สมุนไพรจีนกินแล้วคึกคัก

คุณหมอสันต์ครับ
ผมได้ยาจีนเป็นแคปซูลมีชื่อว่า....... ซึ่งเพื่อนที่ดีกันเขาเอามาให้ มีเลขทะเบียน และบอกชื่อตัวยาจีนที่ใช้ไว้ครบถ้วน เช่นเขากวางอ่อนอะไรอย่างนั้นเป็นต้น แพ็คในกล่องอย่างดี แต่ไม่มี อ.ย.ไทย ยานี้ผมทานแล้วทำให้คึกคักในเรื่องเซ็กซ์ดีมาก คึกคักนี่ไม่ใช่เฉพาะตอนที่จะออกศึกนะครับ มันทำให้คึกคักกระชุ่มกระชวยทั้งวัน ผมจึงตั้งใจว่าจะใช้เป็นประจำวันละเม็ด แต่ก็เกรงว่ามันจะมีผลเสียหรือข้อควรระวังอะไรหรือเปล่า ขอคำแนะนำด้วยครับ

....................................

ตอบครับ

ขึ้นชื่อว่ายาสมุนไพร ไม่ว่าจะของไทยหรือของจีน ข้อมูลทางการแพทย์ที่มีอยู่ตอนนี้มีข้อพึงระวังอยู่สามประการคือ

1. มักมี โลหะหนักปนเปื้อน บางตำหรับตั้งใจใช้โลหะหนักเช่นสารหนู (Arsenic) เป็นตัวยาออกฤทธิ์หลักเลยหละ แต่บางตำหรับมันก็ปนเปื้อนกับวัตถุดิบที่ใช้มาโดยไม่ได้ตั้งใจ สมุนไพรที่มีตรา อ.ย. ไทยมีความปลอดภัยจากโลหะหนักนี้ แต่สมุนไพรที่ไม่มีตรา อ.ย. ไทย ไม่ปลอดภัย ต้องเสี่ยงเอาเอง ในกรณีที่ใช้สมุนไพรต่อเนื่อง โลหะหนักนี้จะออกฤทธิ์ทำลายอวัยวะสำคัญๆเช่น ไต ตับ ระบบประสาท ไปทีละเล็กทีละน้อยแบบไม่ค่อยรู้ตัว จนพิษสะสมถึงระดับหนึ่งจึงจะเกิดอาการที่ชัดเจนขึ้นมา ซึ่งถึงตอนนั้นอาจจะสายเกินกว่าที่จะรักษาอวัยวะสำคัญให้กลับดีดังเดิมได้

2. มักแอบใส่ผง “ยาฝรั่ง” เข้าไป อย่างเช่นสมุนไพรยาลูกกลอนไทย วงการแพทย์ไทยรู้กันดีว่ามักใส่ผง “สะเตียรอยด์” ซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบันเข้าไป หรือยาบำรุงกำลังทางเพศของจีนที่คุณว่ามานั้น เคยมีคนไข้ท่านหนึ่งเอาตัวอย่างมาให้ผมแล้วรวม 6 แคปซูล ผมๆได้ส่งจำนวนทั้ง 6 แคปซูล (ไม่ได้กั๊กไว้ทานเอง..สาบาน) ไปให้ห้องแล็บของกรมวิทย์ฯตรวจ พบว่าไม่มีโลหะหนักอยู่เลย แต่พบว่ามีตัวยา Tadalafil ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่ใช้ในยาฝรั่งที่ใช้รักษาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวชื่อ Cialis สารตัวนี้ออกฤทธิ์นาน 36 ชั่วโมง (เทียบกับสาร sidelnafil ในยาไวอากร้าซึ่งออกฤทธิ์นานเพียง 4 ชั่วโมง) ประเด็นสำคัญของการใส่ผงยาฝรั่งในยาสมุนไพรคือเราไม่ทราบปริมาณที่ใส่ว่ามากน้อยกี่มิลลิกรัมทำให้ควบคุมพิษลำบาก ธรรมเนียมการแอบใส่ผง “ยาฝรั่ง”นี้ ที่นิยมใส่กันมากอีกอันหนึ่งคือกาแฟลดน้ำหนัก ซึ่งนิยมใส่ผงยา sibultramine ซึ่งเป็นยาลดความอ้วนที่ถูกถอนออกจากตลาดไปแล้วเนื่องจากมีพิษต่อระบบหัวใจหลอดเลือดมากเกินไป แต่กาแฟลดน้ำหนักที่ขายกันอยู่ก็ยังมีการใส่ผงยานี้อยู่ การจะปลอดภัยจากการแอบใส่ผงยาฝรั่งนี้มีวิธีเดียว คือสมุนไพรหรืออาหารนั้นต้องได้รับการรับรองจาก อ.ย. ไทยก่อน จึงจะประกันได้ว่าไม่มีการใส่ผงยาฝรั่งเข้าไป

3. ตัวสมุนไพรเองบางครั้งมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาจริงแต่ไม่ทราบระดับความแรง ยกตัวอย่างเช่นสมุนไพรหญ้าหนวดแมววงการแพทย์ทราบว่ามันออกฤทธิ์ขับปัสสาวะและทำให้ร่างกายสูญเสียโซเดียม แต่ไม่ทราบว่าสารตัวไหนเป็นตัวทำให้ออกฤทธิ์ และที่ปริมาณกี่มิลลิกรัมจึงจะออกฤทธิ์พอดี ทำให้การควบคุมระดับการออกฤทธิ์เพื่อความปลอดภัยทำได้ยาก

ผมเองไม่ได้ต่อต้านสมุนไพรนะครับ แต่หากแม้นเลือกได้ ผมจะเลือกใช้ยาฝรั่งรักษาโรคมากกว่า เพราะข้อมูลในเรื่องขนาด ปริมาณ และบันทึกเรื่องความปลอดภัยชัดเจนดีกว่ากันอย่างเทียบไม่ได้ ปัจจุบันนี้มีมหาวิทยาลัยในเมืองไทยเปิดสอนเรื่องสมุนไพรหรือยาแผนโบราณมากขึ้น ในอนาคตพวกเขาอาจทำวิจัยที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรในคนไข้มากขึ้น ถึงตอนนั้นก็ค่อยเอาข้อมูลมาว่ากัน ในระหว่างนี้ หากคุณประสงค์จะปลุกเซ็กซ์ตัวเอง ผมแนะนำให้คุณไปหาหมอและขอยา Cialis มาทานดีกว่า เพราะยาก็ตัวเดียวกัน แต่ถ้าเป็นยา Cialis หมอเขาจะช่วยดูเรื่องผลข้างเคียงและพิษของยาให้ มีความปลอดภัยต่อคุณได้แน่นอนกว่า

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

ทะเลาะกันเรื่องฝุ่น PM 2.5 บ้าจี้ เพ้อเจ้อ หรือว่าไม่รับผิดชอบ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

แจ้งข่าวด่วน หมอสันต์ตัวปลอมกำลังระบาดหนัก

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

เสพย์ติดหนังโป๊และการช่วยตัวเอง (masturbation)

หมอสันต์สวัสดีปีใหม่ 2568 / 2025

เลิกเสียทีได้ไหม ชีวิตที่ต้องมีอะไรมาจ่อคิวต่อรอให้ทำอยู่ตลอดเวลา

ไปเที่ยวเมืองจีนขึ้นที่สูงแล้วกลับมาป่วยยาว (โรค HAPE)