ทุกประเด็นเกี่ยวกับโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ (UC)
![]() |
หมอสันต์ไปเที่ยวงาน ชมศิลปินใหญ่วาดรูปตึกเก่าที่เยาวราช ตั้งแต่เริ่มต้นกระดาษขาวๆจนจบ ใน 30 นาที เชื่อหรือไม่ |
เนื่องจากมีคำถามเรื่องการรักษาโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ (Ulcerative Colitis) ค้างอยู่สองสามฉบับ ผมจึงขอรวบตอบเสียคราวเดียว
โรคลำไส้อักเสบ (Inflammatory Bowel Disease - IBD) เป็นโรคไม่ทราบสาเหตุที่มีการอักเสบเรื้อรังขึ้นในลำไส้ กรณีที่เกิดกับลำไส้เล็กเรียกว่า Chron's Disease กรณีที่เกิดกับลำไส้ใหญ่เรียกว่า Ulcerative Colitis (UC)
ทั้งนี้ขอย้ำว่าไม่เกี่ยวกับโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome - IBS) ซึ่งชาวบ้านชอบเรียกแบบไม่ค่อยตรงนักว่า "โรคประสาทลงลำไส้" นั่นเป็นอีกโรคหนึ่งต่างหากที่มีอาการคล้ายกันแต่ไม่มีการอักเสบของเยื่อบุลำไส้แต่อย่างใด
หลักฐานวิทยาศาสตร์เรื่องอาหารพืชเป็นหลัก
ข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่างอาหารพืชเป็นหลักกับโรคลำไส้อักเสบยังไม่ชัดเจนนัก ด้านหนึ่งงานวิจัยเชิงระบาดวิทยาในเด็ก [1] และผู้ใหญ่ [2-3] พบว่าการกินพืชผักผลไม้น้อยสัมพันธ์กับการเป็นโรคลำไส้อักเสบมากขึ้น
อีกงานวิจัยหนึ่งซึ่งศึกษาเฉพาะคนที่ส่องตรวจลำไส้ใหญ่พบว่าคนกินผักผลไม้มากตรวจพบความผิดปกติของลำไส้ใหญ่น้อยกว่าคนกินผักผลไม้น้อย [4]
อีกงานวิจัยหนึ่งทำวิจัยในผู้ป่วยที่โรคสงบแล้วโดยเก็บข้อมูลทางอินเตอร์เน็ทแบบไปข้างหน้า [5] พบว่าผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มกินผักผลไม้มากสุดความเสี่ยงการเป็นโรคจะลดลงมากกว่ากลุ่มกินเนื้อสัตว์มากถึงประมาณ 50%
อย่างไรก็ตาม กากที่ได้จากผักผลไม้ตามธรรมชาตินี้ไม่อาจทดแทนได้โดยกากที่ผลิตขายเป็นอาหารเสริม เพราะงานวิจัยใช้กากแบบอาหารเสริม (inulin) พบว่ากลับทำให้มีอาการของลำไส้อักเสบมากขึ้น [6]
ในอีกด้านหนึ่ง งานวิจัยขนาดใหญ่เพื่อติดตามดูแบบไปข้างหน้าชื่อ EPIC study [7] กลับไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างอาหารแบบใดแบบหนึ่งกับการเป็นโรคลำไส้อักเสบแต่อย่างใด
และมีอีกงานวิจัยหนึ่งที่ทำการสุ่มตัวอย่างแบ่งกลุ่มผู้ป่วยให้กินอาหารกากสูงน้ำตาลต่ำเทียบกับอาหารปกติทำวิจัยอยู่นานสองปีก็พบว่าไม่มีผลต่อโรคแต่อย่างใด[8]
หมอสันต์ชวนให้ผู้ป่วยทำการวิจัยกับตัวเอง
กล่าวโดยสรุป ความสัมพันธ์ระหว่างอาหารกับโรคลำไส้อักเสบยังไม่สามารถสรุปให้ชัดเจนได้ว่าอาหารแบบไหนทำให้โรคเป็นมากขึ้นหรือน้อยลง ผู้ป่วยจึงควรทำการศึกษาวิจัยกับตัวเอง โดยการทำตารางบันทึกการกินอาหารกับอาการที่เกิดขึ้น (food journal) แล้วสรุปไว้ใช้สำหรับตนเองว่าอาหารแบบไหนทำให้อาการของโรคลดลง
โปรไบโอติกกับโรคลำไส้อักเสบ
มีหลักฐานอยู่บ้างพอสมควรว่าอาหารหมักที่ให้จุลินทรีย์ตัวเป็นๆ (probiotic) ทำให้โรคลำไส้อักเสบดีขึ้น เช่นงานวิจัยหนึ่ง [9] แบ่งผู้ป่วยจำนวน 327 คนออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งใช้โปรไบโอติก (E coli Nissle 1917) 200 มก/วัน อีกกลุ่มหนึ่งให้กินยามาตรฐาน mesalazine 500 mg วันละสามครั้ง ทำวิจัยอยู่ 1 ปี พบว่าทั้งสองกลุ่มมีอาการของโรคดีขึ้นเท่าๆกัน
อีกงานวิจัยหนึ่ง [10] ทำวิจัยแบบเมตาอานาไลซีสโดยเอางานวิจัยสุ่มตัวอย่าง 14 งาน (ผู้ป่วย 865 คน) มายำรวมกัน งานวิจัยทั้งหมดเฉลี่ยทำนาน 1 ปี แล้วรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ผลใหม่พบว่าอาหารโปรไบโอติกลดอาการลำไส้อักเสบได้ดีกว่ากลุ่มกินยาหลอก ไม่ว่าจะให้โปรไบโอติกร่วมหรือไม่ให้ร่วมกับยา 5-ASA ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ในภาพใหญ่หลักฐานในการใช้โปรไบโอติกรักษาโรคลำไส้อักเสบยังมีน้อย รู้แต่ว่ามีความปลอดภัย ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้มากพอเพียงที่จะให้ผู้ป่วยใช้อาหารโปรไบโอติกทดลองกับตัวเองผ่านการจดบันทึกแบบ food journal
คำแนะนำขององค์กรลำไส้อักเสบนานาชาติ (IOSIBD)[11]
คำแนะนำต่อไปนี้ถึงจะเป็นคำแนะนำขององค์กร แต่ก็เป็นแค่ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ (expert opinions) ไม่ใช่ตัวหลักฐานวิทยาศาสตร์ ท่านจึงต้องฟังหูไว้หู คำแนะนำมีว่า
(1) ควรเพิ่มการกินผักผลไม้ให้มาก ยกเว้นกรณีเป็นโรคถึงขั้นมีพังผืดทำให้ลำไส้ตีบ (stricture) จึงจะลดการกินกากลง
(2) ควรลดการกินเนื้อของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (red meat) และเนื้อที่ผ่านการปรับแต่งถนอม (processed meat เช่น ไส้กรอก เบคอน แฮม)
(3) ควรลดการกินไขมันอิ่มตัว นม และไขมันทรานส์
(4) ควรเพิ่มการกินไขมันโอเมก้า 3 จากอาหารธรรมชาติเช่นอาหารทะเล แฟลกซีด วอลนัท มากขึ้น แต่ไม่ควรกินในรูปแบบของอาหารเสริมที่ผลิตเชิงอุตสาหกรรม
(5) ควรลดการกินวัตถุปรุงแต่งอาหารเชิงอุตสาหกรรม เช่น maltodextrin และสารทดแทนความหวานต่างๆ
(6) ควรลดการกินสารสร้างความหนืดในอาหารเชิงอุตสาหกรรม เช่น carboxymethylcellulose และ polysorbate-80
(7) ควรลดการกินสารแต่งอาหาร carrageenan (ในอาหารสำเร็จรูปเชิงอุตสาหกรรมจำพวกนม)
(8) ควรลดการกินสารสร้างความขาวให้อาหารจำพวก titanium dioxide และ sulfites
(9) ไม่มีคำแนะนำ (ว่าจะห้ามหรือไม่ห้าม) เรื่องกลูเต็น แป้งสาลี แป้งขัดขาว น้ำตาล และแอลกอฮอล์
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. D’Souza S, Levy E, Mack D, et al. Dietary patterns and risk for Crohn’s disease in children. Inflamm Bowel Dis 2008; 14:367–373.
2. Ananthakrishnan AN, Khalili H, Konijeti GG, et al. A prospective study of long-term intake of dietary fiber and risk of Crohn’s disease and ulcerative colitis. Gastroenterology 2013; 145:970–977.
3. Thornton JR, Emmett PM, Heaton KW. Diet and Crohn’s disease: characteristics of the pre-illness diet. Br Med J 1979; 2:762–764.
4. Brotherton CS, Martin CA, Long MD, et al. Avoidance of fiber is associated with greater risk of Crohn’s disease flare in a 6- month period. Clin Gastroenterol Hepatol 2016;14:1130–1136. 10.
5. Ritchie JK, Wadsworth J, Lennard-Jones JE, et al. Controlled multicentre therapeutic trial of an unrefined carbohydrate, fibre rich diet in Crohn’s disease. Br Med J (Clin Res Ed) 1987; 295:517–520.
6. Benjamin JL, Hedin CR, Koutsoumpas A, et al. Randomised, double-blind, placebo-controlled trial of fructo-oligosaccharides in active Crohn’s disease. Gut 2011;60:923–929.
7. Andersen V, Chan S, Luben R, et al. Fibre intake and the development of inflammatory bowel disease: a European prospective multi-centre cohort study (EPIC-IBD). J Crohns Colitis 2018;12:129–136.
8. Kruis W, Fric P, Pokrotnieks J, Lukás M, Fixa B, Kascák M, Kamm MA, Weismueller J, Beglinger C, Stolte M, Wolff C, Schulze J. Maintaining remission of ulcerative colitis with the probiotic Escherichia coli Nissle 1917 is as effective as with standard mesalazine. Gut. 2004 Nov;53(11):1617-23. doi: 10.1136/gut.2003.037747. PMID: 15479682; PMCID: PMC1774300.
10. Kaur L, Gordon M, Baines PA, Iheozor-Ejiofor Z, Sinopoulou V, Akobeng AK. Probiotics for induction of remission in ulcerative colitis. Cochrane Database Syst Rev. 2020 Mar 4;3(3):CD005573. doi: 10.1002/14651858.CD005573.pub3. PMID: 32128795; PMCID: PMC7059959.
11. Levine A, Rhodes JM, Lindsay JO, Abreu MT, Kamm MA, Gibson PR, Gasche C, Silverberg MS, Mahadevan U, Boneh RS, Wine E, Damas OM, Syme G, Trakman GL, Yao CK, Stockhamer S, Hammami MB, Garces LC, Rogler G, Koutroubakis IE, Ananthakrishnan AN, McKeever L, Lewis JD. Dietary Guidance From the International Organization for the Study of Inflammatory Bowel Diseases. Clin Gastroenterol Hepatol. 2020 May;18(6):1381-1392. doi: 10.1016/j.cgh.2020.01.046. Epub 2020 Feb 15. PMID: 32068150.