จะแต่งงานมีลูก ส่งตรวจผลคัดกรองทาลาสซีเมียมาให้ดูแค่ครึ่งเดียว

อยากปรึกษาเรื่องการมีลูกพอดีไปตรวจธารัสซีเมียมาแล้วผลเป็นแบบนี้ ถ้าจะมีลูกจะมีปัญหาอะไรไหมคะ (ของฝ่ายหญิงหมอแนะนำให้ตรวจ Normal Alpha Thalassemia เพิ่มคะ)

ผลของฝ่ายชาย
Hb type = EA
HbE = 26.9%
HbF = 1.0%
HbA = 72.1%
Interpretation = HbE trait
Osmotic fragility = negative

ผลของฝ่ายหญิง
Hb type = A2A
HbA2 = 3.0%
HbF = 0.4%
HbA = 96.6%
Interpretation = Normal / or alpha thalassemia
Recommendation = PCR for alpha thalassemia
Osmotic fragility = positive

.....................................................................

ตอบครับ

     ถามว่าผลเลือดที่ส่งมาจะมีลูกกันได้ไหม ตอบว่าข้อมูลได้มาแค่ 50% ยังไม่พอที่จะวินิจฉัยอะไรได้ครับ เพราะการตรวจคัดกรองโรคทาลาสซีเมียจะต้องตรวจสองสายคือสายเบต้าและสายอัลฟา แต่ข้อมูลที่คุณให้มาเป็นการตรวจ hemoglobin typing ซึ่งตรวจได้แต่สายเบต้า คุณต้องส่งข้อมูลการตรวจสาย อัลฟา (ซึ่งปกติตรวจด้วยวิธี PCR) ของทั้งคุณและสามีมา ผมจึงจะตอบให้ได้

    อย่างไรก็ตาม เผื่อว่าคุณไม่มีเวลาส่งข้อมูลเพิ่มเติมมา หรือส่งมาแล้วผมไม่มีเวลาอ่าน หรือเผื่อว่าวันพรุ่งนี้โลกแตก วันนี้ไหนๆผมก็หยิบจดหมายของคุณขึ้นมาแล้ว ผมจะตอบแค่ข้อมูลที่มีอยู่ครึ่งเดียวนี้ให้นะ

     ก่อนอื่น มาจะกล่าวบทไป ขอท้าวความถึงภาพใหญ่ของโรคทาลาสซีเมีย คือในเม็ดเลือดของคนเรามีโมเลกุลที่ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนเรียกว่า “ฮีโมโกลบิน” ซึ่งแต่ละตัวมีโมเลกุลย่อยของ “โกลบิน” เป็นเส้นสายยั้วเยี้ยเหมือนขาปูอยู่สองคู่หรือสี่สาย สายยั้วเยี้ยนี้มีอยู่สี่แบบ คือ อัลฟ่า เบต้า แกมม่า เดลต้า การสร้างสายโกลบินนี้ควบคุมด้วยยีน ยีนนี้คนเราได้มาจากพ่อครึ่งหนึ่ง แม่ครึ่งหนึ่ง มาบวกกันเป็นยีนของตัวเอง เขียนคั่นกลางของพ่อกับของแม่ด้วยเครื่องหมาย “ / ” แต่ละข้างที่รับมา ถ้าเป็นยีนสมบูรณ์จะเขียนด้วยอักษรสองตัว เช่น αα/αα

คราวนี้มาดูความหมายของชื่อเรียกฮีโมโกลบินชนิดต่างๆในคำรายงานผลการตรวจของคุณ

     HbA อ่านว่า ฮีโมโกลบินเอ. เขียนเป็นสัญลักษณ์ว่า αα/αα มีความหมายว่าเป็นฮีโมโกลบินที่สมบูรณ์แบบที่เกิดจากร่างกายได้รับยีนสร้างสายอัลฟาแบบสมบูรณ์มาจากทั้งข้างพ่อ 2 สายและข้างแม่ 2 สาย ถือว่าเป็นฮีโมโกลบินแบบปกติที่ทุกคนต้องมีฮีโมโกลบินแบบนี้อย่างน้อย 95% ขึ้นไป

     HbA2 อ่านว่าฮีโมโกลบินเอ.2 เขียนเป็นสัญลักษณ์ว่า αα/δδ มีความหมายว่าร่างกายมีโกลบินสายเบต้าจำนวนไม่เพียงพอต่อการใช้งาน โกลบินสายอัลฟาจึงต้องไปจับคู่กับโกลบินชนิดเดลต้า เกิดเป็นฮีโมโกลบินเอ.2 ซึ่งเป็นสิ่งผิดปกติ คนทั่วไปไม่ควรมีฮีโมโกลบินชนิดนี้เกิน 3.5% ใครที่มีเกินแสดงว่าเกิดความผิดปกติของยีนที่คุมการสร้างโกลบินสายเบต้า หมายความว่ายีนที่รับมาจากพ่อหรือแม่มีส่วนแหว่งไป เช่น -β/ββ ซึ่งมีชื่อเรียกว่าเป็นพาหะเบต้า (beta thalassemia trait)

     HbE อ่านว่าฮีโมโกลบินอี. หมายความว่าพันธุกรรมของคนคนนี้ผลิตโกลบินสายเบต้าที่ผิดปกติแบบพิเศษแบบหนึ่งขึ้นมา ซึ่งเมื่อนำสายเบต้านั้นมาสร้างเป็นฮีโมโกลบินแล้วมันจะกลายเป็นฮีโมโกลบินที่ผิดปกติเป็นพิเศษไม่เหมือนของชาวบ้านเขา เรียกว่าฮีโมโกลบินอี. (HbE) คนปกติเขาจะไม่มีฮีโมโกลบินแบบนี้ ซึ่งมีสองระดับความรุนแรง คือ ระดับเป็นยีนแฝงไม่รุนแรง เรียกชนิดของโรคทาลาสซีเมียที่เกิดขึ้นว่า EA ซึ่งเกิดจากยีนแฝงหรือยีนพันธุ์ทาง (BE/B) กับอีกระดับหนึ่งเป็นระดับรุนแรง เรียกว่าฮีโมโกลบินชนิด EE ซึ่งเกิดจากยีนผิดปกติแบบพันธุ์แท้ (BE/BE) ในคนพันธุ์แท้นี้มักมีฮีโมโกลบินอี.มากระดับเกิน 85% ขึ้นไปเลยทีเดียว

     Osmotic fragility เป็นการตรวจความเปราะของเม็ดเลือด โดยหย่อนเม็ดเลือดลงไปในน้ำเกลือเจือจาง ถ้าเม็ดเลือดแดงแตกเร็วก็เรียกว่าได้ผลตรวจเป็นบวกหมายความว่าเม็ดเลือดแดงเปราะ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากเป็นโรคทาลาสซีเมียหรือสาเหตุอื่นเช่นเม็ดเลือดแดงกลม (spherocytosis) มาแต่กำเนิด

     ถ้าอ่านแค่เท่าที่ผลแล็บของคุณและสามีที่ให้มา ผมวินิจฉัยว่า

1. สามีเป็นโรคทาลาสซีเมียแบบมีความผิดปกติในสายเบต้า ชนิดมียีนแฝงฮีโมโกลบินอี.

2. ภรรยาไม่ได้เป็นโรคทาลาสซีเมียในสายเบต้า แต่มีเม็ดเลือดแดงเปราะมากกว่าปกติ โดยยังไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมจึงเปราะ

3. โอกาสที่จะได้ลูกผิดปกติแบบรุนแรงชนิดโรคเบต้าทาลาสซีเมียจ๊ะกับฮีโมโกลบินอี. (beta thalassemia hemoglobin E disease) ไม่มี เพราะยีนเบต้าของภรรยาปกติ

4. โอกาสที่จะได้ลูกผิดปกติทางสายอัลฟาแบบรุนแรงชนิดถึงตาย (thalassemia major) และชนิดฮีโมโกลบินเอ็ช.  (HbH) ยังมีโอกาสอยู่ เพราะยังไม่มีข้อมูลยีนทางสายอัลฟ่าของทั้งสองฝ่ายเลย

     สรุปว่าการตรวจที่ทำไปแล้วนั้นทำไปแค่ครึ่งเดียวคือสายเบต้า ต้องตรวจต่ออีกครึ่งหนึ่ง คือสายอัลฟ่า ซึ่งปัจจุบันใช้วิธีตรวจยีนโดยตรง (PCR)

     ถามว่าทำไมเมื่อแพทย์ตรวจคัดกรองทาลาสซีเมียก่อนแต่งงานจึงไม่ตรวจเสียทีเดียวให้ครบทั้งสายเบต้าและสายอัลฟ่า หิ..หิ ตอบว่า เออ แล้วหมอสันต์จะรู้ไหมเนี่ยว่าทำไม รู้แต่ว่าในวิชาแพทย์อันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ไม่มีแพทย์คนไหนรอบรู้ไปหมดทุกเรื่องทุกซอกทุกมุมหรอกครับ ดังนั้นจึงมีแพทย์จำนวนหนึ่งอาจไม่รู้ว่าการตรวจ Hemoglobin typing นั้นคัดกรองได้แต่ทาลาสซีเมียสายเบต้า และอีกจำนวนอาจไม่รู้ว่าปัจจุบันมีวิธีตรวจ PCR เพื่อคัดกรองโรคทางสายอัลฟ่าได้แล้ว ดังนั้นในกรณีที่คุณเห็นแพทย์นิ่งหรือไม่พูดถึง คุณก็ถามท่านสิครับ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

ทะเลาะกันเรื่องฝุ่น PM 2.5 บ้าจี้ เพ้อเจ้อ หรือว่าไม่รับผิดชอบ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

แจ้งข่าวด่วน หมอสันต์ตัวปลอมกำลังระบาดหนัก

เลิกเสียทีได้ไหม ชีวิตที่ต้องมีอะไรมาจ่อคิวต่อรอให้ทำอยู่ตลอดเวลา

ไปเที่ยวเมืองจีนขึ้นที่สูงแล้วกลับมาป่วยยาว (โรค HAPE)

หมอสันต์สวัสดีปีใหม่ 2568 / 2025

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

"ลู่ความสุข" กับ "ลู่เงิน"