูนะครับ
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. Panahi Y, Falahi G, Falahpour M, Moharamzad Y, Khorasgani MR, Beiraghdar F, Naghizadeh MM. Bovine colostrum in the management of nonorganic failure to thrive: a
randomized clinical trial. J Pediatr
Gastroenterol Nutr. 2010 May;50(5):551-4. doi:
10.1097/MPG.0b013e3181b91307.
2. Mero,
Antti, Heidi Miikkulainen, Jarmo Riski, Raimo Pakkanen, Jouni Aalto, and Timo
Takala. Effects
of bovine colostrum supplementation on serum IGF-I, IgG, hormone, and saliva
IgA during training. J.
Appl. Physiol 1997. 83(4): 1144–1151
3. Antonio J, Sanders MS, Van Gammeren D. The effects of bovine colostrum supplementation on body composition and
exercise performance in active men and women. Nutrition. 2001
Mar;17(3):243-7.