ไม่ใช่ว่ามีรอยตีบที่โคนหลอดเลือดซ้าย (LM stenosis) แล้วจะได้ประโยชน์จากการผ่าตัดบายพาสเสมอไป



เรียนคุณหมอสันต์ครับ

ผม ... ได้สมัครมาเรียนแค้มป์พลิกผันโรค RD37 ซึ่งจะมีปลายเดือนหน้า แต่ผมมีเรื่องด่วนที่ต้องขอคำปรึกษาคุณหมอก่อน เนื่องจากผมอายุ 49 ปี มีอาการเจ็บหน้าอกขณะเล่นกีฬา พอนั่งพักแป๊บหนึ่งแล้วอาการก็หายไป ผมไปตรวจที่รพ. ... (รพ.รัฐบาล) วิ่งสายพานแล้วเขาให้ตรวจ MRI แล้วได้ผลว่าเลือดไม่ไปเลี้ยงหัวใจบางด้านจึงแนะนำให้เข้าคิวรอตรวจสวนหัวใจ ผมทนรอไม่ไหวจึงไปตรวจสวนหัวใจที่รพ. ... (รพ.เอกชน) หมอแนะนำให้ว่าผมมีรอยตีบที่ Left main และแนะนำให้ผมทำผ่าตัดทันที่โดยนัดผ่าตัด bypass ในวันที่ ... นี้ ผมจึงส่งผลตรวจต่างๆมาให้พร้อมนี้เพื่อขอคำแนะนำขั้นต้นจากคุณหมอก่อนว่าผมควรตัดสินใจอย่างไรดีเรื่องการผ่าดัด bypass 

...................................................


ตอบครับ

คุณถามมาประเด็นเดียวคือผ่าตัดบายพาสดี หรือไม่ผ่าดี ผมก็ตอบให้เฉพาะประเด็นนี้นะ

ผมได้นั่งดูผลการตรวจสวนหัวใจของคุณอย่างละเอียดแล้ว ผมให้ความเห็นดังนี้

1. ประเด็นการเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดที่มีรอยตีบอย่างมีนัยสำคัญที่โคนหลอดเลือดข้างซ้าย (LM stenosis) การจะเลือกวิธีรักษาอย่างไรดี มีข้อมูลจากงานวิจัย CASS study ที่ให้คำตอบนี้ได้ ซึ่งงานวิจัยนี้มีผลสรุปว่าในภาพรวมผู้ป่วยที่มีรอยตีบที่โค้นหลอดเลือดซ้าย (LM) อย่างกรณีของคุณนี้ การรักษาแบบผ่าตัดบายพาสจะมีอัตรารอดชีวิตเฉลี่ยระยะยาวที่ดีกว่า (13.3 ปี vs 6.6 ปี) แต่ทั้งนี้ยกเว้นกลุ่มย่อยพิเศษสองกลุ่ม คือกลุ่มผู้มีกล้ามเนื้อหัวใจล่างซ้าย (LV) ปกติ และกลุ่มผู้ไม่มีรอยตีบอย่างสำคัญที่หลอดเลือดข้างขวา (RCA) ซึ่งกรณีใดกรณีหนึ่งในสองกรณีหลังนี้ อัตรารอดชีวิตเฉลี่ยระยะยาวระหว่างผ่ากับไม่ผ่าจะไม่ต่างกัน (14.7 ปีในกลุ่มผ่าตัด กับ 15 ปี ในกลุ่มไม่ผ่าตัด)

2. ในกรณีของคุณนี้ คุณมีรอยตีบอย่างมีนัยสำคัญที่หลอดเลือด LM แน่นอน แม้จะไม่ตีบจนวิกฤติแต่ก็ถือว่าตีบอย่างมีนัยสำคัญ (มากกว่า 50% ของเส้นผ่าศูนย์กลางหลอดเลือด) แต่ขณะเดียวกัน หัวใจของคุณมีการทำงานของหัวใจห้องล่างซ้ายเป็นปกติดี (EF 60%) และหลอดเลือดข้างขวา (RCA) ของคุณไม่มีรอยตีบจนถึงเกือบปลายหลอดเลือด ดังนั้น ในกรณีของคุณนี้มันไปเข้ากลุ่มย่อยพิเศษสองกลุ่มที่อัตราตายด้วยวิธีผ่าตัดกับไม่ผ่าตัดจะไม่ต่างกัน ผมจึงสรุปแนะนำว่าเฉพาะในกรณีของคุณนี้ทางเลือกระหว่างการผ่าตัดบายพาส กับการไม่ผ่าตัดแต่รักษาด้วยยาและการเปลี่ยนวิถีชีวิตแทน มีอัตรารอดชีวิตเฉลี่ยในระยะยาวไม่แตกต่างกัน คุณสามารถเลือกทางใดทางหนึ่งก็ได้เอาแบบที่คุณชอบ ทั้งนี้คุณต้องเป็นคนเลือกเองครับ ผมช่วยได้แค่ให้ข้อมูลเท่านั้น

3. กรณีที่คุณเลือกไม่ผ่าตัด มันอาจจะเป็นการเลือกแบบทดลองไปสัก 1 ปี แล้วดูความรุนแรงของอาการเจ็บหน้าอกไปก่อนก็ได้ โดยในระหว่างกลางทางคุณสามารถเปลี่ยนใจไปใช้วิธีผ่าตัดได้ทุกเมื่อหากคุณต้องการ  

4. ประเด็นสุขภาพในภาพรวม ผมดูผลการตรวจทุกอย่างที่คุณส่งมาแล้ว คุณป่วยเป็นโรคเรื้อรังหลายโรคในคราวเดียวกันตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งโรคอ้วน โรคความดันสูง โรคเบาหวาน โรคนอนกรน ซึ่งทุกโรคล้วนสัมพันธ์กับการมีอัตรารอดชีวิตเฉลี่ยที่สั้นลงทั้งสิ้น 

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเลือกรักษาระยะสั้นเฉพาะหน้านี้แบบผ่าตัดบายพาสหรือไม่ผ่าตัดบายพาสก็ตาม แต่คุณก็ยังจำเป็นต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างขนาดใหญ่ (อาหาร ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก จัดการความเครียด) จึงจะลดหรือเลิกการใช้ยา และจึงพลิกผันโรคให้อัตราตายกลับมาใกล้เคียงปกติได้ เพราะอย่าลืมว่าการผ่าตัดบายพาสไม่ได้รักษาโรคให้หาย แค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าชั่วคราวให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้พอเท่านั้น แต่โรคซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้หลอดเลือดตีบจนมีอาการเจ็บหน้าอกนั้นจะยังคงดำเนินของมันต่อไป ดุ่ย ดุ่ย ดุ่ย เว้นเสียแต่คุณจะเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิงเท่านั้นจึงจะพลิกผันการเดินหน้าของโรคได้

นพ. สันต์ ใจยอดศิลป์

บรรณานุกรม

1. Caracciolo EA, Davis KB, Sopko G, Kaiser GC, Corley SD, Schaff H, Taylor HA, Chaitman BR. Comparison of surgical and medical group survival in patients with left main coronary artery disease. Long-term CASS experience. Circulation. 1995 May 1;91(9):2325-34. doi: 10.1161/01.cir.91.9.2325. PMID: 7729018.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

ทะเลาะกันเรื่องฝุ่น PM 2.5 บ้าจี้ เพ้อเจ้อ หรือว่าไม่รับผิดชอบ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

แจ้งข่าวด่วน หมอสันต์ตัวปลอมกำลังระบาดหนัก

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

เสพย์ติดหนังโป๊และการช่วยตัวเอง (masturbation)

หมอสันต์สวัสดีปีใหม่ 2568 / 2025

เลิกเสียทีได้ไหม ชีวิตที่ต้องมีอะไรมาจ่อคิวต่อรอให้ทำอยู่ตลอดเวลา

ไปเที่ยวเมืองจีนขึ้นที่สูงแล้วกลับมาป่วยยาว (โรค HAPE)