เรื่องไร้สาระช่วงเมาเครื่องบิน และตอบคำถามเล็กๆน้อยๆ
ผมเพิ่งกลับจากไปขับรถเที่ยวตามชนบทของประเทศเช็ค
กลับมาแล้วนอนไม่หลับเพราะสมองยังเมาเครื่องบิน จึงตื่นขึ้นมาตั้งใจว่าจะตอบคำถามท่านผู้อ่านพอให้ง่วงจะได้กลับไปหลับต่อ
เผอิญเหลือบเห็นนาฬิกาของฝากที่ซื้อติดมือมาด้วยจึงขอเวลานอกเล่าเรื่องนาฬิกานี้เป็นการฆ่าเวลาเจ๊ตแล็กก่อน
คือนาฬิกานี้จำลองมาจากของจริงที่เมืองปร๊าก
เรียกว่านาฬิกาดาราศาสตร์ (astronomical clock)
ผมถ่ายรูปของจริงมาให้ดูด้วย มันเป็นนาฬิกาที่มีสามระบบ คือระบบตุ๊กตา ระบบหน้าปัด
และระบบเข็ม
เริ่มกันที่ระบบตัวตุ๊กตาก่อนนะ
มีรูปปั้นตัวจัญไรสี่ตัวอยู่นอกหน้าปัด
ตัวจองหองหลงตัวเองถือกระจก ตัวโลภถือถุงเงิน (แต่หน้าตาไม่ยักเหมือนยิว)
ตัวความตายเป็นโครงกระดูก และตัวคนเถื่อนนอกรีตหน้าตาเหมือนพวกเติร์ก
พอถึงเวลาครบชั่วโมง
เจ้าตัวความตายก็จะสั่นกระดิ่งและพลิกคว่ำนาฬิกาทรายในมือลงจากบนเป็นล่าง
แล้วตุ๊กตาสิบสองสาวกของเยซูก็จะเดินขบวนที่ระเบียงเหนือหน้าปัด หันมาผงกหัวให้ผู้ชมที่หน้าต่างทีละคน
แล้วไก่ที่อยู่บนยอดนาฬิกาก็จะขันเอ๊กอีเอ๊กหนึ่งครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี ผู้คนเป็นหมื่นที่มามุงดูก็จะพอใจแล้วแยกย้ายกันไป
แต่ผมยังเพ่งมองนาฬิกานี้เพื่อพิจารณาระบบอื่นต่อไปอีก
ระบบที่สองคือระบบหน้าปัด
ซึ่งมีหน้าปัดนาฬิกาที่เป็นอิสระต่อกันสามหน้าปัดดังนี้
หน้าปัดอันแรกมีไว้เพื่อบอกความมืดความสว่าง
ย่านกลางวันก็ทาสีน้ำเงินแบบท้องฟ้า ย่านที่ตะวันตกแล้วมืดสลัวซึ่งทาสีน้ำตาล และย่านที่เป็นกลางคืนมืดสนิทก็ทาสีดำ
พอใกล้รุ่งก็เป็นสีเทา หน้าปัดนี้ไปเชื่อมโยงกับตัวเลขบอกเวลาในสองระบบ
ระบบแรกคือระบบยุโรปโบราณที่หนึ่งวันมี 12 ชั่วโมงนับกันตั้งแต่ตะวันขึ้นถึงตะวันตกเป็นตัวเลขอารบิก
มีเส้นโค้งแบ่งระหว่างชั่วโมงตามจุดบนพื้นของโลกซึ่งกลางวันยาวไม่เท่ากัน ระบบที่สองคือระบบเวลาของโบฮีเมียที่ถือว่าวันหนึ่งมี
24 ชั่วโมง เขียนเป็นตัวเลขโบฮีเมียไว้ที่วงนอกสุดของนาฬิกา
โดยที่ชั่วโมงที่หนึ่งเริ่มนับเมื่อตะวันตกดิน
หน้าปัดอันที่สองแสดงเวลาแบบที่เราคุ้นเคยเป็นอักษรโรมัน
คือก่อนเที่ยง 12 ชั่วโมง หลังเที่ยง 12 ชั่วโมง ไม่มีอะไรพิศดาร
หน้าปัดอันที่สามเป็นหน้าปัดจักรราศี ซึ่งเป็นอะไรที่ถูกใจผมมากที่สุด
คือเป็นหน้าปัดเล็กซ้อนในหน้าปัดใหญ่แต่ว่าจุดศูนย์กลางอยู่คนละที่กัน
ในหน้าปัดจักราศรีนี้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จะวิ่งวนทวนเข็มนาฬิกาไปรอบๆหน้าปัดนี้โดยดวงอาทิตย์วิ่งครบหนึ่งรอบในเวลา
1
ปี ดวงจันทร์วิ่งครบหนึ่งรอบในเวลา 1 เดือน ที่เน็ดขนาดก็คือเข็มบอกตำแหน่งดวงอาทิตย์นั้นยึดโยงอยู่กับเข็มบอกตำแหน่งชั่วโมง
เพื่อให้ดวงอาทิตย์ดวงเดียวกันนั้นนอกจากจะวิ่งทวนเข็มนาฬิกาไปบนหน้าปัดจักราศรีอย่างถูกต้องแล้ว
ยังต้องวิ่งตามเข็มนาฬิกาไปบนหน้าปัดใหญ่เพื่อบอกความมืดความสว่างได้อย่างถูกต้องอีกด้วย
คราวนี้ก็มาถึงระบบเข็ม
นาฬิกานี้มีเข็มอยู่สี่อัน
เข็มอันที่หนึ่งใช้บอกชั่วโมง มีปลายเป็นนิ้วมือชี้ไปที่ตัวเลขโรมัน
หมดชั่วโมงหนึ่งก็กระดิกทีหนึ่ง ส่วนเข็มนาทีหรือวินาทีนั้นไม่มี เข้าใจว่าคนโบราณเขาคงไม่บ้ารีบร้อนกันเป็นนาทีดอก
เข็มอันที่สองเป็นเข็มพาดวงจันทร์วิ่งทวนเข็มนาฬิกาไปตามจักรราศรี
หนึ่งเดือนก็วนได้หนึ่งรอบ
เข็มอันที่สามเป็นเข็มพาดวงอาทิตย์วิ่งทวนเข็มนาฬิกาไปตามจักรราศีเช่นกัน
แต่ด้วยอัตราที่ช้ากว่าดวงจันทร์ คือกว่าจะวนได้หนึ่งรอบก็หนึ่งปีพอดี ตัวดวงอาทิตย์นี้นอกจากจะวิ่งวนบนหน้าปัดจักรราศรีแล้ว
ยังถูกยึดให้สไลด์ไปมาบนเข็มบอกชั่วโมงด้วย ทำให้มองเห็นได้ทุกชั่วโมงว่า ณ
ขณะนี้ดวงอาทิตย์อยู่ในย่านกลางวันหรือกลางคืน
คือพูดง่ายๆว่ามองหน้าปัดชั่วโมงจะเห็นดวงอาทิตย์วิ่งวนในทิศทางตามเข็มนาฬิกา
แต่ถ้ามองหน้าปัดจักราศรีจะเห็นดวงอาทิตย์วิ่งวนในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
เท่..ซะไม่มี ที่ทำอย่างนี้ได้ก็เพราะหน้าปัดจักราศีนั้นไม่ได้อยู่นิ่ง
มันขยับตัวเองในทิศทางตามเข็มนาฬิกาด้วยอัตราที่เร็วกว่าเข็มชั่วโมง
ซึ่งถ้าไม่สังเกตให้ดีจะไม่เห็น
ยังมีเข็มอันที่สี่เป็นเข็มที่มีดาวทองติดอยู่ดวงหนึ่ง
เข็มนี้ติดบนหน้าปัดจักราศี ทำให้ดาวทองนี้หมุนไปรอบหน้าปัดชั่วโมงอย่างช้าๆ
กว่าจะวิ่งวนครบหนึ่งรอบก็ใช้เวลาเกือบปี แต่ไม่ถึงปี ผมเข้าใจว่าเข็มดาวทองนี้คงจะใช้บอกเวลาเมื่อโลกหมุนรอบตัวเองโดยเทียบกับดาวที่อยู่ไกล
(sidereal
time) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าจะสั้นกว่าหนึ่งปีที่โลกหมุนรอบตัวเองโดยเทียบกับดวงอาทิตย์
กลไกความแตกต่างอันนี้ผมขออนุญาตไม่พูดถึงนะ กลัวท่านผู้อ่านจะปวดหัวเปล่าๆ
ผมยืนเฝ้ามองนาฬิกาตอนที่เปลี่ยนชั่วโมง
แล้วก็รำพันในใจอยู่คนเดียวว่าคนคิดนาฬิกานี้ไม่ใช่ขี้ไก่นะเนี่ย
แนวคิดที่เอาเวลาเป็นชั่วโมง มาผูกกับความมืดความสว่าง ตำแหน่งของดวงอาทิตย์
ดวงจันทร์ และจักราศีนั้น ไม่ได้ทำให้ผมทึ่ง
แต่ที่ทำให้ผมทึ่งก็คือการคิดฟันเฟืองที่จะเชื่อมระหว่างเข็มต่างๆและหน้าปัดทั้งสามแผ่นเข้าด้วยกัน
โดยให้มันเดินแล้วบอกเวลา และตำแหน่งดวงอาทิตย์ ดวงดาว
และจักราศีได้ถูกต้องตลอดปี ลองคิดเล่นๆผมเดาเอาว่าหน้าปัดสิบสองราศรีจะต้องมีเฟืองประมาณ
366
หยัก แล้วเอาไปขบกับเฟืองหมุนเข็มดวงอาทิตย์ซึ่งมี 12 หยัก และเข็มหมุนดวงจันทร์ซึ่งมี 28 หยัก
โดยทั้งหมดนี้ขบกับเฟืองหมุนเข็มชั่วโมงซึ่งมี 24 หยัก โดยเข็มหมุนดวงอาทิตย์นั้นผูกไว้กับเข็มหมุนชั่วโมงแบบชักเย่อกันให้ด้านหนึ่งให้ดวงอาทิตย์วิ่งทุกชั่วโมงบนหน้าปัดชั่วโมง
อีกด้านหนึ่งวิ่งทุกเดือนบนหน้าปัดจักราศี อันนี้ผมพอเข้าใจ แต่ว่าทำอย่างไรจึงจะให้ดวงอาทิตย์วิ่งไปบนเส้นแบ่งช่องบอกตำแหน่งของดวงอาทิตย์บนหน้าปัดจักราศีซึ่งตีไว้เป็นเส้นเอียงแต่องศาไม่เท่ากันได้แบบพอดีๆ
อันนี้คิดได้อย่างไรผมก็ “งืด” เหมือนกัน หมายความว่าการหาจุดบนหน้าปัดจักราศรีที่จะมาเสียบเข้ารูศูนย์กลางของจุดหมุนเข็มชั่วโมงนั้น
ผมคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าทำได้อย่างไร ถ้าไม่มีสูตรคำนวณเป็นพิเศษก็คงจะต้องลองผิดลองถูกกันนับครั้งไม่ถ้วน
เพื่อให้หน้าปัดจักราศีที่หมุนแบบเพลาลูกเบี้ยวมีจุดหมุนพอดีเป๊ะให้ดวงอาทิตย์วิ่งวนตามขอบหน้าปัดจักราศีได้พอดีราศรีละเดือน
น่าเสียดายที่เวลาในชีวิตผมเหลืออยู่ไม่มาก ไม่งั้นผมจะลองนั่งทำนาฬิกาแบบนี้ขึ้นมาดูให้เห็นดำเห็นแดงด้วยตัวเองสักหนึ่งเรือน
นอกจากเรื่องนาฬิกาแล้วผมขอคุยนอกเรื่องถึงเรื่องศิลปินของเชคอีกสักหน่อยนะ
ผมแวะไปดูผลงานของศิลปิน
อาร์ นูโว (Art Nouveau) ซึ่งเป็นชาวเชคชื่อมูคา (Mucha) คำว่าศิลปะอาร์นูโวนี้หมายถึงศิลปะแบบหนึ่งที่นิยมกันช่วงปี
1900 ที่ฝรั่งเศส เน้นการใช้เส้นโค้งของวงกลมหรือความพริ้วหรืออ่อนไหวของสิ่งต่างๆในธรรมชาติมาใช้
เช่นชายผ้าพลิ้วปลิวไสว ความโค้งมนของเปลือกหอย ลวดลายคดไปคดมาของเถาวัลย์
ความเรียวของใบไม้ รูปทรงกลีบของดอกไม้ สีสันก็เป็นสีจากธรรมชาติเช่นสีโทนน้ำตาล ส้ม
เหลือง ของใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ส่วนใหญ่เป็นรูปหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มนมตั้งเต้าแบบนางกินรี ผมเอารูปแนวนี้มาลงให้ดูหนึ่งรูปด้วย
แต่ที่สะใจผมมากกว่าผลงานศิลปะมีฝีมือคือผลงานศิลปินจิ๊กโก๋ไร้อันดับชื่อเดวิด
เซอร์เน่ (David Cerny) ผมไปเห็นปฏิมากรรมของเขาตั้งอยู่ที่หน้า
ฟรานซ์ กัฟกา มิวเซียม (Franz Kafka museum)
ใกล้
กับสะพานชาร์ลส์ เป็นรูปปั้นเปลือยกายของนักการเมืองใหญ่สองคนกำลังกำจู๋คนละดุ้นเบ้อเร่อฉี่รดประเทศของตัวเองอยู่โจ๊กๆๆ
แถมมีการแกว่งจู๋ไปมาให้ฉี่รดไปทางนั้นทีทางนี้ที นับเป็นศิลปะที่ผมเห็นแล้วเข้าถึงได้ทันที
ผมเอารูปมาลงให้ท่านดูเองด้วย
จะได้ไม่หาว่าผมโม้ เห็นแล้วผมอยากเอาประติมากรรมชิ้นนี้มาตั้งเมืองไทยแล้วเปลี่ยนแผนที่ที่เขาเยี่ยวรดกันเป็นแผนที่ประเทศไทยจริงๆ
คงจะถูกสั่งทุบทิ้งในชั่วไม่ทันข้ามวันแน่นอน
โอเค. นอกเรื่องไปจนพอใจแล้ว ช่วงที่ยังนอนไม่หลับนี้มาตอบคำถามเล็กๆของท่านผู้อ่านสักสองสามท่านนะ
.........................................................
จดหมายฉบับที่ 1.
สวัสดีครับ ผม ดร. ... ครับ
อยากเรียนปรึกษาอาจารย์เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไวรัส HPV>>> Gardasil ว่าคนปกติที่ไม่พบเชื้อสามารถฉีดได้หรือไม่ครับ และจะมีอาการข้างเคียงหรือไม่ครับ และจะสามารถหาซื้อได้จากที่ไหนครับ หรือมีแนะนำตัวอื่นมั้ยครับ พอดีมีคนเขาไปพลาดกับนักศึกษาที่ขายบริการแต่ถุงยากแตก แต่ผมพาไปตรวจที่ รพ เอกชนแล้วครับ ผลปกติครับ
ขอบคุณครับ
อยากเรียนปรึกษาอาจารย์เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไวรัส HPV>>> Gardasil ว่าคนปกติที่ไม่พบเชื้อสามารถฉีดได้หรือไม่ครับ และจะมีอาการข้างเคียงหรือไม่ครับ และจะสามารถหาซื้อได้จากที่ไหนครับ หรือมีแนะนำตัวอื่นมั้ยครับ พอดีมีคนเขาไปพลาดกับนักศึกษาที่ขายบริการแต่ถุงยากแตก แต่ผมพาไปตรวจที่ รพ เอกชนแล้วครับ ผลปกติครับ
ขอบคุณครับ
ตอบครับ
1. ฉีดได้ครับ วงการแพทย์ยังไม่มีข้อมูลการสร้างภูมิคุ้มกัน HPV ในผู้ชาย ทั้งไม่ทราบว่ามีระยะก่อนสร้างภูมิคุ้มกัน
(window period) ของเชื้อนี้นานเท่าไร และยังไม่มีข้อมูลเรื่องประสิทธิผลของวัคซีน
HPV ช่วงหลังรับเชื้อแต่ร่างกายยังไม่ทันได้สร้างภูมิคุ้มกัน
มีแต่ข้อมูลว่าฉีดวัคซีนนี้ในผู้ชายแบบรูดมหาราชโดยไม่สนว่าเคยได้รับเชื้อมาก่อนหรือไม่ได้มาเมื่อใด
แล้วพบผลในบั้นปลายว่าลดอุบัติการณ์ของมะเร็งที่เกี่ยวของกับเชื้อนี้ในผู้ชายได้หลายชนิด
ดังนั้น ฉีดไปเถอะครับ อย่าคิดมาก
2. อาการข้างเคียงเท่าที่มีรายงานไว้ไม่ว่าในผู้ชายหรือหญิงมีน้อยมาก
เช่น ปวดบวมที่ฉีด แต่น้อยจนตัดทิ้งได้ครับ ที่จะเป็นอะไรไปมากมายกว่านั้นไม่มี
เป็นวัคซีนที่มี safety profile ดีมาก
3. หาซื้อเองไม่ได้ครับ ต้องให้หมอสั่ง ถ้าจะให้ง่ายก็ไปรพ.เอกชนที่ไหนสักแห่งแล้วแจ้งความจำนงว่ามาฉีดวัคซีนอย่างเดียวเลย
เขาก็จะฉีดให้ โดยไม่ต้องถามไม่ต้องตรวจอะไรทั้งสิ้น
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
.........................................
จดหมายฉบับที่ 2
เรียนคุณหมอสันต์
ดิฉันอายุ 25 ปี กำลังตั้งครรภ์บุตรคนแรก อายุครรภ์ได้ 7 สัปดาห์แล้วค่ะ อยากรบกวนถามคุณหมอเกี่ยวกับการไปยืดผมของคนท้องว่าสามารถทำได้หรือไม่ค่ะ
ดิฉันอายุ 25 ปี กำลังตั้งครรภ์บุตรคนแรก อายุครรภ์ได้ 7 สัปดาห์แล้วค่ะ อยากรบกวนถามคุณหมอเกี่ยวกับการไปยืดผมของคนท้องว่าสามารถทำได้หรือไม่ค่ะ
ตอบครับ
ได้สิครับ ถ้าคุณมีเงินค่าจ้าง
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
................................................................
จดหมายฉบับที่ 3
เรียนถามคุณหมอครับ
ผมเป็นโรคไตและความดันสูงด้วยครับ รอเจาะชิ้นเนื้อไตอยู่คุมอาหารไม่กินเค็ม อายุ 27 ปี สูง 165 น้ำหนัก
ตอนตรวจครั้งแรก76 กก.ครั้งหลังลดเหลือ70 กก. ผลเลือด 23/9/56 Cr2.08 หมอบอกไตทำงานอยู่ 48
ครั้งล่าสุดผล 11/10/56 Cr2.60 BUN64 ความดัน129/69
ลดจากเดิมกินยาลดความดันด้วยครับแต่หมอบอกว่าไตแย่ลงเหลือ 32
เองในเวลาแค่ไม่ถึงเดือนอาหารผมก็คุมเค็มก็งดแต่ทำไมไตยังแย่ลงอีกอ่ะครับเยอะและเร็วด้วยเครียดมากครับ
ยาที่กินตอนแรกมี แก้อักเสบเม็ดเล็กชมพู12เม็ด ลดความดัน 1
เม็ด แคลเซี่ยม 1 เม็ด ขับปัสสาวะ 1 เม็ด เช้าหลังอาหาร แต่ตอนนี้หมอให้งดยาขับปัสสาวะแล้วเพราะขาไม่บวมแล้ว
หมดนัดอีกที่11/11/56 ผมควรบอกหมอว่าไงดีครับเพื่อให้หมอรีบเจาะและวินิฉัยให้แน่ชัดเพราะผมลงชี่อเจาะไตไว้ตั้งแต่ยังทำงาน
48 ตอนนี้เหลือ32แล้วยังไม่ได้คิวเจาะเลย
ใช้ประกันสังคมครับ และตอนนี้ที่บ้านผมจะให้ผมกินน้ำต้มจากหญ้าไผ่น้ำเค้าบอกว่ามีคนเป็นกินแล้วหายไม่ต้องฟอกไตแต่ผมไม่กล้ากันครับกลัวหนักกว่าเก่าคุยกันที่ไรทะเลาะกันทุกที่ครับ
เค้าว่าผมดื้อถ้าผมกินจะเป็นไรไหมครับ ไม่ยากฟอกไตเลยครับเห็นแล้วกลัวมาก
แถมอายุผมก็ยังน้อยยังไม่ได้ทำอะไรอีกเยอะท้อครับ กรุณาตอบด้วยนะครับ
ขอบคุณ
คุณหมอล่วงหน้าครับ
ตอบครับ
1. ผมเห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์ที่หมอเขาจะตัดตัวอย่างเนื้อไตหาสาเหตุที่ไตเสื่อมเร็ว
ส่วนที่ว่าเขาจับรอคิวนั้น ขอให้เข้าใจว่าชีวิต ก็คือการรอคิว เนี่ย
มันเป็นซะยังงี้แหละค่า ท่านสารวัตร ในกรณีของคุณนี้ ผมเข้าใจว่าเหตุผลที่หมอนัดห่างออกไปก็เพื่อประเมินผลของการใช้ยาสะเตียรอยด์ที่คุณกำลังกินอยู่ก่อน หมายความว่าถ้ากินยาแล้วดีวันดีคืนเขาก็อาจจะไม่ตัดชิ้นเนื้อไตก็ได้ ดังนั้นอย่าไปเร่งหมอเขาเลย
2. ในเรื่องการปฏิบัติตัวเพื่อไม่ให้ไตเสื่อมเร็ว
ผมเคยตอบคำถามของคนไข้ท่านหนึ่งไปเมื่อไม่นานมานี้ ไม่น่าจะเกิน 2
เดือน คุณหาอ่านดูได้
3.
เรื่องจะทดลองกินหญ้าแห้งสมุนไพรไทยอะไรของคุณนั้น
ผมแนะนำว่าอยากจะลองก็ลองได้ครับ เพราะในระยะนี้ยังไม่มีการคั่งของสารพิษเช่นโปตัสเซียมหรือฟอสเฟต พืชสมุนไพรไทยที่บางชนิดแม้จะมีโปตัสเซียมหรือฟอสเฟตสูงก็จะยังไม่ก่อผลเสียอะไรหรอกครับ แต่ว่าถ้าเล่าให้หมอไตฟังเขาจะโกรธเป็นไฟแล้วด่าคุณเช็ดผมไม่รู้ด้วยนะ
เพราะหมอไตส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้คนไข้กินอะไรทั้งสิ้นนอกจากยาของตัวเองเท่านั้น
จะว่าเขาก็ไม่ได้ เพราะในด้านหนึ่งมันมีหลักฐานว่าสมุนไพรจีนบางชนิดเป็นต้นเหตุให้เกิดโรคไตวายแบบเฉียบพลัน
แล้วลามกลายเป็นโรคไตเรื้อรัง
แล้วในอีกด้านหนึ่ง มันยังไม่เคยมีหลักฐานแม้แต่กระผีกริ้น ว่ามีหญ้าแห้งหรือสมุนไพรใดๆจากที่ไหนในโลกนี้จะมารักษาโรคไตเรื้อรังได้
หมอไตเขาจึงเป็นฟืนเป็นไฟทุกครั้งที่คนไข้จะไปกินหญ้าแห้ง แต่ว่าผมไม่ได้เคร่งครัดขนาดนั้น สำหรับผม การแพทย์เราเจริญขึ้นมาได้ก็เพราะการลองผิดลองถูก
หมอจำนวนหนึ่งตายไปเพราะการเอาตัวเองเป็นหนูลองวิธีการรักษาที่ตัวเองคิดขึ้น ข้อมูลที่บอกวงการแพทย์ว่าการใช้ไฟฟ้าช็อคคนไข้หัวใจหยุดเต้นเป็นวิธีที่ปลอดภัย
ได้มาจากบาทหลวงคนหนึ่งทดลองเอาสายไฟฟ้ายัดก้นตัวเองเส้นหนึ่ง ยัดปากตัวเองอีกเส้นหนึ่ง
แล้วลองช็อคตัวเองดู เมื่อเขาไม่ตาย วงการแพทย์จึงรู้ว่าการช็อคไฟฟ้าปลอดภัย ดังนั้นผมจึงไม่ต่อต้านการลองนั่นลองนี่ของคนไข้
แล้วอีกอย่างหนึ่ง พูดก็พูดเถอะ วิชาแพทย์แผนปัจจุบันเองก็ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก
ยังไม่รู้อะไรอีกแยะ ดังนั้น ใครใคร่ลองอะไรนอกวิชาแพทย์.. ลองเลย ยกเว้นเรื่องที่มีหลักฐานชัดเจนแล้วว่ามีผลเสียมากกว่าผลดี
ในเรื่องพืชสมุนไพรไทยกับโรคไตเรื้อรังนี้ ยังไม่มีข้อมูลแม้แต่ชิ้นเดียวที่เป็นหลักฐานว่าพืชสมุนไพรไทยชนิดใดทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันหรือไตวายเรื้อรัง
ข้อมูลมีอยู่แค่นี้แหละ ที่เหลือคุณไปตัดสินใจเอาเองเถอะนะครับ
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
...................................................
จดหมายฉบับที่ 4.
คุณหมอค่ะ หนูมีปัญหาคือว่าหนูได้้รับการว่าจ้างอุ้้้้มบุญ
แต่มีปัญหาว่ามีเซ็กส์ก่อนใส่ตัวอ่อน 3 วัน เราจจะท้องไหมค่ะ
หมายถึงท้องลูกตัวเองนะค่ะ ไม่ใช่ตัวอ่อนของนานจ้าง
ตอบครับ
คุณไม่ให้ข้อมูลเรื่องประจำเดือนซึ่งจะพอให้ผมคาดเดาเรื่องวันตกไข่อะไรมาเลย
ไม่ให้ข้อมูลการฉีดฮอร์โมนของหมอที่รับจ้างจัดการอุ้มบุญครั้งนี้ด้วยว่าเขาฉีดอะไรให้คุณวันไหน
ดังนั้นผมตอบคำถามของคุณให้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้หรอกครับ
ตอบได้เพียงแต่ว่ามันขึ้นอยู่กับหมอที่รับจ้างบริหารจัดการการอุ้มบุญครั้งนี้ว่าเขาใช้วิธีรอวันตกไขของคุณแล้วค่อยฝังไข่อุ้มบุญ
หรือใช้วิธีฉีดฮอร์โมนเข้าไปเตรียมความพร้อมของโพรงมดลูกล่วงหน้าหลายวัน
ซึ่งมันทำได้ทั้งสองแบบ ถ้าเขาใช้แบบหลังก็ไม่มีปัญหา
เพราะไข่ของคุณจะถูกฮอร์โมนบล็อกไว้ไม่ให้ตก แต่ถ้าหมอเขาใช้แบบแรก ก็มีโอกาสที่หากเป็นช่วงตกไข่พอดี
แล้วแจ๊คพอตไข่ของคุณได้ผสมกับอสุจิของแฟนคุณจริง
แม้ว่ามันจะไม่รบกวนการฝังตัวของไข่อุ้มบุญที่หมอใส่เข้าไปเพราะในเวลาสามวันไข่ของคุณยังเดินทางมาไม่ถึงโพรงมดลูกหรอก
แต่มันมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแฝดแบบไข่หลายใบ
โดยที่หนึ่งในหลายใบนั้นเป็นของคุณเองโดยไม่เกี่ยวกับสัญญาจ้าง
แล้วไม่มีทางรู้ล่วงหน้าด้วยว่าใบไหนเป็นของใครนอกจากจะตรวจ DNA เมื่อเด็กออกมาแล้ว ซึ่งเมืองนอกก็มีการฟ้องร้องแย่งเด็กกันด้วยเหตุนี้อยู่บ่อยๆ
ว่าแต่การรับจ้างอุ้มบุญนี้กฎหมายไทยไม่อนุญาตให้ทำนะครับ
เพราะมันไม่มีช่องไหนของกฎหมายที่จะเปิดให้พ่อแม่เด็กตัวจริงได้เป็นพ่อแม่เด็กตามกฎหมาย
หมอที่รับจ้างทำอุ้มบุญก็แหกกฎของแพทยสภา แต่ช่างเถอะ นั่นไม่ใช่ธุระอะไรของผม ผมมีหน้าที่เขียนบล็อกให้ความรู้สุขภาพของผู้คน
ใครจะแหกหรือจะถ่างกฎเกณฑ์อะไรที่ไหนผมไม่เกี่ยว แหะ..แหะ ขอโทษ
เริ่มง่วงแล้ว
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์