รำพึงของชายแก่ขี้บ่น หลังการเดินทางตะลอนๆ


โปรเจ็คเล้าไก่.. Men's Shed
     หลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ผมมัวแต่เดินทาง จากภูเก็ต แล้วก็ไปเชียงราย ไปถึงไหนก็มีแต่เพื่อนผู้หวังดีพาตะลอนๆ หมดแรงเหมือนกัน สุดสัปดาห์นี้จึงตั้งใจจะฝังตัวอยู่ที่มวกเหล็กนิ่งๆสักสองสามวัน บังเอิญภรรยาติดกิจธุระมาด้วยไม่ได้ ผมก็เลยต้องมามวกเหล็กคนเดียว สิ่งแรกที่มุ่งมั่นมาทำก็คือ "โปรเจ็คเล้าไก่" ที่บ้านโกรฟเฮ้าส์ กะว่างวดนี้จะเอาให้เสร็จซะที ซึ่งก็เสร็จแล้วจริงๆ สวยงามแค่ไหนท่านก็ดูรูปเอาเถิด โปรดสังเกตว่าธรรมดาคนเขาสร้างอะไรเขาต้องเอาเสาไว้ข้างในใช่ไหมครับ แต่ของผมนี้เอาเสาไว้ข้างนอก ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษหรอก ผมทำแก้เซ็งแค่นั้นเอง แล้วถ้าท่านสังเกตให้ดี จะเห็นว่าประตูหน้าต่างมันมาคนละแบบคนละยุค บ้างก็จับของที่ควรจะตั้งมาตะแคง นั่นเป็นเพราะโปรเจ็คนี้ผมเก็บเอาของเศษของเหลือจากที่ต่างๆมาใช้ แล้วโปรดสังเกตว่าเล้าไก่ผมมีปล่องไฟอยู่ข้างบนด้วยนะ หิ หิ ไม่ได้คิดจะย่างไก่ข้างในนั้นหรอกครับ ผมทำไว้โก้ๆงั้นเอง
เจ้าการ์ฟิลด์นั่งเสารั้วโต้ลมร้อนเมษา

     เล้าไก่นี้ผมกะว่าอีกไม่เกินหนึ่งปีหรือสองปีคงจะได้เปิดใช้งาน ความตั้งใจคือจะทำเป็น men's shed อันเป็นสถานที่พวกผู้ชายแก่ๆมาสมาคมกันและทำงานฝึมือที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่าง เช่นสิ่ว ขวาน เลื่อย สว่าน ด้วยกัน ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็มาดื่มกาแฟดื่มเบียร์เม้าท์กันก็ยังได้ ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมสมาชิก ถ้าหากหาสมาชิกไม่ได้ ผมก็จะเปลี่ยนชื่อจาก men's shed เป็น "เขตปลอดเมีย" เผื่อว่าจะจูงใจมากขึ้น เพราะผู้ชายนี้อย่างไรเสียก็อยากจะหนีออกจากบ้านใหญ่ที่อิทธิพลของภรรยาครอบคลุมไปทุกอณูของบ้านเหมือนกันหมดทุกคนนะแหละ
ยิ่งหน้าร้อน ดอกไม่ยิ่งแข่งกันออก

     มวกเหล็กตอนนี้อากาศร้อนแต่อาศัยลมพัดก็ยังเย็นสบายดีอยู่ ทำให้ยังสู้แดดอยู่ได้แม้แดดจะจัด ไม่เพียงแต่คนนะครับที่คิดอย่างนี้ ขอให้มีลมเสียอย่าง อุณหภูมิจะสูงแค่ไหนก็ไม่ยี่เจ้ย ดูแต่เจ้าแมวเหมียวการ์ฟิลด์ แขกไม่ได้รับเชิญประจำบ้านผมนั่นไง (ชื่อการ์ฟิลด์นี้ลูกสาวของเพื่อนที่เป็นหมออยู่ที่ศิริราชมาเห็นเข้าแล้วตั้งให้) แดดร้อนเปรี้ยงๆมันยังไปนั่งจุมปุ๊กบนเสารั้วหน้าบ้านอาบแดดอาบลมเฉยเลย

     อากาศร้อนเนี่ยมันก็ดีอย่างนะ ดอกไม้ที่ปลูกทิ้งๆขว้างๆหน้าบ้านมันขยันออกดอกแข่งกันเสียบยอดระเกะระกะ น่าดูไปอีกแบบ
ผักคึ่นช่าย ผักชี และแมงลัก บนร้าน

     อยู่คนเดียวก็เป็นโอกาสดีที่จะทบทวนทักษะการรอดชีวิตในเรื่องอาหารการกิน ความจริงในตู้เย็นเมียเขาก็ทำข้าวต้มถั่วแช่แข็งไว้เป็นห่อๆให้พร้อมเอามาอุ่นกินได้ทันทีอยู่แล้ว แต่พอจะอุ่นก็พบว่าไมโครเวฟเสีย ต้องเปลี่ยนไปใช้เตาแก้ส ต้องจุดไฟอยู่นานเพราะไม่รู้ว่าการจุดเตาแก้สนี้เขาต้องหมุนเปิดแก้สสองแห่ง นึกในใจว่าเปิดยากเย็นอย่างนี้จะลืมปิดหรือเปล่าเนี่ย พอจุดไฟติด ก็เกิดอยากกินข้าวต้มใส่ไข่ จึงไปเอาไข่มาต่อยก๊อกๆ ปรากฎว่า..ไข่เน่า เพราะมันฟักเป็นตัวเสียแล้ว เนื่องจากไข่นี้ซื้อมาจากฟาร์มของเพื่อนชาวไร่ในมวกเหล็กนี้เองจึงฟักเป็นตัวได้
ผักสลัดที่ถูกทิ้งจนแก่ออกดอกและขมปี๋

     ในที่สุดก็อุ่นข้าวต้มปนถั่วสำเร็จ น่าจะมีผักสดหน่อยนะอาหารจึงจะครบหมู่ คิดได้ก็เดินออกไปหน้าบ้านเก็บผักชีลาว คึ่นช่าย สะหระแหน่ แมงลัก ที่ปลูกทิ้งไว้บนสวนครัวแบบนั่งร้าน แล้วเดินลงเขาไปกะจะไปเก็บผักสลัดที่ปลูกไว้ในแปลงผักนานแล้วไม่เคยได้ลงไปดูเลย ไปถึงปรากฎว่าแปลงผักกลายเป็นแปลงดอกฮอลลี่ฮอคไปเสียแล้ว เปล่า ไม่ใช่ดอกฮอลลี่ฮอคมาขึ้นแทนหรอก แต่ผักสลัดนั่นแหละ มันแก่จนใบเป็นสีม่วงและออกดอกแข่งกับวัชพืช แต่ผมก็เก็บใบแก่ๆนั่นแหละมากิน..ขมปี๋เชียว  ได้ทานอะไรขมๆก็เกิดความคิดจะชงกาแฟดื่ม จึงต้มน้ำด้วยเตา ค้นหากาแฟผงจนเจอ ใส่น้ำร้อนลงไปในแก้วกาแฟ ใส่ผงกาแฟตาม คนๆๆๆ เอ๊ะ ทำไมกาแฟนี้มันจึงคนเท่าไหร่ก็ไม่ละลายสักที มีแต่กากลอยฟ่องเต็มไปหมด หยิบฉลากมาเพ่งพินิจดู โธ่..ลุ้ง กาแฟแบบนี้เขาใช้กับเครื่องชงที่มีแผ่นกรอง เครื่องอย่างว่าที่บ้านนี้ก็มีอยู่หรอก แต่ว่าผมใช้เป็นซะที่ไหนละ เอางี้ก็แล้วกัน ปล่อยทิ้งไว้สักครู่ให้กากมันนอนก้น เอาแก้วกาแฟมาอีกแก้วหนึ่ง เทส่วนที่ไม่มีกากลงไป ก็ได้กาแฟหอมกรุ่นดื่มแล้ว รอดตัวไป

     อิ่มแล้วก็นั่งคิดถึงโปรเจ็คใหม่ คือ "โรงรถ" เพราะภรรยาบ่นอยากได้โรงรถมาตั้งแต่ซื้อรถเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนรถหมดสภาพน่าจะต้องซื้อใหม่ก็ยังไม่ได้ทำโรงรถให้เธอสักที คราวนี้ได้ฤกษ์ทำจริงแล้ว ไหนๆทำแล้วก็อย่าทำแค่โรงรถธรรมดาแบบบ้านๆเลย ทำแบบบ้านหิน (stone hut) ของฝรั่งดีกว่า คิดได้แล้วก็ไปซื้อหินมา หินที่มวกเหล็กนี้ถูกมากเพราะมันเป็นแหล่งหิน ซื้อมาเป็นคันรถราคาไม่กี่พัน ตอนนี้โรงรถของผมก็ยังมีแต่หินกองระเกะระกะอยู่เต็มไปหมด อดใจรออีกสักเดือน ทำออกมาแล้วจะมี look เป็นประการใด ไว้จะถ่ายรูปมาให้ดูนะครับ

     ขออภัย วันนี้ได้แต่เพ้อเจ้อแบบรำพึงของชายแก่ ขอไม่ตอบคำถามหนึ่งวัน

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี